Da Nastina พิมพ์ว่า:
Nuyorican Soul : Nuyorical Soul : 90%
ก่อนที่จะเข้าสู่ตัวงานเดี๊ยนขอเกริ่น อะไรเล็กน้อยถึงแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เดียนรู้จักและต้องการจะ รีวิวงานเพลงชุดนี้ ทั้งหมดทั้งมวลขออุทิศความรัก ความเคารพและคำขอบคุณให้แก่ "นิตสารPOP" นิตยสารดนตรีสากลและไลฟ์สไตล์ที่เปรี้ยวและเก๋ที่สุดในประวัติศาสตร์นิตยสาร ดนตรีสากลของประเทศไทย ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจน่ารักๆแรงเดียวกันที่ทำให้เดียนรักงานรีวิวจนบันดาลให้ เกิดสมญานามของ Da Nastina โลดแล่นในโลกไซเบอร์ในฐานะนักอดีตรีวิวของบอร์ดForwardmagมาร่วม6ปีและแน่ นอนเป็นรงบันดาลใจที่สำคัญที่มอบชีวิตให้แก่ Blogspot ของเดี๊ยนที่คุณกำลังอ่านอยู่นี่โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะสานต่อความรักใน ดนตรีสากลและงานเขียนวิจารณื ส่วนตัวเมื่อเอ่ยถึง "POP" สิ่งที่คิดถึงเป้นอันดับแรกเลยคือบรรณาธิการสาวสุดเปรี้ยวประจำสำนักอย่าง "พี่ตี้" สุรจักร์ (ธิชา) ชัยวรศิลป์ ผู้ที่ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในปูชนียบุคคลที่มีอิทธิพลต่องานเขียนของ เดี๊ยนที่เดี๊ยนเคารพยิ่งหากแต่เป็นผู้จุดประกายแรงบันดาลใจที่ทำให้คำว่า "ไร้ขีดจำกัด" เกิดขึ้นกับรสนิยม โลกทัศน์และวัฒนธรรมในการบริโภคดนตรีของเดี๊ยน และวันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เดีญนจะได้เขียนรีวิวอุทิศถึงความรักและควมคิด ถึงที่มีต่อเธอและอดีตทีมงานนิตยสาร POP ทุกๆท่านผ่านงานรีวิวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการแนะนำและแบ่งปันรสนิยมทาง ดนตรีที่ดีของพี่ตี้รวมถึงความสุขที่ยิ่งใหญ่และอบอุ่นที่ได้รับจากนิตยสาร เล่มนี้ในฐานะหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของชีวิต และนี่คือโปรเจ็ค Nuyorican Soul จาก Masters At Work ค่ะ
รูปแบบดนตรี
ถ้า จะให้พูดถึงแวดวงของดนตรีเฮ้าส์เก๋ๆล่ะก็หนึ่งในชื่อที่ถุกกล่าวขานและเป็น ที่ยอมรับในหมู่นักฟังขาเฮ้าส์ที่สุดคงหนีไม่พ้น Masters At Work ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันของสองคู่หูดีเจ รีมิกซ์เซอร์และโปรดิวซ์เซอร์ชื่อดังอย่าง "ลิทเทิ่ล" ลูอี้ เวก้า และ เคนนี่ย์ "โดพ" กอนซาเลส