เขียนโดยผมคนเดียว อาจจะไม่ถูกใจใคร ก็อย่าว่ากัน
10. Madonna - Miles Away
ยอดขายแผ่นไม่กระเตื้อง อันดับเพลงไม่เขยื้อน แต่ใครจะหาว่าเพลงนี้ไม่เพราะขอเถียงสุดใจ ป้าแมดจ์ยังคงใส่ใจทุกรายละเอียดกับทุกซิงเกิ้ลเหมือนเคย แม้ว่าซิงเกิ้ลนั้นจะไม่มีเอ็มวีให้ดูก็ตาม (Nothing Fails นั่นก็ด้วย เซ็ง) เนื้อหาก็ตรงกับชีวิตป้าเหลือเกิน เหมือนกับแต่งเพลงไว้รอโอกาสนี้โดยเฉพาะ บีทบอกซ์ของ Timbaland ผนวกกับความเป็นเออร์บันพ็อพใช้ได้ผลมาแล้วในเพลง Say It Right ของ Nelly Furtado แต่เพลงนี้เด็ดกว่าด้วยท่อน I guess we're at our best when we're miles away เป็นอีก 1 เพลงดีๆที่ไม่ดังของมาดอนน่า
9. Fergie - Labels or Love
น่าเสียดายที่ยัยเฝอไม่โปรโมตเพลงนี้ทั้งๆที่ก็ตัดเป็นซิงเกิ้ล แถมไม่มีเอ็มวีอีกต่างหาก เพราะหลังจากที่ฟังไปได้หลายรอบก็ฟันธงเลยว่าต้องได้อันดับสูงๆแน่นอน ทำนองจังหวะที่โจ๊ะสุดตีน สมควรอย่างยิ่งยวดที่จะขึ้นอันดับ 1 มากกว่าเพลงสะพานลอนดอนนั่นเสียอีก สงสัยยัยเฝอคงกลัวโดนด่าว่าจะออกอะไรมานักหนา ดังซะทุกเพลงจนทำให้อัลบั้มล่าสุดของ Gwen Stefani ต้องแผ่วลงเพราะเจอแม่เฝอ ที่แรดกว่าร้อยเท่า ยิ่งรู้ว่าเป็น 1 ในซาวด์แทร็คหนังสุดเก๋ประจำปีอย่าง Sex and the City ฟังแล้วก็อยากแรดๆเหมือนแคร์รี่ แบรดชอว์ หรือจะ ซาแมนต้า โจนส์นั่นจังเลย
8. Jason Mraz - I'm Yours
ใครจะเมินอคูสติกพ็อพใสสะอาดแบบนี้ได้ลงคอ งวดนี้พี่เจสันมาแปลกทำพ็อพร็อคกึ่งอคูสติกขายให้วัยรุ่นมานาน อัลบั้มล่าพี่พิถีพิถันในงานมากขึ้น เพลงนี้ฮิตกันถึงขนาดนี่โฆษณาบ้านเรายังมาดัดแปลงเนื้อร้องมาทำใหม่ซะงั้น กลายเป็นเพลงที่ดังที่สุดในชีวิตของพี่เจสันไปตลอดกาล
7. Duffy - Warwick Avenue
หน้าใหม่แต่ทำเพลงเข้าตากรรมการขนาดนี้ Mercy จะฮิตแค่ไหนก็ปล่อยมันไป ยังมีอีกเพลงน่าฟังยิ่งกว่า เสียงร้องสุดแสบสันต์ มาร้องกับอคูสติคกึ่งร็อคผสมโซลเล็กๆแบบนี้มันช่างลงตัวจริงๆ Duffy ใส่อารมณ์ลงไปในเพลงนี้อย่างเต็มที่ เติมความหวานลงไปอีกนิดหน่อย ทำเพลงให้เพราะใครก็ทำได้ แต่ทำเพลงเพราะให้ฟังได้นานๆมันยาก เชื่อว่าเธอคนนี้ยังมีอะไรดีๆมาให้ติดตามกันอีกแน่นอน
6. Sara Bareilles - Love Song
คลื่นลูกใหม่ก็ถาโถมเข้ามา เกิดบ้างดับบ้างตามบุญตามกรรมที่เคยก่อไว้ บ้างก็วันฮิตวันเดอร์ บ้างก็ฮิตมันซะทุกเพลง ถึงแม้ว่ารายนี้จะเข้าข่ายอย่างแรกก็เหอะ แต่เชื่อว่าในบรรดาท็อป 10 เพลงในปี 2008 ขึ้นจะมีเพลงนี้พ่วงมาด้วยแน่นอน ฝีมือของซาร่าอาจจะไม่ได้เข้มข้นเหมือน Tori Amos เพลงอาจจะฟังไม่ได้อารมณ์เดียวกับ Fiona Apple ค่อนข้างจะไปทางพ็อพซะส่วนใหญ่ ภาพลักษณ์ก็ไม่ค่อยจะขาย แต่ของมันดีมันก็เลยเจิดจ้าออกมาเองของมัน ถึงแม้ว่าเลพงอื่นๆในอัลบั้มจะดีไม่แพ้กัน แต่เพลงดันมันติดหูกว่านี่นา
5. Metro Station - Seventeen Forever
คิดถูกมากที่ไม่ตั้งชื่อวงที่ขึ้นต้นด้วย The เพราะมันจะเป็นที่จดจำมากกว่าวงร็อคที่ถือกำเนิดมาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ โชคดีอีกทีที่ 1 ในสมาชิกนามสกุลเดียวกับ Miley Cyrus แม้ว่าเพลง Shake It จะดังมากๆ ฟังกันจนรำคาญกันไปข้าง หันมาใส่ใจกับเพลงนี้ดีกว่า อิเลคโทรนิคร็อคแบนด์ฟังทีไรก็อดยิ้มไปกับเนื้อเพลงไม่ได้ เชื่อว่าถ้าได้โปรดิวซ์เซอร์ที่มือฉมังกว่านี้ในอัลบั้มต่อไปอนาคตไกลแน่นอน ถ้าไม่มัวใส่ใจว่า 1 ในสมาชิกจะนามสกุลอะไรรับรองตลาดจะกล้วางกว่านี้แน่ๆ
4. The Ting Tings - Shut Up and Let Me Go
นานๆจะมีวงเปรี้ยวเยี่ยวราดแบบนี้โผล่มาซีกที จังหวะจะโคนน่ารักที่สุด ฟังแล้วอมยิ้มได้ทั้งวัน เครื่องดนตรีมีไม่กี่ชิ้น แต่สร้างรอยยิ้มได้มากขนาดนี้ ยกความดีให้กับโปรดิวซ์เซอร์ ที่ทำเพลงได้น่ารักน่าชัง ยิ่งมาเห็นฉากแรดๆประกอบเพลงในเรื่อง House Bunny ยิ่งเพิ่มความชอบเข้าไปอีก
3. Kanye West - Love Lockdown/Heartless
ตัดใจเลือกเพลงใดเพลงหนึ่งมาไม่ได้จริงๆ เลยต้องลำเอียงติดมาสองเพลงแบบไม่เกรงใจศิลปินคนอื่น ตั้งแต่ live เปิดตัวใน MTV VMA ปีทีแล้ว ทำให้เราได้ค้นพบแนวดนตรีใหม่ของโลกนั่นคือ Alternative HipHop เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆว่าเพลง Hip-Hop ไม่จำเป็นต้องแร็พเสมอไป ขอแค่มีดนตรีดีๆไว้เป็นไม้กันหมาก็พอ คันคะเยอ พยายามเหลือเกินที่สร้างตัวเองเป็นเดอะบีทเทิ่ล หรือเอลวิส เพรสลี่ย์ในแบบฉบับของคนผิวสี แม้ว่าเขาจะยังไม่แตะถึงคำว่าระดับตำนาน แต่แค่นี้เราก็รู้แล้วล่ะว่าเขาเก่ง แน่ และเจ๋งแค่ไหน
2. Lady Gaga - Just Dance/Poker Face
เลดี้ กาก้า ชื่อนี้ติดหูพอๆกับเพลงที่ฟังแล้วก็ติดใจ ความน่าฟังของเพลงไม่ได้อยู่ที่ความยากง่ายในการทำ เพียงแค่คุณจริงใจกับเพลง เนื้อร้องที่แต่งมาอย่าให้เวอร์เกิน เพียงแค่คุณสื่อถึงอารมณ์ให้มันตรงกันก็พอ Just Dance เหมาะกับขาปาตี้ย์ทั้งหลายไว้เปิดกันเต้นสุดเหวี่ยงเหมือนในเอ็มวี Poker Face เนื้อเพลงไม่มีอะไร ร้องแค่ไม่กี่ประโยคแต่มันฝังติดอยู่ในหัวประหนึ่งเพลง Can't Get You out of My Head ของแม่ไข่ ยิ่งได้ภาพลักษณ์ที่แปลกใหม่สำหรับวงการด้วยความบ้าบิ่นในการแสดงสด ทำให้ชื่อ เลดี้ กาก้ากลายเป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในปี 2008 และที่น่าปลื้มยิ่งกว่านั้นก็คือ เธอร้องสด และเธอร้องเพลงเป็น
1. Leona Lewis - Bleeding Love
ยังคงฮิตตั้งแต่ท้ายปี 2007 แล้วก็ฮิตตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี 2008 แล้วจะมีเพลงไหนถึก ทน ทายาทเท่าเพลงนี้อีก มาถึงวันนี้คนเขียนก็ยังฟังเพลงนี้ไม่เบื่อ วันละหลายรอบ จะว่าเพลงนี้มันดีเด่กว่าเพลงพ็อพบัลลาดเพลงอื่นของคนอื่นตรงไหน ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน แต่มันได้ใจตรงที่เสียงนางสิงโตที่เก็บมันทุกโน๊ตยิ่งช่วงพีคเธอเอ๋ยอยู่ให้เซด มารายท์ยังต้องสะดุ้งเพราะโดนยัยนี่แย่งเรตติ้งไป เป็นข้อตอกย้ำอีกหนึ่งข้อว่า เสียงร้อง ยังคงเป็นตัวหลักที่ทำให้เพลงมันน่าฟัง ในยามที่ดนตรีมันไม่มีอะไรให้ชื่นชม อ๊ะ เหมือนจะด่า แต่ด่าไม่ลง เพราะมัวแต่ทึ่งกับพลังปอดของสิงโตนั่นแหล่ะ จึงทำให้เธอเป็นผู้ชนะในปี 2008 อย่างไร้ข้อกังขา
_________________