Resident Evil: Afterlife ภาคล่าสุดของแฟรนไชส์หนังแอ็คชั่น/ไซไฟ
ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 9 กันยายน กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์
ให้กับวงการภาพยนตร์ เมื่อกลายเป็นหนังเรื่องแรกที่ถ่ายทำและตัดต่อในระบบสามมิติ!!
Resident Evil: Afterlife ถือเป็นหนังเรื่องที่สองต่อจาก Avatar ที่ใช้เทคโนโลยี
สามมิติรุ่นล่าสุด โดยใช้กล้อง Sony F35 สองตัวผสมผสานกับระบบสามมิติ คาเมรอน/เพส ฟิวชั่น
ซึ่งทำให้ Resident Evil: Afterlife กลายเป็นหนังเรื่องแรกในโลกที่ใช้กล้องแฟนธ่อมถ่ายทำในระบบสามมิติ
เดอะ แฟนธ่อม คือกล้องที่พัฒนาขึ้นโดยองค์การนาซ่า เพื่อใช้บันทึกภาพ
การปล่อยตัวของกระสวยอวกาศ โดยมันถูกออกแบบให้ถ่ายได้ถึง 1,000 เฟรมต่อวินาที
ขณะที่กล้องวิดีโอธรรมดานั้นสามารถถ่ายได้เพียง 24 เฟรมต่อวินาที
เพื่อที่จะได้ถ่ายทำในระบบสามมิติ กล้องแฟนธ่อมสองตัวถูกติดตั้งไว้สองประเภท คือการวางเอาไว้
ข้างกันเหมือนกับถ่ายทำหนังสามมิติทั่วไป และการวางซ้อนกันบน-ล่างและถ่ายทำด้วยวิธีการสะท้อน โดยกล้องตัวแรก
จะใช้บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่กล้องอีกตัวจะถ่ายเงาสะท้อนของกล้องตัวแรก โดยการติดตั้งทั้งสองประเภท
ก็ถูกปรับมาใช้ในระบบ ฟิวชั่น 3D
ต่างจากหนังสามมิติเรื่องอื่น Resident Evil: Afterlife แทบไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคเลย เพราะ
ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยนักแสดงที่สวมบทเป็นตัวละครและสัตว์ประหลาด ซึ่งทำให้มันกลายเป็น
หนังสามมิติที่มีความพิเศษและแตกต่างยิ่งขึ้น
นิเวน โฮวี่ย์ คนตัดต่อจาก Resident Evil: Extinction ก็รู้สึกตื่นเต้นแทนคนดู
ที่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมเป็นครั้งแรก เขาเล่าว่า "ผมคิดว่าคนดูจะพูดถึงหนังเรื่องนี้ไม่แพ้ Avatar
เพราะว่าความสมจริงของภาพในระบบสามมิติ ความจริงแล้วผมยังไม่เคยเห็นหนังสามมิติในรูปแบบนี้มาก่อน"
ขอขอบพระคุณ ResidentEvil.In.Th
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Innovate: เพื่อนๆอย่าได้ลังเล เมื่อหนังเข้าฉาย โปรดจงร่วมใจตีตั๋วเข้าไปดูกันในรูปแบบ 3 Diemension ด้วยเถิด!!
แก้ไขล่าสุดโดย PYROKINETICIST เมื่อ Fri Jul 30, 2010 8:32 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
