ไลฟ์นี้ มารายห์ร้องได้สุดยอด สมกับ ได้รางวัลมากๆ ถึง แม้เจ๊แกจะถูกเปรียบกับป้าวิทมากในช่วงนั้น แต่ด้วย ความมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองจึงสร้างฐานแฟนเพลงได้ไม่ยาก
เพลง Vision Of Love ว่ากันว่าเป็นเพลงบัลลาดที่เกิดจาความไม่ตั้งใจ ซึ่งตอนแรกๆ มาราหย์เขียนเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อ อยากให้เป็นไปในแนว R&B แต่เพราะ ตาทอมมี่และทางค่ายต้องการจะเจาะตลาดกลุ่มผู้ฟังมากกว่า ที่จะสร้างแนวเพลงใหม่ให้นักร้องใหม่ จึงได้มาในฉบับ เพลงบัลลาด และเพลงนี้ ก็เป็นเพลง ที่ขึ้นอับดับหนึ่งบิลบอร์ด เพลงแรก ของชีวิตมารายห์
ไปครั้ง นี้ มารายห์ กวาดแกรมมี่กลับบ้าน มาสอง ตัว ในสาขา
1.รางวัลศิลปินป็อปฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม
2.ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม
พลังเสียงเกินพลังเสียง หวีดเป็นหวีด ใครที่ไม่เคยเห็นมารายห์ร้องเพลงช่วงอัลบั้มแรก ก็ดูได้เลยครับ เพราะไลฟ์พวกนี้ค่อนข้างหายาก
แต่ข้อเสียในไลฟ์นี้ คือ มารายห์ร้องเพลง ขาดอารมณ์เกินไป ทำให้เพลงดูทื่อๆ ซึ่งมันเหมือนเป็นการโชว์พาวมากกว่าจะให้มันเพราะ
อันที่2
If it's over Live Grammy Awrad 1992
อีก 2 ปีถัดมา มารายถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ อีกครั้ง ครั้งนี้ มารายห์ได้ เพอร์ฟอร์มเพลง If It's Over ซึ่งเป้นเพลงโซล รุ่นปอดแตกดีๆนี่เอง เนื้อเสียงมารายห์หากทุกท่านสังเกตได้จะรู้ว่า ได้บางลง จากงานแกรมมี่ครั้งแรกมาก แต่ก็ยังถืออยู่ในขั้นเทพ การคุมเสียงนิ่งขึ้น มีอารมณ์ในการร้องเพลงมากขึ้น
เพลงนี้ อยู่ในอัลบั้ม Emotion เพลงนี้มารายห์ได้ร่วมงานกับ โรเบิร์ต คลิวิลส์ กับ เดวิด โคลส์ จากวงซีแอนด์ซี มิวสิก แฟกทอรี และร่วมงานกับ คาโรล์ คิง นักร้อง นักประพันธ์เพลงหญิงชื่อดังในช่วงทศวรรษที่ 1970 และมารายห์ได้กล่าวไว้ว่า "ฉันไม่ต้องการให้ Emotions เป็นใครคนอื่นในรูปลักษณ์ของฉัน" และเสริมว่า "มันมีอะไรมากกว่าตัวฉัน ในอัลบั้มนี้" เปรียงเสมือนว่ามารายห์อยากจะบอกว่า เลิกเอาชั้นไปเปรียบเทียบกับคนอื่นซะที
มาครั้ง นี้ มารายห์ ไม่ได้รางวัลกลับบ้าน ซักตัว
อันที่ 3
One Sweet Day (Live Grammys 1996)
ขอบอกว่า ดูไลฟ์นี้ แล้วขนลุกเกรียวกราวมากๆ การประสานเสียงร้อง + ความไพเราะของเพลง ไม่ต้องบอกก็รู้มันต้องอลังการงานสร้างแน่ๆ มารายห์ร้องเพลง โดยใช่อารมณ์ร่วมกับการร้องมากขึ้นกว่าเดิม การคุมเสียงดีขึ้น แต่เสียงนั้นบางลงมากๆๆๆๆ แต่ก็ขึ้นสู
งได้ไม่มีปัญหา
สังเกตได้ว่า หลังจากร้องจบแล้ว ก็มีพวกประเภทอินจัดร้องไห้ขี้มูกโป่งตามเพลงมากมาย
อย่างที่รู้ๆกันว่า มารายห์มีเสียงที่หวานและนุ่มที่สุดในอัลบั้ม เดย์ดรีม
ซึ่งเพลง นี้ ขึ้นอันดับ 1 ถึง 16 สัปดาห์
มาครั้งนี้ มารายห์เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ ถึง 11 สาขา
แต่อยากบอกว่าชวดหมด
สงสัยหลังงานเลิกเจ๊มาราหย์ต้องกลับบ้านไปร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่ๆ
