ความหวานของวันวานกำลังจะกลับมาอีกครั้งกับ''สยามดารา เดอะ เมมโมรี่ ไนท์ คอนเสิร์ต ครั้งที่ 2'' เพราะคอนเสิร์ตครั้งนี้มีนักร้องหญิงเสียงหวาน และยามใดก็ตามที่เธอคนนี้ขยับลูกคอเอื้อนเอ่ยร้องเพลงละก็แฟนเพลงที่นั่งฟังทุกคนจะได้ดื่มด่ำความหวานไปพร้อมๆ กัน เช่นเดียวกับเมื่อใดก็ตามที่เธอคนนี้ต้องถ่ายทอดบทเพลงแสนเศร้า ก็สามารถทำให้คนฟังร้องไห้และอินตามได้ไม่ยากเช่นกัน และนักร้องคุณภาพคนนั้นก็คือ ''อิ๋ว'' พิมพ์โพยม เรืองโรจน์
''อิ๋ว-พิมพ์โพยม'' หายหน้าหายตาไปจากการร้องเพลงพักใหญ่เพื่อไปดูแลครอบครัวและลูกชายในวัยกำลังโต แต่เมื่อนักร้องคุณภาพคนนี้ได้รับการทาบทามให้มาเป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็ไม่มีคำปฏิเสธออกมาจากปากของ ''อิ๋ว-พิมพ์โพยม'' ก็เพราะสิ่งที่รอคอยจะได้กลับมามอบความสุขทางเสียงเพลงให้กับทุกคนได้ฟังก็เกิดขึ้นแล้วในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้นั่นเอง
-จากเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ที่ใช้ชีวิตธรรมดาแต่วันหนึ่งสามารถตามฝันการเป็นนักร้องได้สำเร็จ
''จริงๆ แล้วเป็นเรื่องราวที่ไม่ได้คาดฝันมาก่อนที่จะได้มายืนบนเส้นทางบทเพลง คือจากเดิมมีพื้นฐานที่ชอบฟังเพลงจากวิทยุ และเป็นที่น่าสังเกต ว่าวิชาขับร้องจะได้คะแนนเต็ม ก็เป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มั่นใจอะไรว่าจะต้องมาเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงอะไร โชคชะตาก็พาให้เป็นไปจนได้ จากตอนที่เรียนอยู่ที่พาณิชยการพระนคร ก็มีเพื่อนคืออยู่วงซิกซ์เซนส์ กำลังดังเลย และก็มีอีกวงหนึ่งคือ วงดีซีแบนด์ ตอนนั้นวงเขามีแต่นักร้องผู้ชายอยากได้นักร้องผู้หญิงบ้างเพื่อนก็มาชวน ก็เลยลองดูว่าได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ทำตามที่เพื่อนยุเลยลองดู ต่อมาได้เป็นนักร้องนำของวงดีซีแบนด์''
-เริ่มต้นจากการร้องเพลงเป็นวง แล้วจากนั้นก้าวสู่ผลงานเพลงเดี่ยวได้อย่างไร
''จากตอนที่เป็นวงดีซีแบนด์ อิ๋วก็เป็นนักร้องนำนั้นก็คือวงสตริงอยู่ หลังจากนั้นก็มาที่ ''รวมดาว'' ที่อยู่กับอาร์เอส ก็มีหลายอัลบั้มทั้ง ชุดหยาดฝน, ชุดสายใยรัก, รักดั่งทะเล, นี่แหละรัก ส่วนผลงานที่เป็นเพลงคู่เพลงหมู่ที่มีเพื่อนเยอะๆ ตอนที่อิ๋วเข้าไปนี้คือตอน รวมดาว 2 , มีนพเก้า 1-2-3 มี ''มรดกไทย'' ที่เป็นทั้งเพลงเดี่ยวเพลงคู่ แล้วก็หมดสัญญาจากทางอาร์เอส ก็มีงานต่อกับรถไฟดนตรี ที่รถไฟดนตรีมีผลงานแค่ชุดเดียว เพราะตอนนั้นตัดสินใจไปเรียนต่อให้จบ พอเรียนแล้วก็จบจากม.รามคำแหง คุณระย้า (ประเสริฐ พงษ์ธนานิกร) ให้ออกเพลงชุดหนึ่ง คือเพลงฮิตข้ามยุค''
