Da Nastina พิมพ์ว่า:
Nirvana : Nevermind : 94%
ขออุทิศรีวิวชิ้นนี้ให้แก่วินาทีที่ กำลังเผชิญกับความสาหัสทางวิญญาณรวมถึงจุดเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ทางรสนิยม ดนตรี อุทิศให้แก่การผจญภัยอันสุดแสนวิเศษกับการดำดิ่งลึกลงไปสู่ความหม่นหมองและ ความทรมานที่แม้ว่าดูเหมือนจะหาที่สิ้นสุดไม่ได้หากแต่เป็นการเยียวยาทางจิต วิญญาณและเติมเต็มความแข็งแกร่งของศรัทธาในวินาทีนั้นได้อย่างดีที่สุด ขออุทิศความตั้งใจทุกสิ่งให้แก่ Nirvana ตำแห่งแห่งอาณาจักรของดนตรีกรั๊นจ์และอัลเทอเนทีฟร็อคยุค90กับการสื่อสารทาง จิตวิญญาณเล็กๆน้อยๆของพวกเรา เหนือสิ่งอื่นใดของอุทิศให้แก่วินาทีที่เข็มทิศแห่งรสยิยมทางดนตรีของเดี๊ยน ได้หมุนเพื่อหาแรงบันดาลใจอย่างไม่หยุดยั้งและสุดท้ายมันสงบลงและชี้ไปที่วง สุดเจ๋งวงนี้ ในฐานะหนึ่งในวงดนตรีที่สะท้อนหลายสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในจิตวิญญาณของเดี๊ยน รวมถึงการปลอบโยนผ่านทางเสียงดนตรีอันดิบกร้าวหากแต่นุ่มนวล เป็นหนึ่งในการบำบัดที่เศร้าหมอง เกรี้ยวกราด มึนซึมหากแต่เปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างยิ่งยวดประหนึ่งว่ากำลังเริงระบำอยู่ บนชั้นนิพพาน
รูปแบบเพลง +แทร็คเด็ด
จาก บทสรุปของความสำเร็จทั้งหมดตลอดจนอิทธิพลมหาศาลที่งานชุดนี้มีต่ออุตสาหกรรม ดนตรีจนถึงปัจจุบันคงจะเป็นข้อสนับสนุนได้เต็มปากนะคะว่า Nevermind คือย่างก้าวที่สูงขึ้นอีกระดับของทางวงซึ่งนำไปสู่การต่อยอดความสำเร็จหลายๆ อย่างทั้งชื่อเสียง พัฒนาการตลอดจนการจารึกชื่อของ Nirvana ในฐานะตำนานที่เป็นแรงบันดาลใจในระดับแนวหน้าของดนตรีร็อคทุกยุคทุกสมัยรวม ถึงการปูความสำเร็จให้เป็นมรดกแก่แวดวงดนตรีกรั๊นจ์และอัลเทอเนทีฟร็อคให้ เจิดจรัสอิทธิพลออมาอย่างยิ่งยวดในตลาดดนตรีสากลกระแสหลักจวบจนวินาทีนี้เลย ทีเดียว
สำหรับแทร็คที่เด็ดและเด่นจัดๆจนหลีกเลี่ยงที่จะหยิบยกขึ้นยมาสดุดีไม่ได้นั้น แน่นอน! ว่าไม่มีทางหนีพ้นแทร็คระดับตำนานอย่าง Smells Like Teen Spirit (5) ที่นอกจากจะเป็นมาสเตอร์พีซชิ้นงามอันดับหนึ่งของทางวงรวมถึงจารึกชื่อของ Nirvana ลงสู่หน้าสำคัญของประวัติศาสตร์ดนตรีร็อคในฐานะพระเจ้าแห่งวงการแล้วยังเป็น