คิดถึงกันมั่งม๊ายยยยยย เพื่อน เพื่อนนนนน...
แหม่... คันไม้คันมืออยากจะเล่าซะจริงๆ หายไปตั้งนานสองนานสามนาน
กติการของเรา ก็มีอยู่เหมือนเดิม คือว่า อย่าเอาไปเผยแพร่ กอปปี้ หรือเอาไปโพส์บอร์ดอื่น
ไม่งั้นโกรธนะ ตัวเอง
คราวที่แล้ว เล่าถึงตอนที่หนีแบบเร่งด่วนจากซานฟรานซิสโก ขึ้นเครื่องมุ่งตรงมายังไมอามี่
หึหึ
ความรู้สึกแรกที่เห็นไมอามี่จากบนเครื่อง... โอวววว กูรอดแล้ววว ในที่สุด
เราคงจะหลุดพ้นจากชะตากรรมอันเลวร้ายได้แล้ว จากนี้ไปเราก็จะมีชีวิตสนุกสนานเหมือนเด็กเวิร์คคนอื่นๆซะที
ไมอามี่นี่มันสวยยย ซะเหลือเกิน ตื่นเต้นๆๆ พอถึงพื้นดินแล้วจะเป็นยังไงน๊าา
แล้วพอถึงสนามบิน ลงเครื่อง ก็โทรหาเพื่อน(จำได้ไหม เด็กเวิร์คด้วยกันนี่แหละ
ที่จริงก็รู้จักกันไม่เท่าไหร่หรอก เจอกันตอนที่ประชุมก่อนมาอเมริกา) รอสักพัก เพื่อนสามคนคือ เอ วุฒิ และโอ่ง
ก็มารับ เพื่อนๆดีมากเลย ช่วยกันหิ้วกระเป๋าให้เรา เราก็บอกไม่ต้องๆ เกรงใจ เค้าก็บอกไม่เป็นไรๆ ถือให้นะ
ฮุฮุ ต่างกับยัยเพื่อนที่ซานฟรานราวหน้ามือกับหลังตีน เสร็จแล้วเค้าก็พาไปขึ้นรถบัสกลับบ้าน
พอออกประตูสนามบินมา โอ้โห ไมอามี่กะไทยนี่ภูมิอากาศเหมือนกันเลย
ร้อน ร้อน ร้อน ร้อนๆๆๆ เหงื่อแตกพลั่กๆ รอสักพัก รถบัสก็มา รถบัสที่นี่เขาเรียกว่า metro bus
พอขึ้นไปเราก็จะต้องหยอดตังค์ 1.5USD ก็คือแบงค์ดอลล่าร์ใบนึง แล้วก็เหรียญควอเตอร์สองเหรียญ
แล้วเราก็ไปนั่งกันข้างหลังสุดของรถด้วยสัมภาระพะรุงพะรัง บนรถมีคนดำเยอะอยู่ อยู่ซานฟรานไม่ค่อยมีคนดำนะ
พอเห็นบนรถบัสแล้วก็ตื่นเต้นวุ้ย (ประสาท) เหมือนในหนังเร๊ยยยย เอเชียหัวดำสี่คนในรถ คนดำมองกันพรึ่บ
บ้านกะสนามบินอยู่ไกลกันพอสมควร เพราะใช้เวลาบนรถบัสทั้งหมดประมาณสี่สิบนาทีได้
วุฒิกะเอขึ้นรถปุ๊บ หลับปั๊บ เราก็นั่งคุยกะโอ่งไป เล่าให้โอ่งฟังว่าทำไมถึงย้ายมา
โอ่งก็ตะลึงอยู่เหมือนกันนะ เราว่า(หุหุ)
สักพัก รถบัสก็ข้ามสะพาน ไมอามี่มีลักษณะเป็นเกาะ มีหลายๆเกาะ สนามบินกะบ้านเราจะอยู่คนละเกาะกัน
ตอนที่ข้ามสะพานนะ โอ้ว...สวยมากกก น้ำจะเป็นสีฟ้า แล้วเราก็จะเห็นเกาะอื่นๆ แล้วก็เห็นตึกสูงมากมายจากดาวน์ทาวน์
ใครเคยดู miami vice แล้วมั่ง นั่นแหละๆ ตอนที่โคลินขับรถข้ามสะพานยาวๆอ่ะนะ เหมือนกันเลย
แล้วก็จะมีบ้านมหาเศรษฐีเยอะแยะเลย บ้านพวกนี้จะอยู่บนเกาะ ติดน้ำทะเล แล้วบ้านทุกหลังก็จะสวยมาก มีเรือด้วย ทุกหลังเลย
ตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์ไมอามี่ได้สักพัก ก็มาถึงบ้าน
บ้านของเรานี้อยู่ในละแวกคนรวย สภาพแวดล้อมก็จะค่อนข้างดี พวกเราก็เดินเข้าซอยไป ในซอยนี้ก็จะมีโรงเรียนไฮสคูล
เดินผ่านโรงเรียนไปประมาณ3-5นาทีก็จะถึงบ้านของเรา
สภาพบ้าน... คือ... บ้านอยู่ในย่านคนรวยแต่บ้านเรานี้แหละโทรมสุดแล้ว 555+
แต่ก็ถือว่าบ้านค่อนข้างดี ดูข้างนอกไม่ใหญ่เท่าไหร่ เข้าไปข้างในบ้านกว๊าง กว้าง
