
Description:
Discipline is Janet's tenth studio album. It was recorded in North Miami, Florida, and is co-produced by Antonio "L.A." Reid , NE-Yo and Jermaine Dupri.
Like all Janets records, Discipline has autobiographical roots and in some way reflects stories in her life.
The Collectors Edition is a 6 panel softpack, special paper (shiny metallic cover), CD+DVD, booklet. The DVD features a 30 minute documentary The Making of Discipline, footage from rehearsals, a photo shoot and in the studio section along with behind the scenes footage from the filming of the clip for Feedback.
Track Listing: Disk 1
1. I.D. (Interlude)
2. Feedback
3. Luv
4. Spinnin
5. Rollercoaster
6. Bathroom Break
7. Rock With U
8. 2Nite
9. Can't B Good
10. 4 Words
11. Never Letchu Go
12. Truth Or Dare
13. Greatest X
14. Good Morning Janet
15. So Much Betta
16. Play Selection (Interlude)
17. The 1 (Featuring Missy Elliott)
18. What's Ur Name
19. The Meaning
20. Discipline
21. Back
22. Curtains
23. Let Me Know (Bonus)
Disk 2
1. The Photo Shoot
2. The Recording Studio
3. Rehearsal
4. The Making Of The "Feedback" Video With Credits
5. Feedback Video With Credits

เกริ่นนำ เอ่อ คงไม่ต้องแนะนำนะว่าน้าเจเน็ท แจ็คสันน่ะเป็นใครที่ไหน ส้รางสรรค์อะไรไว้ให้กับวงการบ้าง เธอทำอะไรดีๆเป็นประวัติศาสตร์หน้าแรกๆของวงการดนตรีทั่วโลกมากมายแค่ไหน เราคงไม่มานั่งสาธยายเล่าอ้างข้อมูล สถิติและสารพัดคำสรรเสริญที่ต่างหลากสถาบันยกย่องและขึ้นทำเนียบศิลปินหญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในช่วงยุค 90 ควงคี่มากับนางมารายห์ แครี่ย์ เจ๊แม่มาดอนน่า พอลล่า อับดุลล์ ซินดี้ย์ ลูเพอร์ และ ทอรี่ย์ อามอส เธอเป็นคนส้รางแนวทางใหม่ๆของดนตรีเออร์บัน มิวสิคให้ก้าวไกลไปกว่าดนตรีเมน สตรีม ริมถนน และเพลงเต้นรำปาหี่ให้กลายเป็นของสูงส่งเฉียดฟ้า ด้วยการยกระดับให้มันกลายเป็นอเดาท์ อคมเทมโพรารี่ย์ และสโลว แจมบวกกับดนตรีแนวใหม่ในสมัยนั้นอย่างดาวน์ เทมโพและอาร์แอนด์บี บัลลาดที่เธอและโพรดิวซ์เซอร์คู่บุญอย่าง Rodney Jergins กับ Terry Lewis เป็นคนช่วยกันปลุกปั้นจนเพลงแนวที่ว่ากลายมาเป็นเพลงในกระแสเพลงฮิตและเพลงตำนาน 2 เพลงเก่งอย่าง I Get Lonely กับ That The Way Love Goesก็เข้าขั้นคลาสสิคไปแล้วในโลกดนตรีและตัวอัลบั้มของเธอในช่วงที่กำลังเป็นพีค ไพรม์ไทม์ก็ติดอยู่ในหนึ่งอัลบั้มเออร์บัน มิวสิคยอดเยี่ยมตลอดการคุ่กับพี่ชายของทั้ง NME (ที่ลิสต์โหดมาก แต่เธอได้ถึงอันดับที่ 4) และ Rolling Stone กับ VIBE ที่อันหลังสุดเธอได้ถึงอันดับ 2 ส่วนของ RS อันนี้ตัวผู้เขียนไม่แน่ใจว่าได้ที่เท่าไหร่ แต่ติด top 10 แน่นอน ซึ่งหลังจากเจ็บตัวไปกับการเปิดนมหนองโพโชว์ในรายการ Super Bow คู่นายหยอยและการปิดอนาคตสถิติจบชีวิตในวงการตัวเองทั้งหลายกับอัลบั้มสุดน่าสงสารอย่าง Damita Jo (ที่ตัวเพลงอยู่ในเกณฑ์ดีถึงพอใช้แต่กลับเจ๊งเพราะนมดำๆเท่าหัวจัสติน) และ 20 Y.O.(ที่เพลงในอัลบั้มนี้ห่วยจริงๆยก Take Care , Love 2 Love และ Enjoy ไว้ 3 เพลง)เธอก็พร้อมกลับมายืดอเปิดหัวจั่วตำนานดนตรี กับการแก้ตัวใหม่กับอัลบั้มล่าสุดที่ทุกเสียงวิจารณ์และเสียงตอบรับออกมาดีตามคาดเป็นเอกฉันท์ไม่สองฝักสองฝ่ายเหมือนที่ผ่านมาสองอัลบั้มที่ว่านั่น และนี่คือ Discipline อัลบั้มใหม่ของ Janet Jackson

รูปแบบดนตรี พ็อพ แดนซ์ อาร์แอนด์บี ฮิพฮอพ มาผสมกับดนตรีเต้นรำอย่างแทร๊นซ์ อิเล็คโทรนิค ฟังค์ไปจนถึงกลิ่นอายของดนตรีเรโทรดิสโก้ต้นยุค 60 ถึงปลายๆ70 และหยอดลูกเล่นทั้งเสียงประสาน ซินเธอร์ไซเซอร์ เสียงสังเคราะห์ บีทบ๊อกซ์ และซาวด์เด่นเด้งนำสมัยล้ำเลิศมาผนวกเข้ากับแซมเพิ่ลและรูปแบบดนตรีที่เป็นแรงบันดาลใจของตัวอัลบั้มเข้ากับดนตรีย้อนยุคแบบพอดีๆ นำทัพร่วมขบวนชวนก๊วนมาเข็นให่ช่วยกลับไปสู่จุดสูงสุดในวงการอาชีพศิลปินตลอด 20 กว่าปีนี้ด้วยเจ้าพ่อโพรดิวซ์เซอร์เออร์บันมิวสิคหัวหอกเดนตายอย่าง Terry Lewisและ Rodney Jergin นาย Darkchild แห่ง Def Jam และสามีสุดที่รัก J.D. กับบรรดามือทองของวงการอื่นๆทั้งเก่าลายครามและพวกข้าวใหม่ปลามันปะปนกันไปทั้ง Stargate และ The Dream Nash ที่มือขึ้นมากทำอะไรก็ถูกรูหูและเก๋ไปหมด Ne-Yo ที่มาช่วยครางกระเส่าเสียงยั่วฟีโรโมนเพศให้ฉีดพล่านอยุ่ในหลายๆแทร็คและเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีมากๆของอัลบั้มนี้ ยังไม่นับ Missy Elliot กับ R.Kelly ที่เหมือนมาผิดงานไปหน่อยแต่ก็ช่วยส้รางสีสันให้อัลบั้มขึ้นมาไม่ให้กรานด์ลงไปมากนัก ไม่มีหลุดคอนเเส็พอัลบั้มและหลุดธีมหลักๆออกไปมากเท่าไหร่ อัลบั้มนี้ถือเป็นการกลับมาที่สมศักดิ์ศรี Janet ที่สุดแล้วหลังจาก 2อัลบั้มดาวดับสุดหดหู่ Damita Jo และ 20 Y.O. ทั้งๆที่2อัลบั้มนั้นตัวเพลงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก แต่ออกจะซ้ำซากและน้อย(ในแง่ของความแรงในตัวเพลง)มากไปเท่านั้น