แทร็คที่ผลักดันดนตรีอัลเทอเนทีฟร็อคให้เข้าสู่ตลาดสากลและกลายเป็นหนึ่งใน ดนตรีกระแสหลักที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในยุคนั้น ตัวเพลงเป็นอัลเทอเนทีฟร็อคที่นำเสนอบนเสน่ห์ของท่วงทำนองกรั๊นจ์เท่ห์ๆโดย ปลุกวิญญาณความเกรี้ยวกราดของความเป็นพั้งค์ร็อคในแบบฉบับของ Sex Pistols เข้ากับอารมณ์ของฮาร์ดคอร์เมทัลดิบๆหนักหน่วงก่อนจะปิดท้ายด้วยการบีบความ เป็นพ็อพลงไปสู่ตัวเพลงเพื่อเพิ่มเมโลดี้ที่ละเมียดละไมทรงเสน่ห์ที่ได้รับ แรงบันดาลใจมาจากการนำเสนอเดียวกันกับ Pixies ส่งผลให้เพลงนี้เป็นปรากฏการณ์ที่เขย่าอาณาจักรดนตรีช่วงยุค90ตลอดจนเป็น หนึ่งในแทร็คที่ทรงพลังแส่งอิทธิพลอย่างยิ่งยวดที่อุตสาหกรรมดนตรีจะให้การ คารวะตลอดกาล ต่อด้วย Breed (4/5) กับอารมณ์กรั๊นจ์ร็อคผสานฮาร์ดคอร์พั้งค์และเมทัลดิบๆหนักๆได้อย่างลงตัวและ เสน่ห์นับเป็นอีกหนึ่งแทร็คที่ทำออกมาเอาใจสาวก Nirvana โดยแท้ เช่นเดียวกับ Lounge Act (4.5/5) ที่นำเสนอได้อย่างเก๋ไก๋โดยการเหยาะภาคความเป็นอัลเทอเนทีฟและพ็อพร็อคลงไป เบรคริฟฟ์กีตาร์และสรรพสำเนียงพั้งค์ร็อคหนักหน่วงลงไปผสานความกลมกลืนจาก การวางไดนามิคที่แตกต่างหลุดโลกได้อย่างมีชั้นเชิง ส่วนตัวประทับใจท่อนที่ร้องว่า "Truth-Covered In Security " เป็นประโยคสั้นๆที่มีความหมายลึกซึ้งชวนขบคิด เป็นสองแทร็คที่ฟังแล้วสะใจมากๆ ตามมาติดๆกับ In Bloom (4.5/5) ที่สลับจากภาคดนตรีฮาร์ดคอร์พั้งค์หนักหน่วงมาสู่อารมณ์ของโลไฟอัลเทอเนที ฟร็อคที่นำเสนอผ่านความเป็นอินดี้พั้งค์พ็อพบัลลาดที่มีเมโลดี้ย์และท่อนคอ รัสไพเราะติดหูจนน่าจับไปประกอบภาพยนตร์จำพวกทีนดราม่าล่าฝันล่าฟันทั้งหลาย เช่นเดียวกับ Drain You (4/5) ที่ภาคดนตรีคลอดออกมาดูพ็อพและใสกว่า Nirvana ที่ดิฉันเคยสัมผัสจนตกใจ (อาจจะไม่นับภาคเนื้อหา) เป็นอีกสองแทร็คที่บีบความเป็นพ็อพลงไปเติมเต็มจนมีเมโลดี้ย์ติดหูฟังง่าย ถูกใจคอพ็อพอย่างเดี๊ยนนักแล
