˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
สื่อผู้ดีแฉ ไมเคิล มีทายาทคนโต เป็นหนุ่มแดนเซ่อร์ วัย 25*
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ สื่อผู้ดีแฉ ไมเคิล มีทายาทคนโต เป็นหนุ่มแดนเซ่อร์ วัย 25* 

















ฮือฮา สื่อผู้ดีตีแผ่ไมเคิลมีทายาทคนโตเป็น"หนุ่มแดนเซ่อร์"วัย 25 เคยหิ้วขึ้นเวทีร่วมแสดง (มติชนออนไลน์)

สื่อผู้ดีแฉไมเคิล แจ๊คสัน มีลูกเป็นหนุ่มแดนเซ่อร์ หน้าคล้าย "ปรินซ์ ไมเคิล จูเนียร์" และบิดา โดยเป็นทายาทคนแรก ระบุแอบดูแลอย่างลับๆ ด้านครอบครัวพร้อม หากสังคมต้องการให้พิสูจน์ดีเอ็นเอ

"เดอะ ซัน" รายงานเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ว่า นายโอมาร์ แบ็ตติ แดนเซอร์ชายวัย 25 ปี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเป็นลูกลับๆ ของไมเคิล ได้รับที่นั่งแถวหน้าสุด ในงานประกอบพิธีระลึกศพ ไมเคิล แจ๊คสัน ราชาเพลงป๊อปผู้เสียชีวิต เมื่อสองสัปดาห์ก่อน โดยเขามีโอกาสได้นั่งเก้าอี้แถวหน้า ซึ่งเป็นแถวเดียวกับเหล่าพี่ชาย พี่สาว และน้องสาวของไมเคิล เหตุการณ์นี้ ยิ่งตอกย้ำกระแสร่ำลือว่า ไมเคิล แจ๊คสัน แอบมีลูกชายไว้ในอดีต โดยแดนเชอร์หนุ่มรายนี้ยังมีใบหน้าคล้าย "ปรินซ์ ไมเคิล จูเนียร์" ลูกชายคนสุดท้องของไมเคิล อย่างแสนจะน่าทึ่งด้วย

เดอะ ซัน รายงานว่า เชื่อกันว่า โอมาร์ ถือกำเนิดเมื่อปี 1984 โดยเขาเคยอาศัยอยู่ในไร่คฤหาสน์ "เนเวอร์แลนด์" เป็นเวลาหลายปี และอยู่ร่วมกับบรรดาลูกๆ ของไมเคิล ราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน นอกจากนี้ ช่วงเขาอายุ 14 ปี โอมาร์ยังเคยเปิดห่อของขวัญกับไมเคิล แจ๊คสัน ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วย และเมื่อปี 2003 เขาได้รับการถ่ายภาพ ในงานฉลองวันเกิดของไมเคิล และได้นั่งรถลีมูซีนไปกับไมเคิลด้วย นอกจากนี้ ในช่วงตำรวจสอบสวนคดีไมเคิลล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โอมาร์ก็อยู่ในไร่คฤหาสน์เนเวอร์แลนด์ด้วย

รายงานระบุว่า หลังจากโอมาร์ลืมตาดูโลก ไมเคิลได้ส่งลูกจ้างของเขา 2 คน ไปช่วยมารดาของโอมาร์เลี้ยงเขา โดย ไมเคิลและโอมาร์ ได้พบกันครั้งแรกเมื่อปี 1996 ซึ่งขณะนั้นโอมาร์มีอายุ 12 ปี โดยโอมาร์ได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจจากพ่อของเขา ทำให้เขาประกอบอาชีพเป็นแดนเซ่อร์ในเวลาต่อมา และในปี 1996 โอมาร์เคยปรากฎตัวต่อสาธารณชนร่วมกับไมเคิล รวมทั้งได้ขึ้นเวทีร่วมกับไมเคิลด้วย อย่างไรก็ตาม โอมาร์ผู้นี้มีปัญหาคล้ายพ่อ คือ เรื่องยา เขาเคยถูกจับในข้อหามีกัญชาจำนวนเล็กน้อยไว้ในครอบครอง ระหว่างพำนักอยู่กับครอบครัวที่นอร์เวย์ เมื่อปี 2004 และถูกปรับเงิน