ยีนส์เด่น แค่นี่เป็นอัลบั้มใหม่ลำดับล่าสุดที่พร้อมส่ง Janet สุดๆ แค่นั้นก็เด่นและเรียกร้องความสนใจจากหลายๆคนได้แล้ว อีกทั้งในแง่ของโพรดัคชั่น เนื้อหาที่นำเสนอเรื่องเซ็กซ์และเพศรสอย่างมีชั้นเชิงน่าสนใจ ตลอดจนคอนเเส็พอัลบั้มที่เป็นเหมือนภาพยนตร์Sci-Fiดีๆซักเรื่องที่ทุกแทร็คทุกๆพรีลู๊ด อินเทอร์ลู๊ดและ Skit กับ Dead Air ต่อเนื่องร้อยเรียงกันออกมาเป็นเรื่องราวหนึ่งเดียวทั้งภาคดนตรี ลูกเล่นรายละเอียดทั้งหมดที่ถูกใส่เข้ามาอย่างเหมาะเจาะพอดีไม่มีมากไปน้อยไป ฟังอัลบั้มนี้จบเราจะรู้สึกได้เลยถึงความปาณีตและเจตนารมณ์อันดีความตั้งใจทั้งหมดของคนทำ และนี่เป็นอัลบั้มอาร์แอนด์บี แท้ๆจริงๆในตลาดเพลงพ็อพที่ฟังได้ทุกเพลงไม่ต้อิงมีกดข้ามผ่านๆไปในเพลงเหนื่อยๆที่ดนตรีกลวงโบ๋และใช้โพรแกรมมิ่งเสร่อๆแปะเข้ากับตัวโน้ตบังคับบีทตึกตักแบบพวกเพลงบอยแบนด์ เกาหลีหน้าเงือกทั้งหลายและพยายามให้ฟังเพราะง่ายๆ ติดหูแบบเพลงอาร์แอนด์บีงี่เง่าไร้สติปัญญาที่ร้องวนไปวนมาแค่ไม่กี่ท่อนในตลาดสดปัจจุบัน อย่างที่มีเรื่องเล่าว่ามีผู้หญิงสองคนไปนั่งกินข้าวภัตตาคารหรูร้านหนึ่งพานอาหารมาวางแหม่ะ พวกเธอก็กินกันไปคุยกันไป จนฝ่ายนึงเผลออุทานขึ้นมาว่า ต๊ายยรสชาติห่วยจัง เห็นร้านหรูๆบริการดีๆ นึกว่าจะได้เรื่อง ชาติไพร่ พาลอีกหนึ่งเพื่อนสาวก็ต่อยอดจบหลักสูตรว่า แถมยังไม่มีคุณค่าไม่มีประโยชน์อะไรกับร่างกายด้วยนะยะ หร่อน นั่นแหล่ะคือตลาดเพลงพ็อพ เค พ็อพ เจ พ็อพ และ ไทยแลนด์พ็อพ ที่ฮิพฮอพ อาร์แอนด์บีเงือกๆลาวๆห่วยๆแย่ๆครองเมืองครองใจเด็กกามิกาเซ่วัยรุ่นปัจจุบัน

ยีนส์ด้อย ไม่อิ่ม รู้สึกความพอดีที่ว่าไปมันยังน้อยไปนิด เพลงรวมๆที่เป็นแทร็คจริงๆมีแค่ 12 13เพลงเท่านั้น แถมยังดูเหมือนกั๊กๆ อึดอัดไม่เป็นธรรมชาติและอิสระเท่าอัลบั้มมาสเตอร์พีซและอัลบั้มก่อนๆ จะนับกระทั่ง 2 อัลบั้มดับสถิติ 2 อัลบั้มนั้น ตัวเพลงก็ยังดูเต็มร้อยมากกว่า อีกทั้งเรื่องเนื้อหาที่เธอกลับมาพูดถึงเรื่องอย่างว่าเกือบทั้งอัลบั้มทั้งๆที่มันน่าจะมีแง่มุมที่น่าสนใจหลายอย่างให้พูดให้เล่า อย่างใน FS/LS ของJustin ถือเป็นอัลบั้มที่สมบูรณ์มากในแง่เอกภาพและการนำเสนอ ทั้งเนื้อหาที่หลากหลายและดนตรีที่ครอบคลุมเมน สตรีมไปทั่วทุกแนวเป็นการลงตัวในแง่การขายและการต้อนรับจากนักฟังเพลงจริงๆที่เน้นเพลงฟังมากกว่าเพลงเต้นเพลงฮิต

