˹���á Forward Magazine

ตอบ

สุสานนักเรียน ตอนที่2 (Part1)
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ สุสานนักเรียน ตอนที่2 (Part1) 


http://hysteriaculture.wordpress.com

hysteria

สุสานนักเรียน ตอนที่2 สุภาพสตรีชุดขาวกับการจองจำมรณะบนชั้น8

บทความ/นิยา่ยในเพจ Hysteria นี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์แก่ผู้เขียน “นายมัลนร ล้ำสกุลวงศ์” (https://www.facebook.com/ArmandVladJekyllDangouleme8774 และเพจ http://www.facebook.com/hysteriaculture )เท่านั้น ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง คัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใด หรือนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ

แอนดี้กลับมาถึงห้องพลางทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนล้าถึงกระนั้นเด็กหนุ่มก็ยิ้มออกมาด้วยหัวใจที่กระโดดโลดเต้นอย่างเป็นสุข ทุกสิ่งทุกอย่างในพิธีไหว้ครูวันนี้ผ่านไปด้วยดีไม่เสียแรงจริงๆที่พวกเขาทั้ง4ลงทุนลงแรงฝึกซ้อมอย่างหนักแม้ว่าจะไม่มีมิสอุไรมาคอยฝึกซ้อมให้แต่ทางโรงเรียนก็สามารถหาครูวิชานาฏศิลป์เข้ามาสอนพิเศษพวกเขาได้อย่างทันท่วงที แอนดี้คิดทบทวนถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่เรือนนาฏศิลป์กลางน้ำเรื่องราวชวนขนลุกจากคำบอกเล่าของเพื่อนๆที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืนนั้นแม้ว่าทุกวันนี้เรือนไทยที่ดูสง่างามและสยดสยองในเวลาเดียวกันจะอันตรธานไปจากเซนต์มาบุสแล้วก็ตามแต่ทุกครั้งที่เขาหันไปมองก็ยังคงรู้สึกว่ามันยังคงตั้งอยู่ตรงนั้นไม่ได้หายไปไหนจะว่าไปเขาก็อดเสียดายไม่น้อยทีเดียวที่คืนนั้นเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ในคืนทีเกิดไฟไหม้นั่นด้วย

แอนดี้หยิบไอโฟนของตัวเองมาเปิดดูก่อนจะยิ้มเมื่อเขาคลิ๊กเข้าไปดูภาพที่เขากับคิรินทร์ถ่ายคู่กัน คิรินทร์ก็ยังดูเป็นคนที่ลึกลับเหมือนเดิมเชื่อเถอะว่าถึงห้องเรียนชั้นม.5จะมีแค่3ห้องเขาก็ไม่เคยจะเห็นคิรินทร์ตอนเข้าแถวเลยด้วยซ้ำแม้แต่วันนี้ตอนที่แอนดี้รำอยู่บนเวทีในพิธีไหว้ครูเขาก็พยายามที่จะเหลือบลงมาที่แถวของม.5ตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคิรินทร์จนเขาเงยหน้าขึ้นมองชั้นบนของหอประชุมถึงได้เห็นว่าคิรินทร์กำลังยืนปรบมือให้กำลังใจเขาอยู่ “นายคงจะเกเรมากจริงๆสินะ” แอนดี้มองรูปของคิรินทร์พลางยิ้มหวานคิดถึงวันที่คิรินทร์เข้าไปปกป้องเขาตอนมีเรื่องกับฮาเวิร์ด “แต่นายดีกับฉันมากรู้มั้ย?” แอนดี้นอนเพ้อถึงตอนที่เขาซบไหล่คิรินทร์ เขายังจำวันแรกที่เด็กหนุ่มเข้ามาแตะหน้าผากและจับแก้มเขาที่ห้องพยาบาลได้ดีรวมถึงวันที่คิรินทร์เอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเหงื่อให้เขาซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เขาไม่มีวันลืม “ฉันคิดถึงนายจัง” แอนดี้กดโทรศัพท์หมายจะโทรหาคิรินทร์แต่แล้วก็ต้องวางมันลง ใจของเขายังไม่พร้อมจะรับกับสิ่งที่เขาอาจจะรู้สึกจริงๆ แอนดี้พล็อยหลับไปทั้งๆที่ยังกำโทรศัพท์อยู่ก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอน6โมงครึ่งจากเสียงนาฬิกาปลุกด้วยความผิดหวัง “แค่โทรหาเขาทำไมเราถึงไม่กล้านะ!!!” แอนดี้บ่นกับตัวเองอย่างหงุดหงิด

“สวัสดีครับชาวเฟซบุ๊คส์ ยูทูบและโซเชี่ยลแคมทุกท่านกระผมฮาเวิร์ดหัวหน้าชมรมเน็ตไอดอลนักสืบเยาวชนประจำโรงเรียนเซนต์มาบุสวันนี้เราจะขอสัมภาษณ์ซุป’ตาร์คนล่าสุดของห้องม.5/3 คือมันเรียนโรงเรียนนี้มาตั้ง5ปีก็เพิ่งถือกำเนิดเมื่อวานครับ เห็นคนเสื้อแดงที่กำลังเล่นสเก็ตบอร์ดกลางกลุ่มมั้ยครับ? มันชื่อ ‘คริสมาสต์’ เห็นแบบนี้เมื่อวานมันเป็นตัวแทนรำไหว้ครูของโรงเรียนเลยนะครับแค่เวทีแรกสาวๆก็กรี๊ดกันทั้งโรงเรียนแล้ว ว่าแล้วเดี๋ยวเราไปสัมภาษณ์เขากันครับ” ฮาเวิร์ดพูดจบดีไซน์ก็สั่งคัท “เก่งมากๆค่ะดาร์ลิ่ง เดี๋ยวช่วงนี้บรูโน่ก็ตัดต่อคลิปที่คริสมาสต์รำไทยแล้วใส่ลงไปในคลิปด้วยนะ” ดีไซน์ที่เดินเอากระดาษซับมันมาซับหน้าที่ใสปิ๊งๆอยู่แล้วของแฟนหนุ่มหันกลับไปบอกบรูโน่ “It’s fucking boring!!!” ฮาเวิร์ดพูดเหวี่ยงๆ “อะไรกันพวกเราตั้งชมรมนักสืบขึ้นมาเพื่อ?!!! นี่มันก็จะเป็นเดือนแล้วหลังจากมาสเตอร์พีซที่พวกเราถ่ายไว้ที่เรือนไทยก็โดนพ่ออธิการสั่งห้ามอัพ นี่เราก็มีแค่คลิปกะโหลกกะลา3-4คลิปจนมีคนมาโพสด่าว่านักสืบเชี่ยอะไรไม่เห็นมีผลงาน” ฮาเวิร์ดระเบิดมาเป็นชุด “ก็ทำไงได้ล่ะวะ เมมที่ถ่ายไว้ที่เรือนไทยก็โดนพ่ออธิการยึดไปแล้ว เราก็ทำได้ดีที่สุดแค่นี้ล่ะ” บรูโน่พูดเศร้าๆ ในขณะที่ดีไซน์กับฮาเวิร์ดหันมามองหน้ากันอย่างไม่ค่อยสู้ดี

“สวัสดีครับซุป’ตาร์!!!” ฮาเวิร์ดเดินเข้าไปที่ลานสเก็ตบอร์ดยกมือไหว้คริสมาสต์ที่เพิ่งล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้นอย่างแรง “อะไรกันวะ?!!!” คริสมาสต์ยืนขึ้นปัดก้นด้วยสีหน้างุนงง “ตอนนี้คุณออกรายการของทางชมรมเราอยู่นะครับคริสมาสต์ ทางชมรมนักสืบเยาวชนสนใจขอสัมภาษณ์คุณในฐานะ ‘เซเล็บ’ หนุ่มสุดร้อนแรงคนใหม่ของเซนต์มาบุส…” คริสมาสต์รีบเปลี่ยนสีหน้ามู่ทู่มาเก๊กหล่อทันควัน ฮโยมินกำลังนั่งมองคริสมาสต์ที่กำลังหัวเราะเฮฮาเล่นกับกล้องของฮาเวิร์ดด้วยแววตาเคลิ้มฝัน “เธอชอบเขาก็บอกเขาไปสิ มานั่งมองตาเยิ้มแบบนี้ไม่ได้เรื่องราวอะไรหรอก” ฟารีดาที่กำลังกระหน่ำนั่งแช็ตทั้งLINEและFacebookอยู่พูดขึ้นอย่างรู้ทัน “บ้า!!!! ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นซะหน่อย” ฮโยมินหันมาพูดกับฟารีดาด้วยทีท่าที่แสดงถึงความเขินอายอย่างไม่ปิดบัง “เอาเหอะ!” ฟารีดาแช็ตต่ออย่างไม่สนใจ