เดอะ ซัน เผยด้วยว่า สำหรับโอมาร์และไมเคิล ได้พยายามปกปิดความสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูกของทั้งสอง จากบุคคลทั่วไป จนกระทั่งไมเคิลเสียชีวิต เพราะการใช้ยาเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ซึ่งในการสัมภาษณ์เขาครั้งหนึ่ง เมื่อปีที่ผ่านมา โอมาร์ได้บอกว่า ความซื่อสัตย์ของเขากับไมเคิลถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเขา ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ปัจจุบัน โอมาร์ แบ็ตติ พยายามจะแจ้งเกิดเป็นศิลปินแนวแร๊พและฮิพฮอพ โดยใช้ชื่อว่า "โอ-บี"


นอกจากนี้ เดอะ ซัน ยังได้สัมภาษณ์ครอบครัวของโอมาร์ ระบุว่า พวกเขาจะไม่ปฎิเสธกระแสสังคม หากมีความต้องการจะให้พิสูจน์ดีเอ็นเอว่า โอมาร์เป็นทายาทของไมเคิลหรือไม่



ขอบคุณ กระปุกคร่ะ*


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ตอนนี้ รุ้สึกว่าหลังจากที่พิธีศพและการไว้อาลัยไมเคิลจบ
พวกสื่อจะต้องเล่นช่าวเรื่องส่วนตัวของไมเคิลชนิดหักดิบ ละลาบละลว้งตับไตไส้พุงออกมาขายชนิดที่เลิกพูดเรื่องมนุษยธรรมกันไปได้เลย

ถามหน่อยนะคะ คนตายน่ะ ชีวิตก่อนหน้านั้น เค้าก้มีรายละเอีดยชีวสิตมีเรื่องส่วนตัว มีครอบครัวและคนข้างหลัง อยู่การที่คุณเอาคำแก้ตัวมาบอกว่าเป้นคนดังคนของประชาชนแล้วเที่ยวไปลามปามขุดคุ้นเรื่องส่วนตัวของเค้า ทั้งๆที่คนในครอบครัวและคนใกล้ชิดมากมาย กับแฟนเพลงที่คลั่งไค้ลเค้าทั่วโลก ยังไม่กล้าสาระเเนขนาดนี้ ไหนจะเรื่องสิทธิเลี้ยงดูลูกๆ ไหนจะเรื่องนั้นเรื่องนี้ เมื่อไหร่จะจบ ?

ตอนเจ้าตัวมีชีวิตอยุ่ก็แทบมองวเป็นสสารไร้ตัวตน ดูถูกล้เลียนต่างๆนานา (ซึ่งเจ๊ไม่เคยทำเลย สาบาน) ความจริงไมเคิลสมควรจะได้รับการยอมรับและความเคารพปฏิบัติที่ดีมากๆ มาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่แค่ตอนนี้ แต่ไอการกระทำของสื่อทั่วโลกโดยเฉพาะของอีพวกฝรั่งเนี่ย มันเกินคำว่ามีขอบเขตความพอดีจริงๆ

เจ๊เป็นครอบครัวไมเคิล จะฟ้องไปเลย เรื่องส่วนตัวคนในบ้าน Gu จะยุ่งเหี้e อะไรกันอยู่ได้ มรึงจะเอาให้คนบนสวรรค์เค้าอกแตกตายไม่ได้ผุดได้เกิดใช่ไหม

คนตายเค้าจะมีสาทธิ์มาแก้ตัวและอธิบายอะไรได้ ในเมื่อพวกมึงเขียนข่าวและเอาข้อมูลมาแฉๆๆๆๆๆๆๆๆอยุ่ตลอด บาปมากนะคะ ไปแฉพวกดาราเป็นเกย์หรือชนะทำศัลยกรรมก้เสือกดไม่กล้าเพราะกลัวโดนฟ้อง

รังแกคนตาย เลวจริงๆ



_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว ตำแหน่ง AIM Yahoo Messenger MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
หรือนี่จะเป็นเด็กใน Billie Jean????

เห็นด้วยกะมาดามมากๆ นักข่าวพวกนี้มันหากินได้แม้กระทั่งคนตายไปแล้ว

ถ้านำเสนออย่างตรงไปตรงมา เพื่อหาข้อเท็จจริง มันก็ดีอยู่ แต่บางทีมันทำให้ตัวบุคคลและครอบครัวเสื่อมเสียไปด้วยเนี่ย มันเกินรับจริงๆ



_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ป้าหอจะไปบอกยัยคริส ครอกเกอร์
ให้อัดวิดีโอลงยูทูปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ให้พูดว่า

Leave Michael Jackson Alone!!



