
http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/09/18/get-into-the-groove-katy-perry-ft-juicy-j-dark-horse-electropoprburban-pop-65-35/comment-page-1/#comment-169
hysteria
Katy Perry Ft.Juicy J : Dark Horse : Electropop/R&B/Urban Pop (65% = 3/5)
ล่าสุดเพิ่งประกาศศักดาไปกับ Roar ซิงเกิ้ลเปิดตัวที่คว้าตำแหน่งเจ้าของอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดชาร์ตมาไว้ในอ้อมกอดของเธอคนนี้อีกครั้งส่งผลให้สาว เคที่ เพอร์รี่ ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปินหญิงที่ขยันส่งเพลงขึ้นอันดับหนึ่งเป็นว่าเล่นเรียกได้ว่าวินาทีนี้นี่สาวคนนี้เป็นขวัญใจบิลบอร์ดชาร์ตและItunesโดยแท้ชนิดที่ศิลปินคู่แข่งท่านอื่นๆอาจจะรู้สึกเขม่นอยากตบในใจสงสัยว่ายัยแขไขนี้ไปลงของดีสำนักไหนมาหนอถึงได้กำลังวังชาความนิยมดีไม่มีตกขนาดนี้
ซิงเกิ้ลแรกเพิ่งจะขึ้นอันดับหนึ่งไปไม่ทันไรหญิงแขก็เร่งออกอาวุธชนิดทันท่วงทีหลังจากที่ Roar สามารถสอยApplauseของคุณยายวรนาถมารดาอสูรรวมไปถึงเพลงที่ผงาดครองอันดับหนึ่งมาสักระยะอย่างBlurred Linesของอาเฮียโรบิน ธิ๊คจนร่วงกราวมาแล้ว งวดนี้เคที่ขาขอปล่อย Dark Horse ที่คาดว่าน่าจะเป็นซิงเกิ้ลถัดไป (หรือแค่ Promotional Single ไม่แน่ใจ?!!!) ออกมาต้านตัวแม่อย่างเจ๊หอก บริทนี่ย์ สเปียรส์ เจ้าหญิงเพลงพ็อพที่ก็เพิ่งจะส่ง Work Bitch ขึ้นไปครองอันดับหนึ่งบน Itunes 40กว่าประเทศทั่วโลกไหนจะหนู ไมลี่ย์ ไซรัส กับ Wrecking Ball ที่กำลังมาแรงแซงโค้งไม่เกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมและหัวหงอกหัวดำท่านใด ซึ่งก็นับว่าครั้งนี้เหล่าเคที่แคทคงต้องร่วมลุ้นกับเธอชนิดหืดขึ้นคอนิดหน่อยเพราะคนหนึ่งก็บารมีเป็นถึงระดับราชินีของวงการส่วนอีกคนก็ปาดหน้าเค้กขโมยซีนดับทั้งเธอและกาก้าจนเป็นเทรนด์ของ VMA ปีล่าสุดมาแล้ว (แต่พูดๆก็พูดเถอะวินาทีนี้อีตัวหลังน่ากลัวกว่าเพราะขนาดบริทนี่ย์ยังติดแหง็กอยู่ที่สองก็เพราะนางจอบศรีนี่แหละ)
ขอสารภาพว่าตอนแรกที่ได้ฟัง Dark Horse ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆไปยันไม่ค่อยจะประทับใจเท่าไรกับเพลงเออร์บันพ็อพดำปิ๊ดปี๋มิดหมีที่บีบเอาบีทอาร์แอนด์บีชนเข้ากับอิเล็คโทรนิคซึ่งฟังๆไปแล้วเหมือนกับจะเดินตามความสำเร็จของซิงเกิ้ล E.T. ที่ยิ้มแป้นเป็นงานอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดชาร์ต (ได้ยังไงวะ?!!!) ของเธอเช่นกันแต่พอฟังไปฟังมาตาก็มาสว่างเอาตอนเขียนวิจารณ์นี่แหละด้วยความที่แม้จะฟังแล้วคิดถึง E.T. แต่เรื่องหีบห่อชั้นเชิงดีกว่าเป็นเท่าตัวนะคะคุณขาตั้งแต่การทดลองเอาบีทอาร์แอนด์บีฮิพฮอพติดกลิ่นอายตะวันออกกลางตามวัฒนธรรมของพวกศิลปินที่มาสายอาร์แอนด์บีมาเล่นกับมิติของโพรแกรมมิ่งอิเล็คโทรนิคต่างๆนับว่าแพรวพราวใช้ได้ไหนจะความติดหูหนึบของตัวเพลงที่ความอันตรายของเมโลดี้อันแสนจะหลอนประสาทนี้ทำงานได้อย่างดิบดีเคียงคู่ไปกับความเป็น เคที่ เพอร์รี่ ที่สูงเสียดฟ้าทำให้ฟังๆแล้วจากตอนแรกงั้นๆกลายเป็นน่าจับตาว่านี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ช่วยขับเคลื่อนให้แก่สงครามธีม #ปลายปีชะนีเดือด ก่อนจะย่างเข้าไตรมาสสุดท้ายของปีให้ร้อนระอุไปทั่วซอกหลืบหัวระแหงก็เป็นได้ตั้งแต่อันดับบนชาร์ตยันสตาตัสของแฟนๆนั่นแล งานนี้นอกจากความมันส์เข้มข้นหยดติ๋งๆแล้วเชื่อว่าทั้งตัวบรรดาศิลปินและเหล่าแฟนคลับคงจะได้แผลเหวอะหวะงามๆไปตามๆกันแน่นอน - ดนตรีกับดราม่าเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร!