
http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/09/30/justin-timberlake-the-2020-experience-2-of-2-rbsoulhip-hopdanceelectronic-78-3-55/comment-page-1/#comment-193
hysteria
Justin Timberlake : The 20/20 Experience 2 Of 2 : R&B/Soul/Hip-Hop/Dance/Electronic (78% = 3.5/5)
น่าแปลกที่แฟนๆของพี่หยอย จัสติน ทิมเบอร์เลค ส่วนมากต่างนับวันนับคืนรอคอยพาร์ท2ของอัลบั้ม The 20/20 Experience กันชนิดใจจดใจจ่อแต่มาที่ดิฉันที่ติดตามผลงานของหยิกมาทุกชุดไม่ว่าจะเป็น JustifiedหรือFuturesex/Lovesounds เอ่อ ตั้งแต่สมัย Nsync เลยดีกว่าน่ะค่ะกลับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรมากมายจำได้ว่าก่อนหน้านี้เคยพูดในรีวิวประมาณว่า อยากฟัง/รอไม่ไหว แต่เอาจริงๆแล้วก็กลับไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายถึงขนาดนั้น คาดว่าทั้งหมดทั้งมวลอาจจะเป็นเพราะว่ายังอิ่มอกอิ่มใจปลาบปลื้มพาร์ทแรกของ The 20/20 Experience ยังไม่เสร็จสิ้นจวบจนวินาทีนี้ก็เป็นได้
ก่อนหน้านี้ใน The 20/20 Experience พาร์ทแรกพี่หยอยเราจับเอาจิตวิญญาณของความเป็นโอลด์สคูลของดนตรีผิวสีอย่างอาร์แอนด์บีและโซลเข้มข้นมาขยำรวมกับจังหวะทดลองสุดโต่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นฮิพฮอพ เต้นรำและอิเล็คโทรนิคได้ผลการทดลองออกมายาวเป็นมหากาพย์แต่เป็นงานบ้าสุดโต่งที่แสนจะมีเสน่ห์ที่ส่วนตัวขอยกให้เป็นงานที่ดีที่สุดเท่าที่จัสติน ทิมเบอร์เลคเคยทำออกมาแม้ว่าอาจจะติดตรงที่เป็นงานเรื่อยๆลอยละล่องมากกว่าจะมีจุดพีคที่เด่นชัดในตัวเอง มาที่ The 20/20 Experience 2 Of 2 ที่มาสไตล์ทดลองและฟิวชั่นเช่นเดิมแต่ขยับเข้าหาความร่วมสมัยมากขึ้นแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่ได้โยนอารมณ์ของความเป็นโซลและอาร์แอนด์บีแบบเดิมทิ้งไปเพียงแต่เนื้องานฉีกตัวเองจากเอกภาพสูงส่งช่วงครึ่งแรกลงไปตะลุยกับภาคดนตรีที่หลากหลายมากกว่าตั้งแต่ความร่วมสมัยของดนตรีเต้นรำแบบคลับแด๊นซ์ อิเล็คโทรนิค ฮิพฮอพและเทคโนยันกลิ่นของความเป็นเรโทรที่ใส่มาทั้งรสของดิสโก้ ฟั้งค์ อาร์แอนด์บีและโซลจะว่าส่วนตัวก็เห็นด้วยกับที่น้องปู Jester Mizuno เปรียบไว้ว่าเป็นพาร์ทต่อไปของ Futuresex/Lovesounds
อย่างไรก็ตามตอนแรกที่คุยกับน้องปูเห็นว่าน้องออกปากว่าค่อนข้าง ผิดหวัง ทำเอาดิฉันรู้สึกกลัวๆเหมือนกันแต่พอมาตัดสินใจลองฟังแล้วส่วนตัวคิดว่ามันไม่แย่ถึงขั้น น่าผิดหวัง แต่ก็ต้องว่ากันตามตรงว่าอัลบั้มนี้เป็นงานชุดที่ชอบน้อยและคิดว่าดีน้อยที่สุดในบรรดาทั้งหมดทั้งมวลของจัสตินเลยทีเดียวคือจะว่าไปแล้วดิฉันคิดว่าเมื่อเทียบกับพาร์ทแรกชุดนี้ฟังง่ายกว่านะแถมยังดูมีสีสันกว่าด้วยเรื่องของเอกภาพน้อยกว่าแต่มีจุดที่พีคในตัวแต่พูดก็พูดเถอะปัญหาคือเริ่มรู้สึกตะหงิดๆในการนำเสนอบางอย่างของจัสตินที่แลดูค่อนข้างจะเน้นความ เยอะ ไว้ก่อนยิ่งมาชนกับภาคดนตรีที่กว้างและยุ่บยั่บขนาดนี้ยิ่งดูรกยันค่อนไปทางซ้ำซากทั้งๆที่จริงๆแล้วชั้นเชิงในการนำเสนอของเขาก็ยังจัดว่าน่าดูชมอยู่เพียงแต่บางทีสิ่งที่ควรเน้นอย่างเรื่องความชัดเจนของเมโลดี้พี่แกกลับไปโฟกัสเป็นจริงเป็นจังกับเรื่องการประโคมรายละเอียดมากกว่า อีกอย่างในแง่ของความล้ำเมื่อเทียบกับ Futuresex/Lovesounds โอเค 2 Of 2 ชนะในแง่ของความล้ำลึกด้านวิสัยทัศน์แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า FS/LS เปรี้ยวกว่าในแง่ของภาคดนตรีที่ไม่ต้องอะไรมากไปหยิบแค่ Sexy Back กับ My Love สองเพลงก็พอมาเทียบกับบางเพลงที่เปรี้ยวแต่มุขของงานชุดนี้จะรู้ว่าไอ้ที่คิดว่าที่สุดใน 2 Of 2 นี่เอาจริงๆแล้วค่อนข้างจืดทีเดียว