มีสามหรือสี่ห้องนอนนี่แหละ สามห้องน้ำ มีห้องนั่งเล่น มีครัว ครัวมีเตาอบ ไมโครเวฟ เครื่องครัวทุกอย่าง พร้อม
มีสระว่ายน้ำ แต่สระมันเป็นสระมรกต คือ เขียว ไม่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ อาจมีจระเข้โผล่ขึ้นมางาบ ถึงตายได้555+
แล้วมีอันนี้ ที่ชอบมาก ก็คือ แทรมโปลิน!! กรี๊ดๆๆๆๆๆๆ
ถึงบ้านปุ๊บเพื่อนๆก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน เราก็เอาของไปเก็บในห้องนอนใหญ่ ห้องนั้นนอนกันสี่ถึงห้าคน แล้วแต่อารมณ์
ว่าใครอยากมานอนด้วยกัน
เพื่อนๆที่บ้านบอกว่า เดี๋ยววันนี้มีปาร์ตี้ต้อนรับเน็ตนะ รอเพื่อนๆคนอื่นกลับมาจากที่ทำงานก่อนนะ
เพื่อนๆที่บ้านทำงานซุปเปอร์มาร์เก็ต winn-dixie ได้เรทกันประมาณชั่วโมงละสิบกว่าเหรียญ ได้เงินดีมากๆ
น่าอิจฉา รู้งี้นะ เปลี่ยนมาที่นี่ซะตั้งแต่แรกก็ดีหรอก สม ปิงกะรุ่งชวนมาแล้วไม่มา
เพื่อนทำงานกันประมาณวันละ6-8 ชม.มั้ง ไม่แน่ใจ ก็จะกลับมาถึงบ้านกันประมาณสองทุ่มบ้าง สี่ทุ่มบ้าง
เราก็รอ ระหว่างรอ ก็กระโดดแทรมโปลิน หุหุ ชอบที่สุดเรยยยย
สักพัก เพื่อนๆก็มา นับๆดูแล้ว บ้านนี้อยู่กันสิบเอ็ดคน(รวมตัวเองแล้ว) แต่ก็อยู่กันอย่างอบอุ่น
แต่พอเพื่อนๆมาปาร์ตี้ต้อนรับก็เป็นอันว่าเป็นหมันไป เพราะแต่ละคนได้จดหมายทวงค่าเช่าบ้าน ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจ
สัญญง สัญญา อะไรเท่าไหร่ เพราะว่าเพิ่งมาถึง ก็ประมาณว่า ค่าเช่าบ้านนี้แพงกว่าที่โครงการบอกไว้มาก
และทุกคนก็ต้องจ่าย ย้ายบ้านก็ไม่ได้ เพราะประมาณว่ามีสัญญาเกี่ยวเนื่องกันระหว่างที่ทำงานกับที่บ้านและโครงการเวิร์ค
ทุกคนก็หน้าบูดและเงียบกันเป็นแถบๆ โดยเฉพาะ ตี้ หน้าหงิกเชียว เห็นแบบนี้ดิชั้นก็เรยไม่รู้จะพูดว่าอะไร
เลยไปโดดแทรมโปลินเล่น
สักพักเพื่อนๆก็มาขอโทษ เค้าบอกว่าเราเพิ่งมาถึงก็มาเจอเรื่องเครียด สำหรับเราไม่เป็นไรอยู่แร๊ว เข้าใจทุกคนเป็นอย่างดี
สักพักเพื่อนๆก็มาสัมภาษณ์ชีวิตที่ซานฟราน เล่าให้ฟังแล้วอึ้งกันเป็นแถบๆ แต่พอมาเล่าตอนนี้แล้วก็ขำแฮะ
แต่ตอนที่เจอเนี่ย ไม่ขำเลย
เพื่อนๆแซวว่า หวิดเป็นเมียลาวแล้วมั๊ยล่า โดนชวนไปดูเสือในป่า ฮ่าๆๆๆ หลังจากนั้นก็โดนแซวเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ
หลังจากนั้นทุกคนก็เข้านอน แล้วเพื่อนๆก็สัญญาว่าแต่ละคน เมื่อมีวันออฟก็จะชวนเราไปเที่ยว ชมเมือง และไปหางาน เพื่อนๆดีมากๆเลย
หลังจากนั้นก็เป็นอันเครียดแล้ว เนื่องจาก งานหาไม่ง่ายอย่างที่คิด ติดป้ายhiringเยอะก็จริง แต่ว่า เค้าก็ไม่ค่อยรับคนเอเชียหัวดำ
เครียดละครับ งานนี้ เงินก็ร่อยหรอลงทุกวี่ทุกวัน ทำไงดีล่ะ ตู
อ้อ จะพูดถึงเรื่องคนที่นี่กับสาวเอเชียหน่อย คริคริ
บอกไปแล้วว่าสำหรับคนที่นี่ สาวเอเชียนี่แหละ ฮอต อยู่ซานฟรานก็โดนแซวอยู่บ่อยๆ แต่ที่นี่บ่อยกว่า(!)