เพลงน่าสนใจ เลิศทุกเพลง เพลงไหนไม่เลิศพอฟังไปฟังมาประกอบกับเพลงอื่นๆที่ทอดกันไปในอัลบั้มมันก็ช่วยรับส่งกันได้อย่างเต็มหน้าที่ของมันเองในทุกเพลง เริ่มต้นมาตั้งแต่อินโทรที่เธอเข้าไปsing in โดย ID Card กับโพรแกรมหุ่นยนต์ที่ชื่อ คิวโกะ ใน I.D. แล้วต่อมาด้วย Dead Air กับ Feedback (3.5/5)ที่เป็นอาร์แอนด๊บีฮิพฮอพฟังค์อัพบีทกระฉึกกระฉักเคล้าเสียงสังเคราะห์ ฟิ้วฟ้าว กับโพรแกรมมิ่งแบบตั้งใจทำไม่ใช่สักแต่ว่าใส่ๆลงไป ทั้งลูกเล่นของบีท บ๊อกซ์ ซินธ์และคอรัสแพรวพราวคึกคักเหมาะสำหรับเปิดอัลบั้มและแรงพอที่จะเป็นซิงเกิ้ลแรกอย่างไม่มีข้อกังขา ขอบอกไว้เลยว่าในบรรดาเพลงเปิดตัวของ 3 ดิว่าในศึกชิงบังค์ ซิงเกิ้ลแรกของทั้งเจ๊แม่ นังมาลัยและเจน็ทเพลงนี้ของเจเน็ทเป็นเพลงที่ดีที่สุดในบรรดา3มหาประลัย ถัดมากับ Luv (Jukebox) (3/5)เทคโนอาร์แอนด์บีทันสมัยและติดหูหนึบสุดๆ ทั้งซาวด์แคลช ซินธ์และฮิวเมนท์จู๊ฟบ๊อกและบีทบ๊อกซ์บวกเข้ากับท่อนคอรัสหวานๆทำให้นึกถึง My Love ของ Justin ขึ้นมาตะหงิดๆ ถัดมาก็เป็นสคิทสั้นๆ Spinninและเข้า Rollercoaster (4/5) ที่เป็นการปลุกฟื้นคืนชีพ Off The Wall ของพี่ชายสุดที่รัก ป๋าไมเคิลด้วยเพอร์เคสชั่นและบีทบ๊อกซ์กระเส่าเร่าร้องชวนเสียวเข้ากับแบ๊คกราวนด์บีทเจือจางของเสียงสังเคราะห์และเครื่องสายน้อยชิ้น แถมเพลงนี้น่าเจเน็ทยังโชว์ลูกเล่นของเสียงร้องแบบนางมาลัยที่โหนไปมาอย่างกับนั่งรถไฟเหาะสมกะชื่อเพลงก็ไม่ปาน แต่ไม่ปลื้มเท่าไหร่นะ เสียงชีพาลให้ลุ้นมากว่าจะรอดไม่รอด แต่ก็รอดนะ และเป็นหนึ่งในเพลงที่ดีและเข้าท่าที่สุดในอัลบั้ม (แต่ยังมิใช่เพลงที่เลิศที่สุดนะยะ) เห็นไหมละ ว่ามนต์ขลังของDarkchild น่ะยังไม่ตายง่ายๆหรอกค่ะ อัลบั้ม E=MC2 ของนังมาลัย Darkchild ยังไปปั๊มเพลงให้อีหมีตั้งเพลงนึงด้วยน่ะค่ะนั่น สานต่ออารมณ์ร่วมเพศสุดสยิวด้วย Rockwitchu (3.5/5) อิเลคโทรอาร์แอนด์บีผสมแทรนซ์ลอยๆที่ลูกเล่นของคอรัสแพรวพราวเด่นเกินหน้าเกินตาดนตรีโดยเฉพาะเสียงกระซิบกระซาบตลอดทั้งเพลงของเจเน็ทนั่นเซ็กซ์ซี่ย์ชวนเกิดอารมณ์จุดสุดยอดมากๆ ต่อด้วยไฮไลท์ของอัลบั้ม 2nite (3/5) อาร์แอนด์บีดิสโก้กลิ่นเรโทรรุนเเรงเคล้าเสียงซินธ์ฟังค์และเครื่องสังเคราะห์กับเฟธไลน์น่ารักๆเคลียคลอไปตลอดทั้งเพลง ท่อนไบรจ์ที่เจเน็ททำเสียงกระเส่าร้องซึ๊ดดซ๊าดคลอไปกับบีทลูพสั่นระทึกนั่นชวนบ้าผู้ชายมากค่ะ กระชากอารมณ์และเสื้อผ้าต่อด้วย Cant B Good (3.5/5)ดาวน์เทมโพมินิมัลลิสท์ เบสและลูพกับเสียงประสานหวานๆวาบหวามชวนคิดลึกและไปทำอย่างอื่นกันดีกว่าอย่าฟังเพลงเลยน่ะค่ะ มากๆ Never Letchu Go (2.5/5) กับ Greatese X (3/5) 2 บัลลาดอาร์แอนด์บีกะขายที่ทั้งเพราะและค่อนข้างเป็นภาพจำไปแล้วสำหรับเจเน็ทไม่แปลกที่ในอัลบั้มจะมีเพลงแบบนี้บ้าง ส่วนตัวชอบ Greatest X มากกว่า เพลงแรกด้วยลูกเล่นของดนตรีและการเรียบเรียงของคำร้องทำนองเเละเครื่องดนตรี ของเพลงแรกเน้นกีต้าร์ไฟฟ้าและพยายามจะร้องแบบโซลในของจีนูไวทน์ซึ่งง่วงและน่าเบื่อมาก ส่วนเพลงหลังเน้นเครื่องสายอ่อนๆและเพียโนกับเสียงไลน์ของโพรแกรมมิ่งแบบมีระดับเพราะแบบไม่ใช่เดาท่อนต่อไปออกอย่างเพลงแรก

ต่อส่วนที่สองที่เป็น Second Part ของอัลับ้มกับ
Good Morning Janet และ เดธแอร์พรีลู๊ดต่อเข้าเพลง So Much Beeta (3.5/5)นี่เปรี้ยวมาก ด้วยการที่มันเป็นพรีลู๊ดที่ต่อกันแบบเข้าทางทั้งดนตรีและเป็นการพูดตอบรับกันระหว่างตัว เคียวโกะ โพรแกรมหุ่นยนต์กับเจเน็ท ที่ผนวกเข้ามาเป็นเพลงที่มีเสียงร้องบิดเบี้ยวของโพรแกรมคอมพิวเตอร์ร้องรับส่งกับเจเน็ทในดนตรีอิเล็คโทรนิคอาร์แอนด์บีกลิ่นยูโรแดนซ์เท่ห์ๆ ที่น่าเสียดายที่ทำออกมาสั้นๆแค่ 2 นาทีกว่าๆ ทำไมเพลงเริ่ดๆแบบนี้ไม่ล่อเข้าไป 4 5 นาทีเหมือนอีพวกเพลงบัลลาดน่าเบื่อๆนั่นวะ อีป้ามิซซี่ โอ่งมังกรควงน้าเจเน็ทมากับ The 1 (3/5) ฮิพฮอพ อาร์แอนด์บีร้อนๆกับเพอร์เคสชั่นระนาวกราวเนิบนาบเคล้าเครื่องเคราดนตรีสดทั้งเบส เครื่องดีดสีตีเป่าและฟัลเซ็ทโท ก็เป็นเพลงที่ฟังได้เรื่อยๆดีแต่หากมีรีมิกซ์เพลงนี้และถ้ากล้าตัด มีสิทธืฟลุ๊คดังไม่รู้เรื่องได้เลยเหมือนกันนะเนี่ย Whats Ur Name (2) แทร็คสั้นๆเนิบๆง่อยๆเป็นชิลล์อาร์แอนด์บีเย็นๆหยาบๆก็เรื่อยๆเปื่อย(ออกแนวโคตรน่าเบื่อด้วยซ้ำ)อีกเหมือนกัน และแล้วก็เข้าสู่ช่วงจุดสุดยอดเพลงที่ดีที่สุดในอัลบั้มเหมาะมากที่จะเอามาตั้งชื่อ Title Track , The Meaning Discipline (5/5) ที่เนื้อหาติดเรทและต้องขึ้นตอนฟังว่า 18ทันทีทั้งลีลาการร้องและคอรัสประสานกับนีโย่ที่แทบจะฟังเหมือนคนกำลังร่วมทำ Make Love กันอยู่ก็ไม่ปาน ตัวดนตรีก็เนิบนาบวาบหวามสไตล์เจเน็ทนั่นแหล่ะ แต่มันยิ่งโป๊มากขึ้นไปอีกด้วยฝีมือนีโย่ ที่ทั้งบีทลูพ ไลน์โพรแกรมมิ่งและซินธ์ในแบบสโลวแจมจนเกลื้อจะเป็นคูล ดาวน์อยู่รอมร่อ เสียงคีย์บอร์ดกับคอรัสตอนเวริ์สที่ร้อง