แต่ถึงกระนั้นเพลงที่เข้าตาดิฉันก็เยอะอยู่นะคะไม่ว่าจะเป็นซิงเกิ้ลแรกอย่าง Take Back The Night (4.5/5) ที่ส่วนตัวรักมากๆ งานเต้นรำตบกลิ่นอายเรโทรหอมฉุยแบบฟั้งค์กี้ย์ดิสโก้ผสานเครื่องเป่าฟั้งค์โซลไพเราะกรีดกรายมากๆว่าตามตรงแล้ววินาทีนี้ดิฉันมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะให้วงการเพลงโดนหวนกลับมาปกครองด้วยเพลงโอลด์สคูลดีๆแบบนี้จัง มาที่ Gimme What I Dont Know (I Want) (4.5/5) ที่หยิบมาเปิดอัลบั้มได้เปรี้ยวปราดตั้งแต่เสียงอินโทรนำเข้าบิดเบี้ยวของจัสตินก่อนจะเข้าสู่วัฒนธรรมของดนตรีเต้นรำที่ตบทั้งความเป็นอิเล็คโทรนิค ฟั้งค์ บีทบ็อกซ์และอาร์แอนด์บีเทคโนฟังแล้วนึกถึงพริ๊นซ์และไทเทิ่ลแทร็คในอัลบั้มสองอย่าง Futuresex/Lovesounds ไม่ได้นับว่ามิติของตัวเพลงแพรวพราวมากๆ ต่อด้วย True Blood (4/5) ที่อารมณ์เพลงนี่ไม่ทราบว่าทำมาประกอบหนังแวมไพร์รึเปล่าคะ? แต่ก็มีเสน่ห์ดีนะส่วนตัวชอบในการนำเสนอที่มันดูมีอะไรมากกว่าเป็นแค่เพลงดีๆเพลงหนึ่งดีเหมือน Sexy Back ในภาคที่ลดความเป็นยูโรบีทแบบมนุษย์ต่างดาว Drink You Away (5/5) นับว่าเป็นหนึ่งในแทร็คที่ฉีกออกจากเงาของ Futuresex/Lovesoundsรวมถึงแวดล้อมความเป็น The 20/20 Experience ในแบบที่หลายคนคาดหวังนับว่าเซอร์ไพร์สมากๆที่เราได้ยินงานฟั้งค์ร็อค70sดิบสดแบบนี้จากจัสตินซึ่งในแง่ของการเรียบเรียงนับว่าตรงจริงทั้งทีเดียวหยอดมาตั้งแต่ความหวานหูแบบพ็อพเจือโมทาวน์โซลแต้มกลิ่นบลูส์หอมๆคือแค่ความเรียบง่ายดิบสดไม่ต้องเยอะหรือตีโครงสร้างชุลมุนซับซ้อนใดๆก็ได้เพลงที่เข้มข้นและทรงพลังทีเดียวไม่รู้ว่างานสไตล์นี้นับเข้าเป็นประเภทบลูส์กลาสได้มั้ยแต่กีต้าร์เท่ห์มาก You Got It On (4/5) งานคอนเทมโพรารี่ย์อาร์แอนด์บีชิลล์แจ๊ซซ์เพราะๆผสานอารมณ์โซลหวานๆลอยละล่องตบเข้ากับโพรแกรมมิ่งน่ารักๆที่ฟังได้เพลิดเพลินดีแท้ น่าเอาไปเปิดริมชายหาด ปิดท้ายด้วย Not A Bad Thing (4/5) ขอพูดแค่ว่ามันโคตรเพราะก็คงจะเพียงพอดนตรีนุ่มละมุนบริสุทธิ์ขาวสะอาดมากๆฟังแล้วอารมณ์ดี เพียงแต่เรื่อยๆไปนิดในขณะที่ฮิดเด็นแทร็คอย่าง Pair Of My Wings (4/5) เป็นงานอคูสติคและเพอร์คัสชั่นเพราะๆฟังแล้วอบอุ่นไปถึงในใจ
เอาเป็นว่าถ้าคุณได้ซื้อ The 20/20 Experience พาร์ทแรกไปแล้วดิฉันขอแนะนำว่าไม่เสียหายค่ะที่จะตามเก็บ The 20/20 Experience 2 Of 2 ภาคต่อบนวิสัยทัศน์การนำเสนอในมิติสุดโต่งแบบเดียวกันแต่บรรยากาศแวดล้อม รสชาติและสีสันต่างกันโดยสิ้นเชิง มันอาจจะไม่ได้ดีจนเว่อร์ถึงขั้นจับต้องไม่ได้แบบพาร์ทแรกแต่ในความสามัญนั้นมันช่างชวนฟัง เข้าถึงง่ายและเผลอๆอาจจะเป็นมิตรต่อโสตประสาทของคุณในระยะยาวมากกว่า อีกหนึ่งงานคุณภาพของปีโดยแท้