ถ้าจะบอกว่านี่คือคอนเสิร์ตแห่งปี คาดว่าคงไม่มีใครกล้าเถียง เพราะเรียกได้ว่าแม้ค่ำคืนวันฝนตกทั้งเช้าสายบ่ายค่ำ ผลพวงจากพายุแกมี ก็หาได้ไม่มีผลใดๆกับ Maroon5 Live In Bangkok 2012 เพราะแม้จะเป็นการกลับมาเยือนครั้งที่ 3 พร้อมกับอัลบั้มชุดที่ 4 Overexposed ก็ไม่ทำให้เรตติ้งในความอยากดูของคอเพลงสากลบ้านเราลดน้อยลงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับฟีเว่อร์ บัตร Sold Out ทันทีที่เปิดขายไม่เท่าไหร่ และที่สำคัญการมาเยือนบ้านเราในครั้งนี้ Maroon 5 ก็ยังเป็นเจ้าของอันดับ 1 บิลบอร์ดกับซิงเกิ้ลล่าสุด One More Night
3 ทุ่มครึ่งหลังจากจบวงเปิดที่ไม่ธรรมดานาม The Cab ไปแล้ว ขีดความมันส์ และความสนุก ก็พุ่งขึ้นแบบชนิดที่ปรอทแตกทันทีตั้งแต่ 2 เพลงแรก หลังจากเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น นั่นก็หมายถึงสัญญาณของเพลง Payphone ซิงเกิ้ลฮิตจากอัลบั้มล่าสุดของพวกเค้าต่อด้วยแซมพลิ่ง Dont Stop Till You Get Enough ของ Michael Jackson ที่มาพร้อมเพลง Makes Me Wonder แม่เจ้า!!! คุ้มค่าบัตร กลับบ้านได้เลยตั้งแต่ 2 เพลงแรกมันนี่แหละ ใครที่มัวแต่เข้าแถวซื้อเบียร์ก็แซดไป
เสียงทักทายของ Adams Levine เป็นภาษาไทยปนEng สวัสดีครับแบงคอกฮาวอาร์ยูทูไนท์ เท่านั้นแหละแฟนๆ ก็ได้กรี๊ดสลบ ส่งเสียงร้องตามกันต่อรัวๆ เพราะคอนเสิร์ตครั้งนี้ Maroon 5 ขนเอาซิงเกิ้ลฮิตมาเอาใจแฟนเพลงชาวไทยชนิดที่ร้องตามกันได้เกือบทุกเพลง ขึ้นอินโทรกรี๊ด Sunday Morning, If I Never See Your Face Again, Wont Go Home Without You, Harder To Breath ที่มาพร้อมแสงสีและดนตรีสุดจะร็อคและเฟี้ยวจนคนดูนั่งไม่ติดที่ ต่อความมันส์ด้วย Wake Up Call จบด้วยโซโล่กีตาร์สุดร็อคจาก Adams แสงสีงี้อย่าให้เซด เพราะงานนี้ทางวงเล่นกับจอ LED ยักษ์ และ ไฟ Follow ที่คอยพุ่งตาม Adams หรือจะ James Valentine ไปทุกย่างก้าว โดยไม่มีจอโปรเจคเตอร์ซ้ายขวาข้างเวที ให้ซูมหน้าตาโคลสอัพเหมือนทุกคอนเสิร์ตที่ผ่านมา
วู้ว ฮูวๆๆๆ One More Night มาแล้วก็ไปต่อที่ โอ้เยเย่ กับ Misery สนุกสนานกันแบบชนิดไม่มีพักทั้งศิลปินทั้งคนดู เพราะงานนี้ทางวงไม่ได้ยัดเยียดเพลงใหม่แต่กลับประเคนซิงเกิ้ลเข้าใส่ชนิดที่โก่งคอร้องตามกันได้หมด และเพลงที่ร้องกันระงมที่สุดก็ต้อง This Love ปิดท้ายคอนเสิร์ตในเวลาชั่วพริบตา 1 ชั่วโมง คอนเสิร์ตจบ ถึงเวลาต้องอังกอร์กันแล้วสิเนี่ย
เสียงจากคุณน้องข้างหลัง เหลือ Payphone เหลือ Moves Like Jagger ล่ะเธอยังไม่เล่น 55 เห็นไหม นั่นไงใครจะไปนึกว่า Maroon5 จะหยิบ Payphone มาเล่นมันเพลงแรก ว่าแล้วก็จัดเซอร์ไพรส์มาอีกกับอังกอร์ Stereo Hearts ที่เจ้าตัวลงทุนแร็พเองแทน Gym Class Heroes แล้วก็มาถึงเพลงฮิตอีกเพลงที่ศิลปินรู้ว่าคนไทยร้องตามกันได้ She Will Be Love เพลงนี้หาอะไรมาเล่นมีการแบ่งฟากแข่งกันร้องนิดหน่อย ฝั่ง A ครึ่งฮอลล์ด้านซ้ายได้ร้อง I dont mind spending everyday, out on your cornor in the pouring rain ฝั่ง B ด้านคุณพี่แหม๋ ง่ายกว่า เราได้ร้องกันแค่ She will be love โอปๆๆๆ เอิฟฟฟฟๆๆๆๆ ก็เลยดังกว่าเป็นที่สนุกสนาน
...หันไปถามคุณเพื่อนสื่อด้วยกัน นี่เธอว่าไหม เราดู Maroon5 กัน 3 รอบ มันสนุกขึ้นทุกรอบ ไม่มีเบื่อ เพื่อนสื่ออีกคนหันมามั่ง Maroon5 เราบอกได้เลยว่าครั้งนี้สนุกมาก สนุกจนไม่น่าเชื่อ แต่เราว่าความน่ารักมันหายไปนะ ความกันเองหรือพูดคุยกับคนดูมันไม่เหมือนเดิมไง Maroon 5 ตอนนี้เป็นซุปตาร์แล้วนะว้อยไม่เหมือนเมื่อก่อน เราว่าวันนี้พูดตามสคริปต์แหละ ประเทศอื่นพูดว่าไงเราก็ได้แบบนั้น เอ๊า! ....จบมันด้วย Move Like Jagger ซิงเกิ้ลฟีเว่อร์ที่งานนี้หลายคนรออยู่ ย้ำอีกรอบว่าเต้นไม่มันส์สู้ One More Night ก็ไม่ได้ ... นั่นเดี๋ยวคุณเพื่อนจะวางมวยกันแล้ว
ขอบคุณ BEC TERO สำหรับคอนเสิร์ตระดับโลกแบบนี้ และคนดูงานนี้ที่ไม่จำกัดวัยและเพศจริงๆ
เด็ก ม.ปลาย ผู้ชายมากันให้พรึ่บพรั่บไปหมด พี่ตูนบอดี้แสลมก็มาด้วยแหละ
แถมภาพจากสมาชิกบอร์ดเราที่ลงทุนจองแถว 2 หน้าสุด
แก้ไขล่าสุดโดย FF_Staff เมื่อ Tue Oct 09, 2012 10:31 am, ทั้งหมด 10 ครั้ง
_________________
Like กดที่รูป