''จากนั้นก็หมดสัญญากับทางรถไฟดนตรีแล้วก็บังอิญได้มาเจอกับผู้ใหญ่ทางบริษัทนิธิทัศน์ ทางคุณวิเชียร อัศว์ศิวะกุล และพี่วิทยา ศุภพรโอภาส ในตอนนั้น ช่วงนั้นก็หมดสัญญากับทางรถไฟดนตรี อิ๋วก็มีงานร้องเพลงประจำ ตามสถานที่ต่างๆ โรงแรม ร้านอาหารบ้าง แล้วบังเอิญเจอกับพี่ทั้ง 2 คน เขาเกิดประทับใจตรงไหนก็ไม่ทราบจึงได้ชวนอิ๋วไปร่วมงานที่นิธิทัศน์ค่ะ''
-แนวเพลงของ ''อิ๋ว-พิมพ์โพยม'' ต้องหวานสุดซึ้งและเศร้าบาดขั้วหัวใจ
''อิ๋วอยู่ในวงการร้องเพลงบ้าง หยุดไปบ้าง ก็ทั้งหมด 25 ปี และงานเพลงที่ออกมาก็เป็นแนวหวานๆ หรือหนักไปทางเพลงเศร้า อกหักน้ำตาท่วมปกเทป หรือหวานซะจนมดขึ้นปกเทป เพลงเร็วก็มีบ้างปะปนกันไป ส่วนเพลงแดนซ์คงไม่เหมาะกับอิ๋ว แต่พอมาเป็นที่นิธิทัศน์สีสันก็แปลกใหม่ขึ้น ก็ได้รับความไว้วางใจให้มาทำเพลงลูกทุ่งซึ่งเราไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งเราเคยฟังเพลงลูกทุ่งมาบ้าง ก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะได้มาทำงานตรงนั้น แล้วก็ได้นำบทเพลงเก่าๆ ของราชินีลูกทุ่ง จะเป็น คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ แม่ผ่องศรี วรนุช ได้กลับมาร้องใหม่อีกครั้งในชีวิต ที่สำคัญก็อาจจะมีบางเพลงที่แต่งใหม่ให้อิ๋วร้อง และก่อนที่อิ๋วจะเข้ามานิธิทัศน์ ''พี่อ๊อด-โอภาส'' ซึ่งเคยร้องเพลงคู่กับอิ๋วมาซึ่งเป็นเพลงนพเก้า 1-2-3 จนมาเป็นมรดกไทย ซึ่งจะมาร้องโต้ตอบกัน พอทางผู้ใหญ่ทางนิธิทัศน์ชักชวนอิ๋ว ตอนแรกก็ดูไปดูมาก็ยังคิดไม่ออกว่าจะให้อิ๋วขึ้นมาร้องเพลงอะไร แต่ก็เข้ามาปุ๊บ เอ๊ะ!! เคยร้องคู่กับคุณอ๊อด ก็เลยได้มาร้องโต้ตอบกันกลาย เป็นผลงานที่ร้องโต้ตอบกับพี่อ๊อดมาตลอด ก็สนุกสนานกันไปค่ะ''
-แล้วประทับใจเพลงอะไรบ้าง
''เวลาทำงานแต่ละอย่างแต่ละชิ้นก็ตั้งใจเต็มที่ แต่ว่าเรื่องการประทับใจในชุดดีซีแบนด์อิ๋วประทับใจมากๆ คือเพลง ''พ่ายรัก'' จริงๆ อยู่ในชุด ''เก่งบวกเฮง'' เพลง ''พ่ายรัก'' ที่คิดว่าประทับใจมากๆ เพราะว่าเป็นเพลงที่ชื่นชอบของมิตรรักแฟนๆ ของอิ๋วเพราะว่าก็ยังสไตล์ของอิ๋วเป็นเพลงเศร้าหวานๆ เศร้าๆ ซึ้งๆ อกหักนั้นล่ะใช่เลย''
''ถ้าเป็นเพลงที่สองที่ประทับใจก็น่าจะเป็นเพลง ''รอเธอ'' เพราะว่าการเป็นไปเป็นมาของเพลงก็เป็นเรื่องฟลุกๆ แปลกๆ เหมือนกันนะคะ เพราะจากการที่รอเธอเดิม เป็นเพลงของบรั่นดี ที่พี่อ๊อด บรั่นดี ร้องโด่งดังมากในยุคนั้นกำลังดัง เรียกว่าถ้าเป็นตลาดก็ยังมิทันจะวายนะคะ ก็มีความบังเอิญที่ทำให้อิ๋วเข้าไปร้องเป็นเพลงคู่น่ะค่ะ แล้วก็เลยยิ่งแทนที่ตลาดจะวายลงก็เลยยิ่งพุ่งกระฉูดไปไกลเลยค่ะ''