เพิ่มเติมเล็กน้อย ถึงจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงแนวดนตรีของมารายห์
ในปี ค.ศ. 1995 แครีได้ออกผลงานอัลบั้ม Daydream ซึ่งอัลบั้มชุดนี้เธอผสมผสานดนตรีแนวอาร์แอนด์บี ฮิปฮอป และป็อปเข้าด้วยกัน โดยอัลบั้มนี้มีเพลง "Fantasy" เป็นซิงเกิ้ลแรก ทำงานร่วมกับ โอล' เดอร์ตี บาสตาร์ด ศิลปินฮิปฮอป แครีพูดว่าทางค่ายโคลัมเบีย ต้นสังกัด ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงในชุดนี้ "ทุกๆ คนพูดเหมือนว่า 'คุณบ้าไปแล้วเหรอ' พวกเขารู้สึกกังวลมากในการเปลี่ยนแปลงสูตรเก่า ๆ"[29] เพลงนี้ก็สามารถขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาทันทีในสัปดาห์แรกที่เข้าตารางอันดับเพลง[15] ซึ่งนับเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ทำสถิติได้เช่นนี้ และเพลงนี้ยังเป็นเพลงที่ขึ้นอันดับ 1 ในสัปดาห์แรก[30]เป็นเพลงที่ 2 ถัดจากเพลง "You Are Not Alone" ของ ไมเคิล แจ็กสัน อีกด้วย[31] ส่วนซิงเกิ้ลที่ 2 เพลง "One Sweet Day" ที่ร่วมร้องกับวงแนวดนตรีอาร์แอนด์บีที่ชื่อ บอยซ์ ทู เม็น ก็ขึ้นอันดับ 1 นานที่สุดในประวัติศาสตร์บนตารางอันดับเพลงซิงเกิ้ลในสหรัฐอเมริกา นานถึง 16 สัปดาห์[32] และซิงเกิ้ลที่ 3 "Always Be My Baby" ที่ร่วมงานกับเจอร์เมน ดูปริ สามารถขึ้นอันดับ 1[13] เช่นกัน รวมถึง มียอดการเปิดออกอากาศมากที่สุดประจำปี ค.ศ. 1996 ด้วย
ที่มาวิกิพีเดียครับ
และไลฟ์ล่าสุด
We Belong Together/Fly Like a Bird Grammy 2006
ขอบอกได้ ว่าไลฟ์นี้ ในสภาวะที่เจ๊แกมีปัญหาด้านเสียงร้อง ถือว่าเจ๊แกเตรียมตัวมาดีมากๆ
ดีพอที่จนคน หัวโปกกะโหลกกะลา เอามาเถียงกันหลังจบงาน ว่าเจ๊ลิป ไม่ลิป หรือยังไง จนสนั่นบ้านเมือง
การคุมเสียงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทำเอาบรรดาลูกแกะลูกแพะ ที่ลุ้นว่าตัวแม่จะรอดไม่รอด ยิ้มหน้าบ้านเป้นจานดาวเทียม ASTV กันซะแฉ่ง
ไลฟ์นี้เป็นไลฟ์ที่พิสูจน์ว่า เธอได้กลับมาแล้ว
ร้องไลฟ์นยี้ ต้องยอมรับ ว่าอีเจ๊ เค้นสุดขีดสู้สุดใจ หลังจากข่าวเกาเหลาเรื่องโชว์ก่อนโชวืหลังกับมาดอนน่ากระฉ่อนงาน อีเจ๊ก็ไม่ทำให่ใครมาหมิ่นประมาทได้ว่า อิโธ่ แค่นี้ริอยากมีปัญหา
ทั้งลาก ทั้งแหก หวีดแสลกโค้ง โหนเสียง ต้องยอมรับ ณ จุดนั้น วินาทีนั้น เธอคือที่สุดในงานแกรมมี่ สำหรับการกลับมาของเธอ มารายห์ แครี่ ดิว่าส์ ตำนานที่มีตัวตน
มาครั้งนี้ อีเจ๊ชิง 8 สาขา ได้มา3
1.อัลบั้มเพลงอาร์แอนด์บีร่วมสมัยยอดเยี่ยม
2.พลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม จากเพลง "We Belong Together"
3.ศิลปินอาร์แอนด์บีหญิงยอดเยี่ยม
อันนี้ คือ รีวิว ที่เขียนขึ้นจาดแรงบันดาลใจชั่ววูบ อาจจะไม่ครบรสทั้งหมด
ยังไงใครมีอะไรเพิ่มเติมหรือ ตพหนิในส่วนก็ก็ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ เผื่อมีไรปิดพลาดจะได้ปรับปรุง
ขอบคุณที่อ่านครับ[/size]
_________________