ที่นักฟังเพลงหลายท่านคงจะรู้จักชื่อของพวกเชาจากกิตติศัพท์อันลือลั่นของ เพลง "To Be In Love" (เพลงโปรดเจ๊ตี้) ที่ขึ้นแท่นสู่ความเป็นหนึ่งในเพลงเฮ้าส์ที่คลาสสิคที่สุดตลอดกาล มาที่โปรเจ็คที่หยิบมารีวิวในชื่อ Nuyorican Soul ในปี1995 นับเปนการต่อยอดจากความสำเร็จในนามของ Masters At Work ก่อนหน้านี้ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามเและเป้นที่ยอมรับในหมู่ของนัก ฟังเพลงไปทั่วหัวระแหงกับดนตรีโซลเก๋ๆที่ผสานกลิ่นอายของความเป็นละทิน แจ๊ซซ์ ฟั้งค์กี้ย์ ดิสโก้รวมไปถึงเฮ้าส์หรูๆตามสไตล์ที่ทางวงถนัดก่อนจะตบความเด็ดดวงด้วยอิทธิ พลของชิลล์เอ๊าท์สวยๆ อิเล็คโทรนิคอ่อนๆ ซาวนด์สแครชจากเทิร์นเทเบิ้ลแถมด้วยอารมณ์ของความเป็นโอลด์สคูลในบางแทร็ค ที่ทำให้นึกถึงความเป็นโซลในยุคโมทาวน์ต่อยอดมาถึงความเป็นนีโอโซลในช่วงยุค 90ผสานความที่เป็นคลาสสิค อาร์แอนด์บี บลูส์และลูกเล่นแบบสแตนดาร์ดเพียโนกอสเพลที่แพรวพราวในตัว ก่อนที่จะบีบความเป็นพ็อพ จังหวะเต้นรำแบบเวิลด์มิวสิคและบรรยากาศของบลูส์โซลทรงเสน่ห์สไตล์แอฟริกัน เข้าไปคุมทิศทางของหลายแทร็คในตัวงานได้อย่างอยู่หมัด
จุดด้อย
เป้ นอีกหนึ่งงานที่ส่วนตัวกล้าที่จะการันตีว่ามีความสมบูรณ์แบบในเนื้องานสูง มากๆ ดนตรีในทุกแทร็คมีความสวยงาม พลิ้วไสวและชั้นเชิงลูกเล่นที่มีมิติน่าสนใจรวมถึงมีเสน่ห์เหนือกาลเวลาที่ ไม่ว่าจะหยิบมาฟังในอีกกี่10ปีข้างหน้าเดี๊ยนเชื่อว่าก็จะยังสามารถสัมผัส ได้ถึงความสวยงาม เก๋ไก๋และหรูหราของภาคดนตรีได้อย่างไม่มีเสื่อมคลายเลยทีเดียว รวมถึงต้องขอยืนยัน ณ ที่นี้เลยว่างานชุดนี้ไม่ใช่อัลบั้มโซลที่ฟังยากเนื่องจากส่วนตัวสัมผัสได้ ถึงความเป็นพ็อพทีมีสัดส่วนในการคุมทิศทางของตัวงานได้สูงพอๆกับความเป็นโซล เฮ้าส์และชิลล์เอ๊าท์ในอัลบั้มเลยทีเดียว เพียงแต่มิติของลูกเล่นการนำเสนออาจจะซับซ้อน ข้นคลั่กและให้ผลลัพธ์ที่ออกมายากกว่าเพลงพ็อพในอุดมคติที่เคยชิน แต่ส่วนเชื่อนะคะว่าถ้าหลายคนได้ลองฟังจะตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยที เดียว
แทร็คเด็ด
บ่งบอก ภาพรวมของความเป็น Nuyorican Soul ได้อย่างดีใน I Am The Black Gold Of The Sun (4.5/5) ที่ได้สรรพสำเนียงแอฟริกันบลูส์โซลอันทรงเสน่ห์ของ Jocelyn Brow มาขับขานภาคดนตรีนีโอโซลที่ผสานทั้งความเป็นบลูส์ อาร์แอนด์บีและแจ๊ซซ์เล้าจ์นที่คลุกเคล้ากับบีทเต้นรำดาวน์เทมโพแบบฟั้งค์ และพอิเล็คโทรนิคอ่อนๆก่อนจะตบด้วยกลิ่นอายของเฮ้าส์จางๆลอยละล่องตามด้วย อิทธิพลของลูกเล่นการนำเสนอแบบขิลล์เอ๊าทที่ให้อารมณ์ของบรรยากาศแบบ แอฟริกันเวิลด์มิวสิคที่ฟังแล้วก่อให้เกิดจินตภาพถึงทุ่งหญ้าอันแห้งแล้งวหา กแต่สวยงามตระการตาสลับกับภาพพระอาทิตย์เจิดจ้ายามรุ่งอรุณและวัฒนธรรมแห่ง ดำเนินชีวิตอันน่าตื่นตาตื่นใจไปตามวัฏจักรซึ่งเป็นมนตร์เสน่ห์อันลึกลับชวน ของหายิ่งของอาณาจักรแอฟริกัน สลับจากมนตร์ขลังของแอฟริกันซาวนด์เก๋ๆมาสู่วัฒนธรรมของดนตรีโซลผิวดำอัน หนักหน่วงชนิดเข้มข้นสะใจอย่างหมดจดในเวลาเพียงไม่กี่นาทีกับ It's Alright,I Feel It (5) โอลด์สคูลพ็อพโซลที่ยืนบนภาคดนตรีของสแตนดาร์ดเพียโนกอสเพลสุดอลังการสลับ กับดนตรีเต้นรำสไตล์ฟั้งค์กี้ย์ ดิสโก้สวยๆแบบช่วงโมทาวน์ผสานกับสรรพสำเนียงแบบบลูส์โซลอาร์แอนด์บีดิบๆสุด อลังการของศิลปิน ฟังแล้วสะใจจนอยากกรี๊ด! มาที่ MAW Latin Blues (4.5/5) ละทินโซลจังหวะสนุกสนานที่เสริมทัพด้วยภาคดนตรีข้นคลั่กทั้งฟั้งค์กดี้ย์ ดิสโก้สวยๆรวมถึงแทรกอารมณ์ของเฮ้าส์พลิ้วๆเข้ากับจังหวะเต้นรำที่หลาหลาย ทั้งซัลช่า แซมบ้าไปจนถึงเร็กเก้อ่อนๆแบบละทิน อู๊ยยยย แซ่บ! ฟังแล้วสะใจจนมึนกันไปข้าง ปิด ท้ายด้วยเพลงที่โปรดปรานที่สุดของงานชุดนี้อย่าง Runaway (5) ที่ส่วนตัวขอยกให้เป็นมาสเตอร์พีที่คลาสสิคตลอดกาลทั้งในนามของ MAWและNuyorican... กับภาคดนตรีพ็อพโซลสุดหรูหราที่ผสานด้วยอารมณ์เฮ้าส์พลิ้วๆเข้ากับจังหวะจะ โคนของสกาและแอฟริกันแซมบ้าสวยๆตบท้ายอย่างเก๋ไก๋ด้วยการบีบความเป็น ชิลล์เอ๊าท์เข้าไปยกระดับความสมบูรณ์แบบแก่ตัวเพลงจนถึงขีดสุด เป็นหนึ่งในเพลงที่ชอบที่สุดในชีวิตนี้!
สรุป
Nuyorican Soul คือหนึ่งในทางเลือกที่ฉลาดสำหรับคุณๆที่รู้สึกหวานอมขมกลืมกับความไม่เป็น สัปปะรดของวงการดนตรีสากลในยุคปัจจุบันและต้องการที่จะคืนรสชาติแห่งความสุข และชีวิตชีวาแก่โลกแห่งเสียงเพลงของคุณโดยย้อนกลับสู่แรงบันดาลใจในวันวาน กับดนตรีโซลสนุกสนานและเฮ้าส์หรูหราพลิ้วๆที่เมื่อคุณได้เปิดใจลิ้มลอง แล้วจะรู้ว่านิยามของความรู้สึกที่ว่า "ขอบฟ้าอยู่ใต้ฝ่าเท้า" มันเป็นอย่างไร
แก้ไขล่าสุดโดย Disney Boy เมื่อ Mon Aug 31, 2009 6:49 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง