อย๊ากอยากจะรีวิวอัลบัมนี้มานาน แต่ไม่ได้ฤกษ์มานั่งฟังจริงๆจังสักกะที กับอัลบัมเต็มชุดที่ 5 ของแม่ดำชาวเกาะนาม "ริห์อานน่า" ที่หลังจากผ่านมรสุมชีวิตใน Rated R และกลายเป็น The last girl on earth แล้ว วันนี้เธอจะมาเติมเต็มความสุขในการฟังเพลงของเราอีกครั้ง งานเพลงชุดนี้ขอบอกเลยว่า เป็นงานที่ทำให้ชอบและรักในตัวห่านมาก จนทุกวันนี้นางก็กลายเป็นหนึ่งในฝ่ายผลิตงานเพลงที่ชีวิตนี้ขาดไม่ได้แล้ว พล่ามมานาน มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่างานอัลบัมที่เป็นที่กล่าวขาน เลื่องชื่อฤชา และสร้างอีกตำนานให้สาวคนนี้มีดีอะไรบ้าง
ภาพรวม อัลบัมนี้อย่างที่หลายๆคนเคยอ่านรีวิวของนักเขียนคนอื่นมามากมาย ว่า มันเป็นภาคต่อของ Good girl gone bad และเทียบไม่ได้เลยกับ rated R เพราะทำออกมากะขายตลาดจ๋ามากๆ แต่ส่วนตัวกลับไม่คิดอย่างนั้น ดิฉันคิดว่า นี่เป็นอีกงานที่สดใจเปรี้ยวแซ่บเหมาะกับห่านมากๆ หล่อนทำมาเพื่อที่จะระเบิดความซ่าน ให้คนเข้าถึงได้ง่าย จนทุกวันนี้หลายเพลงก็กลายเป็นซิกเนเจอร์ของเธอไปแล้วโอเค แม้ว่านี่จะไม่ใช่งานระเบิดอารมณ์ความร้สึก เพลงสวนกระแสแปลกแหวกแนว แต่มันก็มีอะไรที่เติมเต็มให้ริฮานน่าเป็นริฮานน่าจนถึงทุกวันนี้ ไหนลองนึกถึงชื่อ แอวริล ลาวีญซิ ว่าคุณเห็นอิสาวพังค์เต้นตบแปะเชียร์ลีดเดอร์ หรือเห็น อีสาวแคนนาเดียวตัวจ้อยนั่งดีดกีร์ต้า ? แล้วแต่มุมมอง แต่ตัวดิฉันของมองในทางที่ว่า นี่คือห่านในแบบฉบับที่ฉันชอบ และ(คิดว่า)เธอเป็น ส่วนด้านดนตรีอัลบัมนี้จะเป็น คลับ เฮาส์ และอาร์แอนด์บี เจือปนโพรแกรมมิ่งและอะไรต่างๆแต่ที่เด่นชัดก็คือ อัลบัมนี้ "ป๊อป" ขึ้นมากๆ และจากมุมมองนี้เอง ดิฉันจึงไม่คิดว่านี่เป็นงานรีมิ๊กส์ของอัลบัมที่สามของเธอ แต่เป็น "ของใหม่" ที่ยังคงความเป็นเธอ(ในด้านที่สดใส)ไว้และรับเอาวัฒนธรรมใหม่จากยุคสมัยเข้ามาปรับใช้ได้อย่างลงตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Rated R จะไม่ใช่ตัวเธอนะคะ
จุดเด่น งานเพลงฉบับนี้ประทัยตราสีแดงโล่ไว้เลยว่าฟังง่ายและติดหูถูกใจตลาดแน่นอน ก่อนที่มันจะทะยานสู่ความ LOUD สมดั่งชื่ออัลบัม ด้วยภาพลักษณ์อิเล็กทรอนิกส์ คลับ อาร์แอนด์บี ที่เข้าสู่ภาคความเป็นเพลงป๊อป ผสมกับเนื้อหาง่ายๆ แรดเริ่ดเชิด เปลี่ยนผู้ชาย เรื่องบนเตียง ฯลฯ จึงไม่ต้องห่วงว่าจะต้องมาปวดหัว ครุ่นคิดถึงความเป็นศิลปะอันหลากหลายและแฝงด้วยแนวคิดจิตวิญญาณอะไรมากมาย ดิฉันฟังเพลงนะคะ ไม่ใช่พระคัมภีร์ประกอบจังหวะเพลง อยากได้แบบนั้นไปอ่านหนังสือปรัชญา โอเคไหม