“นักเรียนกลุ่มนั้นน่ะ! นี่อีกสิบนาทีก็จะเข้าแถวอยู่แล้วทำไมถึงไม่รู้จักไปเตรียมตัว?!!!” ทุกคนหันไปมองซิสเตอร์สากุลวดีที่เพิ่งจะแผดเสียงใส่พวกเขาจากตรงกลางสนามบาส “อ๋อ ครับผมแล้วนี่ก็เป็นโอกาสดีที่ผมจะขอแนะนำ ‘ซิสเตอร์สากุลวดี’ นะครับ ท่านเป็นซิสเตอร์ฝ่ายปกครองคนใหม่ของโรงเรียนเราเพิ่งมาแท้ๆก็บ้าอำนาจซะแล้ว ไม่มีใครชอบเลยจริงๆครับ” ฮาเวิร์ดฉวยกล้องวิดีโอมาจากบรูโน่พร้อมถ่ายไปที่ซิสเตอร์สากุลวดี ที่โกรธจัดวิ่งเข้ามาหมายจะตะปบกล้องในมือเขาแต่ฮาเวิร์ดที่รวดเร็วกว่าเต้นหลบด้วยท่วงท่าบีบอยทำเอานักเรียนทุกคนบริเวณนั้นถึงกับหัวเราะเพราะอดขำท่าของสากุลวดีที่พยายามจะวิ่งตามยื้อแย่งกล้องวิดีโอมาจากมือเขาไม่ได้

“ก็ดูสิครับแบบนี้จะมีใครชอบมั้ย? เอ้าพวกเรามีใครชอบซิสเตอร์บ้าง!!!!” ฮาเวิร์ดทั้งเต้นหลบหลีกและหมุนตัวไปรอบๆเช่นเดียวกับสากุลวดีที่โกรธจัดจนหน้าแดง เธอกรีดร้องและตัวสั่นเทิ้มพลางวิ่งตามที่จะยื้อแย่งกล้องจากมือฮาเวิร์ด ฮาเวิร์ดถ่ายทั้งอิริยาบถที่ดูบ้าคลั่งและน่าขบขันของซิสเตอร์ฝ่ายปกครอง พลางหันไปหากองเชียร์ที่พร้อมใจกันตะโกนให้กำลังใจเสียงดังลั่น “ใครอยากเป็นเน็ตไอดอลกรี๊ดดังๆ” ฮาเวิร์ดตะโกนระหว่างที่ถ่ายไปที่กองเชียร์ก่อนจะยืนตัวแข็งทื่อเมื่อมิสมาลินเดินแหวกกองเชียร์ออกมาด้วยสีหน้าที่เตรียมพร้อมจะระเบิด “ฮาเวิร์ด!!!” มิสมาลินแผดเสียงจนเด็กหนุ่มถึงกับหน้าเจื่อนแล้วยืนก้มหน้าลง “เอามานี่สิก่อเรื่องอีกแล้ว!!!” มิสมาลินฉวยกล้องมาจากมือก่อนที่เธอจะยืนนิ่งด้วยความตกใจเมื่อซิสเตอร์สากุลวดีหมุนตัวฮาเวิร์ดกลับมาหาอย่างแรงก่อนที่จะตบหน้าเด็กหนุ่มฉาดใหญ่จนเขาเซถลา ฮาเวิร์ดดูเหมือนจะตกใจเพราะตั้งแต่เขาเรียนโรงเรียนนี้มาไม่มีอาจารย์หรือซิสเตอร์คนไหนกล้าลงไม้ลงมือกับเขาแบบนี้ ก่อนที่มาลินจะทันเอ่ยปากห้ามปรามอะไรสากุลวดีได้คว้าก้อนหินขึ้นมาแล้วทุบเข้าไปที่ศรีษะของฮาเวิร์ดที่เคราะห์ดีถอยตัวหลบทันจึงโดนเพียงแค่หางคิ้ว “โอ๊ยๆ” เด็กหนุ่มกุมหัวที่เลือดเริ่มไหลอาบ สากุลวดีเงื้อมือหมายจะซ้ำแต่มาลินวิ่งเข้าไปคว้ามือเธอไว้ก่อนจะดันร่างของซิสเตอร์ฝ่ายปกครองให้ถอยห่างลูกศิษย์เธอออกไปอย่างแรงเช่นเดียวกับดีไซน์ที่รีบวิ่งเอาตัวมากันฮาเวิร์ดไว้ “เฮ้ย ฮาเวิร์ด เป็นไงบ้างเลือดออกเต็มเลย!!!” คริสมาสต์ถามอาการเพื่อนด้วยความเป็นห่วงก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าตัวเองขึ้นมากดแผลเข้าไว้ “เอาไปเฆี่ยน เอาไปตีซะยังจะดีซะกว่า คุณรู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรลงไป?!!!” มาลินคำรามใส่หน้าสากุลวดีอย่างโกรธจัด “นี่แม่มาลินฉันจะบอกว่าน้อยไปด้วยซ้ำนะ เอาเลือดชั่วมันออกซะบ้างน่ะดีแล้ว จะได้รู้จักที่สูงที่ต่ำมีสัมมาคารวะสั่งบ้าง ฉันว่าครูบาอาจารย์ที่นี่ถือหางลูกศิษย์เกินไปจนเด็กมันเสียคนอย่างที่เห็นนี่ไงล่ะ!” สากุลวดีกอดอกพลางยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมโดยปราศจากท่าทีที่แสดงถึงความรู้สึกผิดใดๆต่อเรื่องที่เกิดขึ้น “น่าละอาย เลวที่สุด ฉันไม่คิดเลยนะว่าคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าอย่างซิสเตอร์จะมีพฤติกรรมที่โหดร้ายเลวทรามขนาดนี้ ปกครองแบบนี้สินะนักเรียนที่วิทยาเขตุหาดใหญ่ถึงเหลือกันอยู่ไม่กี่คน!!!” มาลินแผดเสียง “ยังไงซะในฐานะฝ่ายปกครองฉันคงต้องขอยึดกล้องวิดีโอนี้และก็เอานักเรียนชายคนนี้ไปลงโทษตามระเบียบ” สากุลวดีพูดอย่างเป็นต่อ “ฉันไม่ให้และอย่าได้กล้าดีมาแตะนักเรียนห้องชั้นด้วย!!!” มาลินชี้หน้าสากุลวดีเธอตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธจัดจนนักเรียกทุกคนถึงกับตกใจเพราะไม่มีใครเคยเห็นมาลินบันดาลโทสะใส่ใครถึงขนาดนี้หากแต่สากุลวดียังคงยืนจ้องหน้าของเธอโดยปราศจากท่าทีหวาดกลัว “ดีไซน์พาฮาเวิร์ดไปห้องพยาบาลและพวกเธอทุกคนไม่ได้ยินเสียงมารช์โรงเรียนกันรึยังไง?!!! ไปเข้าแถวกันเดี๋ยวนี้!!!!!!” มาลินหันมาตะโกนใส่นักเรียนทุกคนที่ต่างวงแตกรีบจู๊ดไปเข้าแถวอย่างว่าง่าย

สากุลวดีเดินตรงกลับไปที่ห้องฝ่ายปกครองโดยไม่สนใจจะปฏิบัติหน้าที่คุมแถวและขึ้นอบรมเด็กนักเรียนบนเวทีตามหน้าที่ของเธอประจำเช้าวันศุกร์ เธอกระแทกประตูห้องอย่างแรงก่อนที่จะกรีดร้องอย่างคลุ้มคลั่งสากุลวดีปัดเอกสารที่อยู่บนโต๊ะทำงานของเธอจนปลิวหล่นกระจายเต็มพื้น เธอเขวี้ยงแก้วกาแฟของเธอใส่กำแพงอย่างแรงจนแตกเป็นเสี่ยงๆก่อนที่เธอจะหยิบรูปของมาลินขึ้นมาแล้วคว้าหมุดเสียบใบลาขึ้นมาแล้วกระหน่ำปักลงไปอย่างไม่อย่างท่ามกลางเสียงคำรามกรีดร้องและหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่งของเธอจนกระจกที่รองโต๊ะทำงานของเธอถึงกับแตกร้าวเป็นแนวยาว “เห็นทีฉันจะต้องทำอะไรสักอย่างกับพวกลูกกระจ๊อกพวกนี้ซะแล้ว!!!” สากุลวดีกระแทกหมุดเสียบใบเลาลงไปสุดแรงจนกระจกที่รองโต๊ะทะลุ