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว Yahoo Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เพิ่มเติม จขกท นะครับ ไม่รู้เอาลงรึยังแบบว่าเนตห้องมันช้า บางรูปบางทีมันก็ไม่ขึ้น








เรื่องแบบนี้ มันก็น่าจะพอเหมือนมาดามพูดแหละเนอะ Cool

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อ่ะนะคร่ะ มันเป็นธุรกิจกันไปทุกอย่างแล้ว โลกสมัยนี้

ขายอะไรที่ทำให้บูมได้ก็ขายหมด แม้จะต้องทำร้ายคนอื่นก็ตาม

แต่ถามว่าสื่อมีอะไรจะต้องขายแล้วตรงตามความต้องการของผู้ซื้อ

ไม่เรื่องคนตาย ก็เรื่องจำพวกแนวหมีแพนด้า

แล้วไมเคิล แจ็คสัน ก็เป็นสิ่งที่สื่อต้องการมากที่สุดตอนนี้











นะคร่ะ



_________________

คงจะมีรักจริงรออยู่ ที่ดินแดนใดสักแห่ง...
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
สงสารไมเคิลจริง ..

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ปากก็ว่าไปงั้นแหล่ะค่ะ พอเรื่องมันแดงออกมาใครเค้าก็อยากจะรู้ ดิชั้นคนนึงล่ะที่อยุ่กับไมเคิลมาแทบทุกยุค เห็นข่าวเค้ามาสารพัด จนเค้าได้รับสมญานามว่าเป็นคิงออฟพ็อพ มาจนวันนี้เรื่องส่วนตัวของเค้าดังเทียบเท่าเพลงของเค้าซะแล้ว

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
มาดามจ๊อกกาโล่ พิมพ์ว่า:
ตอนนี้ รุ้สึกว่าหลังจากที่พิธีศพและการไว้อาลัยไมเคิลจบ
พวกสื่อจะต้องเล่นช่าวเรื่องส่วนตัวของไมเคิลชนิดหักดิบ ละลาบละลว้งตับไตไส้พุงออกมาขายชนิดที่เลิกพูดเรื่องมนุษยธรรมกันไปได้เลย

ถามหน่อยนะคะ คนตายน่ะ ชีวิตก่อนหน้านั้น เค้าก้มีรายละเอีดยชีวสิตมีเรื่องส่วนตัว มีครอบครัวและคนข้างหลัง อยู่การที่คุณเอาคำแก้ตัวมาบอกว่าเป้นคนดังคนของประชาชนแล้วเที่ยวไปลามปามขุดคุ้นเรื่องส่วนตัวของเค้า ทั้งๆที่คนในครอบครัวและคนใกล้ชิดมากมาย กับแฟนเพลงที่คลั่งไค้ลเค้าทั่วโลก ยังไม่กล้าสาระเเนขนาดนี้ ไหนจะเรื่องสิทธิเลี้ยงดูลูกๆ ไหนจะเรื่องนั้นเรื่องนี้ เมื่อไหร่จะจบ ?

ตอนเจ้าตัวมีชีวิตอยุ่ก็แทบมองวเป็นสสารไร้ตัวตน ดูถูกล้เลียนต่างๆนานา (ซึ่งเจ๊ไม่เคยทำเลย สาบาน) ความจริงไมเคิลสมควรจะได้รับการยอมรับและความเคารพปฏิบัติที่ดีมากๆ มาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่แค่ตอนนี้ แต่ไอการกระทำของสื่อทั่วโลกโดยเฉพาะของอีพวกฝรั่งเนี่ย มันเกินคำว่ามีขอบเขตความพอดีจริงๆ

เจ๊เป็นครอบครัวไมเคิล จะฟ้องไปเลย เรื่องส่วนตัวคนในบ้าน Gu จะยุ่งเหี้e อะไรกันอยู่ได้ มรึงจะเอาให้คนบนสวรรค์เค้าอกแตกตายไม่ได้ผุดได้เกิดใช่ไหม

คนตายเค้าจะมีสาทธิ์มาแก้ตัวและอธิบายอะไรได้ ในเมื่อพวกมึงเขียนข่าวและเอาข้อมูลมาแฉๆๆๆๆๆๆๆๆอยุ่ตลอด บาปมากนะคะ ไปแฉพวกดาราเป็นเกย์หรือชนะทำศัลยกรรมก้เสือกดไม่กล้าเพราะกลัวโดนฟ้อง

รังแกคนตาย เลวจริงๆ



Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 2
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com