จุดด้อย เน้นตีตลาดก็ต้องยอมฟังเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์และแฟนคลับทั้งหลายที่ยังคงติดใจในรสชาดความขื่นขมและเข้มข้นในงานชุดที่แล้วอยู่ เพลงต่างๆในที่นี้จะเป็นอะไรที่ ตลาด มากๆ ไม่มีชั้นเชิงวิจิตรศิลป์หรืออะไรแปลกๆ แก่วงการเพลงเลย ไอ้การมิ๊กก็ คลับๆ อาร์แอนด์บี วนเวียนมันอยู่แค่นี้ เนื้อหาก็วกวนแต่เรื่องการผสมพันธ์มากเกินควรไปนิด .. แต่ใครสนล่ะ แบบนี้ไม่ใช่เหรอที่คนทั่วไปต้องการ ลองถามตัวเองดูดีๆแล้วกัน ว่าระหว่างเพลงแฝงปรัชญาชั้นเชิงดนตรีซับซ้อนยากแสนยากที่จะเข้าใจ กับเพลงป๊อปตามสมัย เนื้อหาง่ายๆฉันรักเธอ เธอรักฉัน เราโจ๊ะกัน อู้ว์อ๊าๆ แบบไหนที่คุณฟังแล้วมีความสุขกว่ากัน
01 S&M (3/5)
เปิดอัลบัมด้วยคลับกึ่งสไตล์แบงเกอร์ ผสมด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเสียงเมโลดี้ตะแลดแต้ดแต๋ แต่ดูเหมือนมันจะขาดอะไรไปหลายๆอย่างทางด้านดนตรีซึ่งส่งผลให้ออกมา สด หรือ ดิบมากเกินไป แต่มันก็เข้ากับความหมายดีพิลึก เข้ามาเลยที่รัก แม้นเรื่องอื่นฉันจะไม่ได้เรื่องแต่เรื่องนี้ดิฉันปรมจาารย์ ถึงไม้และหินจะทำกระดูกฉันหักกระนั้นมันก็ยังทำให้ฉันเสียงซ่านถึงทรวงใน อ๊าย เปรี้ยวซ่าห์กันเสียทนไม่ไหว และในเวอร์ชั่นรีมิ๊ก (3.5/5) ได้บริทนีย์ เสปรียร์มาร่วมงานด้วยส่งให้เพลงยิ่งเซกซี่เข้าไปให้ ซึ่งหอกครางได้ชวนสยิวมากแต่ดูเหมือนเธอจะร้องไม่ทันจังหวะประหนึ่งชะนีที่ลิ้นจุกปากตอนสอบสัมภาษณ์ ฯลฯ
02 What's My Name (feat. Drake) (4/5)
โอ้นานา (วอทส์มายเนม) ทันทีที่คำโพล่งขึ้นมา ทุกคนต้องมโนภาพสาวผมแดงในยีนส์สั้นกำลังแหกแข้งแหกขาออก กับเพลงอาร์แอนด์บีจังหวะกลองชัดๆ เคล้าไปกับดนตรีชาวเกาะและเสียงแตรสังเคราะห์ที่เก๋ และเข้าใจประยุกต์ที่สุดในโลก และท่อนแร่ปที่ได้หนุ่มเดรคมาร่วมแจมให้ซิงเกิ้ลนี้เซกซี่ไม่หวัดไม่ไหว แต่ฟังไปนานๆก็เบื่อท่อนผู้ชายยิ่งนัก
03 Cheer (4/5)
ซิงเกิ้ลสุดท้ายของอัลบัมนี้ กับเพลงป๊อปอาร์แอนด์บี ประสมด้วยตรีที่ข้อนข้างโหวกเหวกแต่รวมๆกันแล้วออกมาเข้ากันดีพิลึก แถมได้เสียงแม่สาวแอวริลจาก I'm With You มาประกอบท่อนฮุคให้ติดหู ฟังเพลงนี้แล้วมันให้ความรู้สึกสบายเหมือนคืนปาร์ตี้กับเพื่อนสาว ไม่แครือะไร แค่ดื่มให้มันก็พอ เพลงนี้อาจจะดูยาวไปนิดเพราะหลังๆท่อนที่ไม่มีประโยชน์ได้วินาทีเพิ่มเยอะไปนิด
04 Fading (3.75/5)
ทำไมดิฉันฟังเพลงนี้แล้วตลก ซิมเพิ้ลเพลงด้วยโซลออเคสต้าจางๆและคอรัสประหนึ่งเสียงคนพี้กัญชาหัวเราะ ต่อด้วยอาร์แอนด์บีจังหวะนุ่มนวลคลอไปกับเสียงกดเพียโนนุ่มๆ และท่อนฮุคเพราะๆในจังหวะสบาย ระรื่นหูมากๆ ท่อนท้ายจะมีดนตรีคล้ายๆกับเสียงเป่าหีบเพลง(?)เข้ามาด้วย
05 Only Girl In The World (4/5)
ตอนแรกที่ฟังเพลงนี้ว่าเป็นลีดซิงเกิ้ล ดิฉันก็เบ้ปากเป็นรูปเขาวงกตทันที อะไรกันค้าดนตรีแรงมาก ฉีดๆ ฟังไม่รู้เรื่อง จนมาได้ตั้งสติฟังดีๆ ว่าสิ่งนี้นั้นคือองค์ประกอบของ เฮาส์จังหวะหนุบหนับ ผสานกับโพรแกรมมิ่งเร่งดนตรี ตื้ดๆ แบบที่เด่นชัดและท่อนฮุค-ความหมายที่เก๋ไก๋เสียไม่มี จุดเด่นนั้นอยู่ที่คอรัสสุดท้ายที่แม่ลากเสียง ออนลี่เกอร์ลอินเดอะเวอร์ล สี่ครั้งนั่นแหละเพลงนี้เลยพอจะเด่นขึ้นมาบ้าง
06 California King Bed (4/5)
สตริงบัลลาร์ด ที่เพราะมากๆ บัลลาร์ดที่เพราะมากๆเพลงนึงในชีวิตของห่าน ด้วยเสียงกีร์ต้าไฟฟ้าที่โดเด่นและเข้มข้นบาดใจผนวกกับเสียงร้องที่เข้ากับอารมณ์เพลงมากๆ แย่หน่อยตรงที่ท่อนสุดท้ายท่อนฮุคเยอะมาก เลยเฟ้อเกินไปกว่าที่จะประทับใจ กระนั้นความหมายเปรียบเปรยในเพลงที่ก็เข้าใจทำเหลือเกิน ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมจึงตั้งชื่อเพลงแบบนี้
07 Man Down (4/5)
นึกไงตัดเพลงนี้พร้อมกับเพลงบนก็ไม่รู้ เลยไม่ไม่ถึงฝันทั้งคู่เลยน่าเสียดายจริงๆ เพลงนี้เป็นอาร์แอนด์บี ผสมลูกเล่นดนตรีพื้นบ้านฉบับชาวเกาะแบบเต็มที่ และคำสารภาพผิดของอีสาวผิวสีที่เพิ่งจะใจแตก หลังจากสูญเสียความบริสุทธิ์แล้วก็คว้าปืนไประเบิดสมองตัวผู้ที่สร้างมนทินแก่ร่างของหล่อน ก่อนจะโวยวายเช็ดมาสคาร่าไหลย้อยมารำพึงรำพัน แม่ขา หนูยิงผัวหนู หนูรักเขา แต่หนูก็ฆ่าเขา อร๊าย ปัง ปัง ปัง ซึ่งแม่คุณประยุกต์มาเป็นท่อนติดหู ปรัมๆๆ เก๋เว่อค่ะ
08 Raining Man (feat.Nicki Minaj) (3/5)