“อย่างที่ทุกคนรู้กันเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในเรือนนาฏศิลป์ดังนั้นปีนี้ทางโรงเรียนจึงมีความจำเป็นที่ต้องถอดวิชานาฏศิลป์ออกจากหลักสูตรของม.5อย่างเร่งด่วน ซึ่งหลังจากวิชาวิทยาศาสตร์สองชั่วโมงนี้แล้วคาบต่อไปของพวกเธอจะเป็นวิชาดนตรีเข้ามาแทนแต่จะเริ่มขึ้นสัปดาห์หน้าเพราะมาสเตอร์ยงยุทธครูวิชาดนตรีมีสัมนาด้านนอกพอดี” มาลินพูดกับนักเรียนทั้งห้อง “งั้นวันนี้ก็ฟรีน่ะสิครับ!!!” คริสมาสต์พูดด้วยน้ำเสียงอย่างมีความหวัง “ใช่ ฟรี!ซึ่งฉันก็จะอยู่คุมพวกเธอและจะให้ทำข้อสอบโพสท์เทสต์เรื่อง ‘เลนส์’ ที่เราเรียนกันไปตั้งแต่ต้นเทอมไงล่ะคริสมาสต์ ขอบอกเลยนะว่าเรื่องนี้ฉันออกข้อสอบมิดเทอมให้พวกเธอวาดรูปกันหนึ่งหน้ากระดาษทีเดียว” คริสมาสต์ถึงกับอ้าปากค้างในขณะที่เด็กๆทั้งห้องเริ่มส่งเสียงโอดครวญ “และถ้าใครไม่อยากตกโพสท์เทสต์ล่ะก็ฟังที่ฉันจะสอนสองคาบนี้ให้ดี ข้อสอบปรนัยน่ะถ้าตั้งใจฟังในห้องต่อให้ไม่อ่านหนังสือมาก็กาได้ใช่มั้ยคริสมาสต์?!” มาลินก้มไปมองคริสมาสต์ที่ดูเหมือนกำลังประสาทเสียเพราะเขาไม่เคยอ่านทบทวนอะไรตั้งแต่ต้นเทอมเลย “เอาล่ะ ครูได้พูดถึงหลักการจำโดยง่ายไปเมื่อ…อ้าว ฮาเวิร์ดเข้ามาสิ เป็นยังไงบ้างลูก?!” มาลินหันมามองฮาเวิร์ดกับดีไซน์ที่เคาะประตูขออนุญาติเข้าห้องเรียน “ไม่เป็นไรครับมิส ซิสเตอร์พยาบาลเย็บแผลให้เรียบร้อยแล้วครับ” ฮาเวิร์ดพูดเสียงสั่นๆพลางหลบสายตามาลิน “เดี๋ยวเราคงต้องคุยอะไรกันหน่อยล่ะนะเรื่องพฤติกรรมของเธอ ก่อเรื่องได้ไม่เว้นแต่ละวัน ไปนั่งได้แล้วทั้งคู่เลย”