คราง อ๊างงงงงงงงงงงงงง อู๊วววว ระวังจะทำให้คุณๆและหนูๆ กระสันและกระมิดกระเมี้ยนเขินอายขึ้นมาได้นะคะ ส่วนเสียงหอบกระเส่ากับเสียงโหยหวยตอนเฟดเอาท์ที่เธอร้องว่า You be A Teacher , Id be Your Student แล้วก็คราง ฮื๊อ ฮ๊า ซี๊ด ฮ๊อ อ๊าาาาา อ๊างงค์ เอ๊าะๆๆๆๆ อ๊า อู๊วว โอ๊วว อย่างกับถอดออกมาจากหนังโป๊ก็ไม่ปาน ระวังนะคะ เดี๋ยวจะใจแตกกันเกินวัยนะเด็กๆ เจ๊เตือนเเร๊ว หนูๆที่อายุไม่ถึง 18 โหลดมาฟังหรือซื้อมาฟังก็กดผ่านเพลงนี้ไป ซะ อย่าไปฟังนะคะ 5 5 + ส่วนคนที่อายุถึงแล้วก็ฟังมันเช้ายันเย็นเรยยยแล้วก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว นอกจากร่วมเพศกันตลอดกับแฟนทั้งวี่ทั้งวัน อ๊ายยย ส่วนคนไม่มี ก็ทำกับตัวเองไปซีค่ะ สุดท้ายกับ Curtains (4/5) ปิดอัลบั้มอย่างงดงามด้วย อาร์แอนด์บีมินิมัลลิสท์เคล้าเครื่องเป่าสไตล์เพียวโซลบัลลาดกรีดกรายหรูหรามีระดับและกีต้าร์เบสซินธ์ ไลน์ลูพสวยๆย้อยๆและเสียงประสานตอนอินโทรและเฟด เอาท์ที่เพราะสุดใจขาดดิ้นการเรียบเรียงสุดเพอร์เฟ็คของNe-YoกับDarkchildบวกเข้ากับเนื้อหาดีๆตัดพ้อและให้กำลังใจเล็กๆและเป็นการอุทิศให้กับแฟนๆของเธอที่ตามซัพพอร์ทกันมาตั้งแต่นมยังไม่แตกพาน จนปัจจุบันนมแทบรองพานได้ เป็นเพลงที่ตัวเจ๊ชอบมากที่สุดในอัลบั้ม เสียงร้องของเจเน็ทในเพลงนี้ก็ถ่ายถอดออกมาได้ซาบซึ้งไร้ที่ติ ใครที่บอกว่าน้าเจเน็ทร้องเพลงไม่เป็น จะสำเหนียกได้จากหลายๆแทร็คในอัลบั้มนี้ที่เธอวางใจร้อง ถอดใจใส่ ชนิดที่เล่นเอาน้ำตาซึมอยู่หลายแทร็ค ส่วนเพลงสนุกๆไม่ต้องพูดถึงเธอทำได้ดีเสมอๆอยู่แล้วกับเสียงกระซิบกระซาบพึมพัมง้องเเง้งออดอ้อนตอแหลดัดจริตมารยาสาไถยทั้งหลายเเหล่ที่นางมาลัยจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่มีทางเซ็กซี่ย์ได้เท่า มาคอยลุ้นกันว่าอัลบั้มสูตรระเบิดปรมณูของไอ- สไตน์ล่าสุดจากนางมาลัย จะออกมาเลิศหรือทุเรศแค่ไหน และจะออกมาดีเท่าอัลบั้ม ระเบียบรัตน์ ของเจเน็ทรึไม่ แล้วเจ๊แม่กับอัลบั้มฮิพฮอพจะรอดไหม เราจะมาคอยติดตามกันในอีก 2 เดือนต่อจากนี้

เพลงน่าละเหี่ยใจ ก็ไม่มีนะ ไม่มีเพลงอุบาวท์ชาติน่าอ้วก จะมีก็แค่เพลงง่วงๆซาวด์วนไปวนมาย่ำอยู่ซ้ำๆกับบีทเดิมๆน่าเบื่อๆอยู่ 2 แทร็คแค่นั้น นอกนั้นเลิศและพอใช้ได้หมด แต่มีแค่สงสัยว่าทำไม Let Me Know ที่เป็นโบนัสแทร็คกับ B.I.T.C.H. (Betcha Impatient to Crunk Her Like That) เพลงแรกเป็นอาร์แอนด์บี