สำหรับแทร็คที่ส่วนตัวประทับใจจนขอยก ขึ้นหิ้งให้เป็นอีกมาสเตอร์พีซชิ้นงามของทางวงคือ Come As You Are (5) กับภาคดนตรีกรั๊นจ์ร็อคดิบหม่นลุ่มลึกทรงเสน่ห์ที่ผสานความงดงามละเมียดละไม และความแพรวพราวของลูกเล่นแบบฮาร์ดร็อคบัลลาดไอย่างมีชั้นเชิง ส่วนตัวประทับใจในภาคเนื้อหาที่หากสัมผัสโดยผิวเผินแล้วหลายคนคงต้องอุท่าน ว่า "ไพร่" เพราะมันแลดูกะโหลกกะลาต่ำชั้นมากๆอย่างไรก็ตามเมื่อดำดิ่งลงไปสัมผัสถึง แก่นแท้ที่สะท้อนให้เห็นถึงการยืนหยัดบนศักดิ์ศรีและความภูมิใจในจิตวิญญาณ ที่หล่อหลอมความเป็นมนุษย์ของตน ว๊ายยยยย เห็นเขียนง่ายๆซื่อๆนี่เชือดเฉือนคมกริบพอๆกับน้ำเสียงของคุณพี่ที่เท่ห์บาด ใจม่ายสาวพราวเสน่ห์เยี่ยงเดี๊ยนมากมายเลยทีเดียวค่ะ มาที่ Lithium (4.5/5) ที่ภาคเนื้อหาหม่นหมองทุกข์ระทมเกรี้ยวกราดหากแต่แฝงแง่คิดเชิงปรัชญาประดุจ เข็มทิศชี้ให้เห็นความสำคัญของศาสนา ศรัทธา ความปวดร้าวและการเริ่มต้นยืนหยัดหลังจากประสบความสูญเสีย ความสวยงามของชีวิตและการตระหนักถึงสิ่งดีๆที่ยังหลงเหลืออยู่ให้สัมผัสค้น หาเสมอ อีกหนึ่งแทร็คที่น่าจับตามอง คือ Polly (5) ซึ่งก่อนหน้านี้จะถูกรวมไว้ในงานชุดแรกเมื่อปี1989หากแต่ถูกตัดออกอย่างน่า เสียดายด้วยความที่ภาคดนตรีมันไปกันไม่ได้กับอารมณ์กรั๊นจ์ดิบๆเถื่อนๆในงาน ชุดดังกล่าว ภาคเฃดนตรีเป็นอคูสติคโฟล์คร็อคที่ผสานอารมณ์กรั๊นจ์หม่นๆและสรรพสำเนียง บลูส์เข้มๆสุดเชือดเฉือน ภาคเนื้อหาอุทิศให้เด็กสาวอายุ14ที่ตกเป็นเหยื่อการทารุณกรรมและล่วงละเมิด ทางเพศอย่างสุดแสนวิปริตหลังจากที่เดินทางกลับจากการชมคอนเสิร์ตพั้งค์ร็อค ในปี1987 นับว่าเป้นแทร็คที่เล่นได้เรียบง่ายหากแต่ความเจ็บปวดที่ระบายผ่านนั้นบาด ลึกไปยังจิตวิญญาณเลยทีเดียว ปิดอัลบั้มด้วย Something In The Way (4.5/5) ที่ภาคดนตรีเป็นกรั๊นจ์ร็อคบัลลาดหม่นๆที่เนรมิตความจริงอันโหดร้ายของการ ที่ต้องทนก้มหัวคารวะให้แก่ความโหดร้าย เชี่ยวกรากและไม่ผ่อนปรนของสัจธรรมแห่งวัฏจักรชีวิตได้อย่างเป็นรูปธรรม ปิดงานได้สวยมากๆ
จุดด้อย
จาก ความมั่นคงในการยึดคอนเส็ปท์ที่ว่า "ดนตรีมาก่อนเนื้อหา" แม้ว่าในแง่ของความลงตัวและการตลาดจะนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จมา นักต่อนักก็ตามหากแต่มันก็สามารถลดทอนคุณภาพและความเคารพในผลงานลงได้เยอะ เหมือนกันเนื่องจากความสะดุดทางอารมณ์เมื่อมาพิจาณาภาคเนื้อหาในบางแทร็คน่ะ ค่ะ นอกจากนั้นสมบูรณ์แบบจนคารวะ
สรุป
นิยามอันเป็นรูปธรรม อิทธิพลสุดทรงพลัง แรงขับเคลื่อน ความภูมิใจและตำนานแห่งดนตรีร็อคยุค90