''ส่วนเพลงที่สามที่เรียกว่าไม่กล่าวถึงคงไม่ได้เลยนะคะ มาเป็นยุคก็คือเพลงจีนแรกเริ่มเดิมทีจากหนังทีวีเรื่อง ''เป๋าบุ้นจิ้น'' ซึ่งมาฉายทางช่องสาม ตอนจบของหนังทุกๆ ตอนต้องมีเพลงนี้ร้องขึ้นมา ตอนนั้นในหนังที่พระเอกของเรื่องเป็นตัวจั่นเจาเป็นคนร้อง และต่อมาเมื่ออิ๋วมีโอกาสได้นำบทเพลงมาร้องอีกครั้งหนึ่งในผลงานของตนเอง หลังจากนั้นก็มีเสียงมิตรรักแฟนเพลงบรรดาแม่ยกทั้งหลายขอเต็มๆ อัลบั้มไปเลย ในที่สุดอิ๋วก็ได้เป็นอิ๋วเป๋าบุ้นจิ้นเพลงดี 4 ภาษาก็คือทั้งชุดเลยเป็นเพลงของอิ๋ว ภาษาจีนกลาง กวางตุ้ง อังกฤษ ภาษาไทยค่ะ''
-กำลังสนุกสนานอยู่กับการร้องเพลงแล้วเพราะเหตุใดจึงตัดสินใจหยุดทำในสิ่งที่รัก
''การร้องเพลงน่าจะไปได้ดีนะคะน่าจะไปได้เรื่อยๆ เราก็มีใจรักเสียงเพลง มีค่ายเทปสนับสนุน และที่สำคัญก็คือมีผู้ฟังช่วยกันสนับสนุนนักร้องคนนั้นก็คงจะอยู่ได้นาน แต่ในช่วงหนึ่งที่เค้าเรียกว่าช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ช่วงนั้น แล้วก็ตอนนั้นทางนิธิทัศน์ก็ไม่มีนโยบายที่ออกผลงานชุดใหม่ แล้วก็อิ๋วคิดว่าวัยของตัวเอง แล้วเราก็เป็นผู้หญิงมันก็น่าจะวัยสมควรที่จะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้ว ก็ต่อจากนั้นก็ตัดสินใจแต่งงาน งานที่ทำอยู่ก็เลยห่างออกไปทีละนิดโดยที่อิ๋วไม่รู้ตัว ตอนนี้คนที่เจออิ๋วตามตลาดเพราะว่าเป็นแม่บ้านต้องไปซื้อกับข้าวจะถามว่าทำไมคุณอิ๋วไม่ร้องเพลงละเสียดายจังเลยก็ขอบคุณที่ยังคิดถึงกัน แต่ว่าถ้าถามว่า อยากจะกลับมาสู่วงการเพลงไหม ก็คิดค่ะเพราะว่ามันมีงานเลี้ยงแล้วเราก็จะสามารถจะจัดงานเลี้ยงใหม่ขึ้นมาได้อีกค่ะ''
-แล้วทำไมพี่อิ๋วถึงตัดสินใจมาขึ้นคอนเสิร์ตในครั้งนี้คะ
''สาเหตุที่ตัดสินใจขึ้นเวทีคอนเสิร์ตครั้งนี้ มาจากหลักใหญ่ๆ ก็คือความคิดถึงแฟนๆ ทุกๆ ท่านเลยค่ะ ตอนนี้อิ๋วก็มีโอกาสที่จะกลับมาตอนแทนได้บ้าง มันอาจจะไม่ได้เป็นรูปธรรมที่จับต้องมาเป็นชิ้นเป็นอันได้ แต่ว่าถ้าทุกท่านไปที่งานคอนเสิร์ตแล้วก็ รู้สึกว่ามีความสุขไปด้วยกัน ต้องตามไปฟังเลยค่ะมันบรรยายด้วยคำพูดยากมากนะคะ ต้องสัมผัสด้วยตัวเองกับความรักความประทับใจและความทรงจำที่ดีให้กลับไป''
ใครที่คิดถึงบทเพลงที่ทรงคุณค่าเมื่อครั้งในอดีตมาร่วมย้อนวันวานไปกับศิลปินทุกคนคิดถึงในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี จองบัตรกันได้แล้วที่ไทย ทิคเก็ต เมเจอร์ทุกสาขา บัตรราคา800/1,000/1,500/2,500/3,000 แล้วมาร่วมย้อนวันวานไปด้วยกันกับ ''เดอะ เมมโมรี่ ไนท์ คอนเสิร์ต'' คอนเสิร์ตแห่งความทรงจำที่ไม่มีวันลืม
ข่าวจาก สยามดาราเดลี่
_________________