อร๊าย เห็นชื่อคนฟีทแล้วเกิดอาการลังเลว่าจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วแอบลบเพลงนี้ทิ้งก่อนเลยดีไหม โชคดีที่ไม่ทำ ขึ้นต้นกันเลยกับเสียงคอรัส และเสียงแทรกโหวดเหวก ตัดกับดนตรีปรบมือดิบๆ เข้าสู่ตัวเพลงจริงที่เป็นป๊อปอารืแอนด์บี ที่ส่วนของห่านออกมาติดหู เก๋ และเริ่ดค่ะ ต่อที่ท่อนฮุคโหวกเหวกโวยวายและเสียงไซเรน และแล้ว นิกกี้ก็ออกมา ในภาคที่เป็นฮิปผ่อปจังหวะดิบๆ ผสมเสียงนู่นนี่นั่นเละเทะ แต่ยังไม่เกินไปที่ฟังนัก
09 Complicated (3.5/5)
ซินธ์โซลดนตรีสวยงาม และเสียงของห่านเพียวๆผสมกับดนตรีปิ้งๆไปมา เร่งจังหวะเป็นอาร์แอนด์บีเออร์เบิน เสริมดนตรีให้มากขึ้นแล้วก็ตัดกลับอารมณ์เดิม เพราะดี แต่จะเก๋มากถ้าท่อนหลังๆทำเป็นอิเล็กโทรแดนซ์เต็มสตรีมกว่านี้
10 Skin (2/5)
ถูกใจล่ะซี้ ! ความหมายเพลงนี้น่ะ มาดูงานดนตรีก่อนเริ่มต้นด้วยแอมป์เบียนต์แล้วเสริมดนตรีเป็นอาร์แอนด์บีจังหวะดิบๆในช่วงกลาง คลอกับซินธ์ที่ฟังคล้ายกับเสียงช่องฟรีซน้ำแข็ง ถ้าทนได้ถึงท่อนบริดจ์จะมีเสียงกีร์ต้าไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาด้วย แต่มันน่าเบื่อมากๆเลยให้ตายเถอะ
11 Love The Way You Lie Pt.2 (feat.Eminem) (4/5)
ภาคต่อในรูปแบบเพลงช้าของหนึ่งในซิงเกิ้ลสุดฮอตแห่งยุค เริ่มต้นด้วยเสียงของห่านและเพียโนนวลๆ สู่ท่อนฮุคเนื้อเดิมเสริมจังหวะโกธิคหนักๆสไตล์บัลลาร์ดร๊อกและช่วงการร้องที่หนืดๆแปลกพิกล ที่เหลือก็อาร์แอนด์บีบัลลาร์ดจังหวะหนักๆตามเดิมค่ะ ชวนเคลิบเคลิ้มมาก แต่ทันใดน้น เสียงแร่ปสุดโฉดของเอ็มก็ขึ้นมาให้ดิชั้นร้องอี๋ๆ เพราะมันโหดและน่ารำคาญมากกว่า โอเค ด้านความหมายอาจจะส่งต่อกัน แต่ด้านดนตรีแล้วแบ่งแยกเหลือแสน น่ารำคาญ ไม่รู้แร่ปจบจะลากนังห่านขึ้นรถซ้อมตามคริสบราวน์หรือเปล่า ดุเกิ๊น !
มีอะไรอยากจะพูดอีกมากมายเกี่ยวกับอัลบัมนี้ แต่ตอนนี้ยังคิดอะไรออกไม่มาก ฉนั้นขอเอาไว้เท่านี้ก่อน ขออภัยนิดนึงที่ภาพรวมตอนเขียนถึงไม่ค่อยตรงประเด็นที่ว่าเป็นภาคสองของ GGGB เท่าไหร่ ไว้นึกออกเมื่อไร จะแอบมาอีดิทแก้ไขเพิ่มเติมแล้วกันนะคะ
อ้างอิงจาก:
บับแว่ ใครชอบเพลงคลับแดนซ์ หรืออะไรพวกนี้ล่ะก็ไม่ควรพลาดค่ะ อัลบัมนี้เจิดจรัศตอบโจทย์แดนซ์ฟลอจริงๆ แต่ใครที่ยังติดกับห่านที่ทำเพลงปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ เก๋แปลกแหวกตลาด ก็คงต้องทำหน้าเจื่อนๆก่อนกด skip เบาๆ