หลังจากผ่านการทบทวนบทเรียนอันน่าปวดหัวมากว่าสองชั่วโมงและไหนจะข้อสอบหลังบทเรียนที่แม้จะเป็นข้อสอบกว่าแต่กว่าครึ่งก็ต้องนั่งคิดวิเคราะห์กันหัวหมุนกว่าจะตัดสินใจกากันออกมาได้ในแต่ละข้อ เสี้ยวนาทีที่ลุ้นระทึกได้จบลงเมื่อมาลินได้ทำการเฉลยข้อสอบโดยให้นักเรียนแลกกันตรวจซึ่งแอนดี้รู้สึกนับถือในความรอบคอบแยบยลสมกับเป็นครูวิทยาศาสตร์ของมาลินมากๆเพราะเธอเล่นให้นักเรียนส่งข้อสอบกันที่หน้าแถวของตนหลังหมดเวลาก่อนจะสับให้แถวหนึ่งกับสามและสองกับสี่แลกกันตรวจโดยเศษที่เหลือเธอจะเป็นคนตรวจเองซึ่งดับฝันคริสมาสต์กับฮาเวิร์ดที่คิดจะใช้วิธีโกงแบบเฉลยไปลบไปขีดป่าข้อผิดให้เป็นข้อถูกไปแบบที่พวกเขาเอาตัวรอดกันมาได้หวุดหวิดตลอด รายชื่อผู้โชคดีได้ถูกประกาศขึ้นโดยที่หลินและฟารีดาได้ท็อปห้องและผู้ที่โชคดีกว่าคือสามเกลอคริสมาสต์ ฮาเวิร์ดและบรูโน่ที่ต้องกลับไปวาดรูปเลนส์ทั้งหมดมาอย่างละสิบจบเพื่อส่งมาลินภายในวันจันทร์หน้า สำหรับแอนดี้เองตัวเขาสามารถสอบผ่านมาได้ชนิดเกือบจะฉิวเฉียดเส้นยางแดงทีเดียว

“ฮาเวิร์ดมาหาครูสิ!” มาลินเรียกฮาเวิร์ดมาคุยที่โต๊ะในขณะที่เสียงจ๊อกแจของเด็กๆทั้งห้องที่กำลังเตรียมตัวจะพักกลางวันกันได้ระงมไปทั้วห้อง “เอ้านี่! กล้องวิดีโอของเธอ อย่าให้มีครั้งหน้าอีกนะเพราะเรื่องนี้ฉันคงต้องอธิบายกับพ่ออธิการยาวแน่ๆ” ฮาเวิร์ดยกมือไหว้ขอบคุณครูประจำชั้น “อีกเรื่องหนึ่ง! ตั้งแต่เย็นวันนี้จนถึงศุกร์หน้าเธอต้องถูกกักให้อยู่จนถึงหกโมงเย็นที่ห้องฝ่ายปกครองเป็นการทำโทษ นี่เป็นคำสั่งของซิสเตอร์สากุลวดี” ฮาเวิร์ดชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ “อะไรกันอ่ะมิส?!!! ผมโดนเขาเอาก้อนหินทุบหัวขนาดนี้ผมยังต้องไปโดนเขาทำโทษอะไรอีกเนี่ย?” ฮาเวิร์ดคำรามดังลั่นจนทั้งห้องเงียบกริบ “เธอทำตัวเองนะฮาเวิร์ด พฤติกรรมของเธอน่ะวันหลังคิดจะทำหรือจะเล่นอะไรก็หัดรู้จักขอบเขตุซะบ้าง เธอคิดว่ามิสสบายใจเหรอที่เธอจะไปต้องไปอยู่กับคนแบบนั้นในห้องปกครองสองคนน่ะ?!!! ฉันพยายามพูดให้เธอแล้วแต่เขาเป็นฝ่ายปกครองและเธอก็ทำผิดจริงแน่นอนว่าเขามีสิทธิ์แต่ไม่ต้องกลัวนะบ่ายนี้มิสจะเข้าพบพ่ออธิการเรื่องวันนี้แหละ โรงเรียนเรามีกฏว่าห้ามบุคลากรในโรงเรียนท่านใดใช้วิธีรุนแรงในการลงโทษนักเรียนจำไม่ได้เหรอ? และซิสเตอร์สากุลวดีก็โดนพ่ออธิการตักเตือนไปแล้วเรื่องดีไซน์ในวันเปิดเรียนและนี่ถึงขั้นที่เอาก้อนหินทุบหัวนักเรียนต่อให้อยู่มา30ปีก็คงไม่ใช่แค่เตือนหรอก” มาลินพูดด้วยความอ่อนใจ “ทานข้าวเที่ยงเสร็จอย่าลืมไปพบซิสเตอร์ล่ะ!”


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com