สโลวแจมอัพบีทลอยๆกับเสียงสังเคราะห์ใสๆกับเนื้อหายั่วยวนพอหอมปากหอมคอแบบน่ารักๆ เพลงหลังก็เป็นดาวน์เทมโพเพราะๆบีทลูพไลน์เพลงสวยมากเหมือน Feel like a Woman ของป้า MJB เลยนะฟังเพลินเอาการ แต่บางฝรั่งมันก็บอกว่าอีเพลง หลังเนี่ยเป็นโบนัสแถมในซิงเกิ้ล Wit U จากอัลบั้มดับ อนาถที่แล้วแต่เพลงนี้ก็มีชื่ออยู่ในคอนเฟริ์มแทร็คตอนอัลบั้มใกล้คลอด 2 3 อาทิตย์และหลังจากนั้นก็หายไปเลยยย ! ก็เลยแอบหงุดหงิดว่าทำไมถึงไม่เอาใส่เข้ามาในอัลบั้มไปเลย(วะ) ทั้งๆที่ตัวเพลงและเนื้อหาก็ไม่เห็นโดดและพิเรนท์ ต่างไม่เข้าพวกกะเพลงอื่นๆในอัลบั้มตรงไหน ก็ดูไปกันได้ดี แถมตัวเพลงจริงๆทั้ง 2 เพลงยังดูดีมีภาษีมีระดับน่าฟังกว่าบางเพลงในอัลบั้มจริงๆซะอีกนะนั่น แล้วถ้าข้ออ้างที่ว่าเพลงเยอะล้นแล้ววว หรือเพลงแถมๆตามซิงเกิ้ลจะเอามาใส่ในอัลบั้มทำไม อย่าเอามาอ้างนะอีบ้า ฟังไม่ขึ้นมากๆ กะอีกแค่เพลง 2 เพลงมันจะตายเจ๊ง ขาดทุนมากรึไงค่ะ อารมณ์เสียสุดฤทธิ์ แล้วถ้าเพลงมันดีแล้วคนวงกว้างไม่มีโอกาสได้ฟัง เอามารวมในอัลบั้มเต็มที่วางขายทั่วๆไปให้คนเค้าได้ฟังกันเยอะๆ จะตายห่าเหรอ แถมเพลงหายาก Rare Song ที่ว่ายังเพราะเริ่ดกว่าทุกเพลงใน 20 Y.O. ทั้งหมดเรยด้วยซ้ำ อีป้าเมาไวอากร้าเหอรไงวะ ??

อัลบั้มนี้เหมาะสำหรับ แฟนขาประจำแฟน Janet อันนี้แน่นอน แต่ถ้าใครเป็นขาจรหรือคอ อาร์แอนด์บี แท้ๆก็น่าจะปลื้มอัลบั้มนี้ได้ไม่ยากเหมือนกัน (แต่พวกที่ชอบอาร์แอนด์บีแบบSmash Hit ขอเชิญไปฟัง Vanessa Hedเ แทนนะคะ นามสกุลหร่อนเขียนถูกผิดเดี๊ยนก็ไม่สนใจจะรับผิดหรอกค่ะ) อนึ่งถ้าชอบเพลงเต้นรำก็พอกล้อมแกล้มฟังได้ เพราะซาวด์ในหลายๆเพลงก็เตะหูหาเรื่องอยู่ แต่ถ้าชอบฮิพฮอพหรือชอบฟังเพลงตลาดๆตามชาร์ทก็บอกผ่านไปเถอะ ไปตามฟังนังมารายห์และเจ๊แม่ที่กะลังจะออกตามมาทีหลังดีกว่า ได้ข่าวมาว่าสองป้าจะเต้นเบรคแดนซ์และขนเอากราฟิตี้ บีบอยเอ็มซี ดิว่าห่าเหวมา Wott sappp Yoww Whoaaa กันทะลักจอทีวีกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะนังมารร้ายที่ผอมเพรียวสมใจsheซะจนหลายๆคนกลัวว่าแม่จะแก้ผ้าร้องเพลงซะให้รู้แล้วรูรอดไปเลย เออ ลีมส่วนพวกขาร็อค ขาเดฟนี่บอกปัดไปเลยนะคะ เพราะเพลงแบบในอัลบั้มนี้มันคนล่ะจริตกับอีพวกฟังเพลงตามนักวิจารณ์กับอัลบั้มเพลงวงโลกอเวจีและพวกนอกกระแสที่กำลังเป็นหนึ่งในกระแส POP CULTURE ไปแล้ว พวกไหนน่ะเหรอก็แบบพวกเอ็งน่ะแหล่ะค่ะ ส่วนเดี๊ยนเชิ่ดๆเริ่ดๆฮ่ะ
_________________