แต่ไมอามี่นี้ โดยเฉพาะ south beach ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ crazy เพราะฉะนั้นก็จะมีแต่คนบ้าๆ
คนบางคนก็มองแล้วยิ้มเฉยๆ แต่อีพวกสวะก็มีอยู่เยอะ เคยเดินกันเพื่อนแล้วมีลุงคนหนึ่ง แก่แล้วทำตัวน่าขยะแขยง อุบาทว์สัตว์
ปั่นจักรยานตามแล้วก็ตะโกนไล่หลังมาว่า "ไปนอนด้วยกันมั้ยคนสวย ไปด้วยกันนะ ชั้นให้เงินเธอเป็นล้านเลย"
โธ่เอ๊ย พูดจาระวังปากบ้างเถอะลุง เดี๋ยวถีบให้น้ำหมากกระเด็น ไอ้สัด ถ้ามีเงินเป็นล้านมึงก็คงไม่ปั่นจักรยานหรอก ไอ้เลว
แต่เรื่องของเรื่องก็คือ อายคนว่ะ คนหันมามองเต็มเลย เพราะมันไม่ได้พูดจบแล้วไป แต่แม่งตามอยู่นั่นแหละ ตะโกนย้ำไปย้ำมา
เวรตะไลจริง จริ๊งงงง lincoln road คนเป็นแสน คนหันมามองเรากันหมดเลย
เป็นเรื่องที่คิดแล้วยังโมโหอยู่ถึงทุกวันนี้
แล้วก็บางทีรอรถอยู่กับเพื่อน ก็จะมีคนดำ ขับรถเปิดเพลงดังๆ(เหมือนในมิวสิควีดีโอเลยอ่ะ) ขับมาจอดแล้วมันก็จะพากันพูดว่า
"DAMNN" แล้วก็ทำท่าฮิปฮอปๆ สไตล์คนดำอ่ะนะ จินตนาการออกกันใช่ป่ะ แล้วมันก็ไป ก็ตลกดี
เคยเดินเข้าซอยที่บ้าน ผ่านโรงเรียนนั้น แล้วถนนมันจะติดกับสนามฟุตบอล เคยบอกไปแล้วว่าตัวข้าเจ้าเองนั้น
ชอบเด็กไฮสคูลฝรั่งเป็นที่สุด ว่ะฮ่ะๆๆๆๆ คิดดูซิ เด็กฝรั่ง(หุ่นดีมาก น่าร๊าาากกก)ถอดเสื้อ เล่นบอลกันเป็นฝูงเรยยย
โอ้วววว สุดยอดมากๆ พูดไปแล้วจะหาว่าแอบจิต หุหุ แต่ช่วยไม่ได้ค่าา ชอบจริงๆๆๆ แร๊วพอเดินผ่าน อีเด็กหล่อคนนั้น
ก็หันมาเป่าปากแซว กรี๊ดดดด แทบจะถลาเข้าไปกอดดดดดด โอ้ว สงบสติอารมณ์ไว้ๆ ก็ได้แต่ยิ้มแล้วก็โบกมือให้มัน
มันโบกมือตอบอีกแน่ะ จะเป็นลมมมม เพื่อนบอก เน็ต ใจเย็นเน็ต อย่ากินเด็ก ปล่อยมันๆ 555+
เรื่องหนุ่มที่นี่กับสาวเอเชียนี้ ยังมีต่อ ขยายความได้อีกเยอะ โปรดติดตาม ฮิฮิ
แต่ตอนนี้เรื่องงานนี่สิ อร๊ายยย ไม่ได้นะ เงินมีไม่ถึงห้าร้อยเหรียญ เสียเวลาที่ซานฟรานมาก็เป็นเดือนแล้ว
ชั้นไม่ได้อะไรซักกะอย่าง กำรงกำไร ว่าจะเอาตังค์ไปคืนแม่ จะได้มั้ยเนี่ย
รู้สึกกังวลอย่างรุนแรง ถึงขั้นว่า ผอมลงจนเพื่อนๆทัก เตะฝุ่นอยู่อาทิตย์ก่าๆ
ก็ไปสมัครร้านญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ชื่อร้านMoshi Moshi
เอาแค่นี้ก่อนละกัน ยาวมาก คนพิมพ์ไม่เป็นไร เดี๋ยวคนอ่านจะเป็นลมซะก่อน
คอยดูเรทติ้งดีกว่า แล้วเดี๋ยวมาโพสท์ต่อ
เอ้าเพื่อนๆว่าไงกันม่างงงงง.....
_________________
