
http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/08/30/get-into-the-groove-eminem-berzerk-hardcore-raphip-hoprap-rock-100-55/comment-page-1/#comment-140
http://www.facebook.com/HysteriaCulture
Eminem : Berzerk : Hardcore Rap/Hip-Hop/Rap Rock (100% = 5/5)
จะว่ามากันแบบไม่ทันให้ได้ตั้งตัวเลยก็อาจจะไม่ถูกนักเพราะว่าดิฉันเองนี่ก็ไม่ได้สนใจติดตามข่าวคราวของป๋า เอมิเน็ม มาเรียกได้ว่าล่อไปจะค่อนทศวรรษที่แล้วเลยก็ว่าได้เพราะอันที่จริงแล้วป๋าแกกับทางต้นสังกัดอาจจะโหมประโคมข่าวของซิงเกิ้ลคัมแบ็คนี้ให้แฟนๆได้น้ำหูน้ำลายสอตื่นตะลึงพรึงเพริดตีปีกกับพั่บๆๆๆๆชนิดใหญ่โตด้วยความที่ใช้เวลาปรึกษากับตัวเองมานานจนทำความเข้าใจกับตัวเองว่าท้ายที่สุดแล้ว ฮิพฮอพ นี่มันก็ไม่ใช่แนวทางสำหรับดิฉันเอาซะเลยจริงๆ
แต่จะว่าไปถึงกระนั้นป๋าเน็มท่านก็เป็นศิลปินฮิพฮอพเพียงคนเดียวที่สามารถสะกดจิตให้ดิฉันควักตังค์จ่ายเงินซื้อซีดีของท่านมาได้ทั้งๆที่ส่วนตัวแล้วเกลียดเพลงประเภทแร็พและฮิพฮอพเหลือแสนอานะด้วยเพราะความ หลง ในขณะนั้นที่ทำให้ดิฉันยอมฟังในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของตัวพร้อมกับติดตามทุกสิ่งทุกอย่างทุกความเคลื่อนไหวของศิลปินท่านนี้ซึ่งก็น่าจะสะท้อนสัจธรรมที่ว่าความบ้าผู้ชายนี่มันอันตรายพอๆกับความรักที่ทำให้คนตาบอดเสียจริง อย่างไรก็ตามก็หาได้เสียดายเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เคยละลายไปกับผลงานป๋าไม่แม้จะเป็นเพียงไม่กี่ชุด (ที่ซื้อชุดล่าสุดน่าจะ Eminem Show กับรวมฮิตที่ชื่อ Relapse กระมัง) แต่ก็นับว่าคุ้มค่าสำหรับการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆได้อย่างดี
หลังจาก Just Lose It ที่ออกมาเฉิ่มและเฝือประหนึ่งไม่เหลือมุขใดๆมาสร้างความตื่นตาตื่นใจประดับโลกาอีกแล้วอิฉันก็แอบหันมาชำเลืองผลงานของพี่อีกครั้งในซิงเกิ้ล Love The Way You Lie ที่ร่วมงานกับสาวริฮานน่าที่นับว่าโดนใจเลยทีเดียวจนมาทำเอาตาเบิกโพลงขนหัวลุกซู่จังๆเอาก็อี Berzerk ซิงเกิ้ลเปิดตัวเพลงล่าสุดนี่ล่ะค่ะซึ่งก็นับว่าเป็นงานปล่อยของปล่อยลูกบ้าตามแบบฉบับของเอมิเน็มแท้ๆสมกับตัวอัลบั้มที่อ่านจากแฮชแท็คที่ว่า #MMLP2 ก็อาจจะย่อมาจาก Marshall Matthers LP 2 (นี่เดาเอา) ซึ่งก็มีลุ้นว่างวดนี้ป๋าแกอาจจะมีสิทธิ์หวนคืนสู่การนำเสนอชิ้นงานมาสเตอร์พีซในแบบสมัยต้นยุคก็เป็นได้เพราะดูจากการนำเสนอในซิงเกิ้ล Berzerk นี้แล้วก็คงต้องบอกว่าโฉดและดิบถ่อยสมใจรอคอยกับงานฮาร์ดคอร์แร็พดุดันหนักแน่นที่ยืนพื้นระหว่างความเป็นฮิพฮอพและร็อคได้อย่างลงตัวจะว่าไปก็แอบนึกถึงงานแร็พร็อคของพวก Run DMC สมัยช่วงยุค80sอยู่ตะหงิดๆแต่อย่างไรก็ตามงานนี้นับว่าเข้าทางป๋าและมีความเป็นตัวตนของเอมิเน็มสูงมากไม่ว่าจะทั้งจากสรรพสำเนียงการแร็พเถื่อนๆเกรียนๆตามสไตล์รวมถึงแทรกวัฒนธรรมอีสโคสต์จำพวกแก๊งคสทาแร็พถ่อยๆอัดซาวนด์สแครชเฟี้ยวฟ้าวเข้ากับบีทร็อคชนิดเล่นเอาซะหัวหมุนใจสั่นไปข้างจะว่าไปนี่มันก็งานจำพวกคลับฮิพฮอพใต้ดินแบบที่เห็นๆกันในภาพยนตร์เรื่อง 8 Miles ที่ป๋านำแสดงยังไงยังงั้นแลซึ่งส่วนตัวขอชมว่าดุเดือดและทรงพลังมากๆฟังแล้วก็อดนึกถึงความเด็ดดวงแสบทรวงของป๋าสมัยช่วงพีคๆไม่ได้ - จากเท่าที่ดูแล้วก็เชื่อว่าพวกเรามีความหวังที่ค่อนข้างสูงทีเดียวที่จะได้เห็น Marshall Matthers คนเดิมที่มืดหม่น กวนตีนและเกรี้ยวกราดแต่เปี่ยมมนตร์เสน่ห์กลับมาอีกครั้ง