˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ถัดไป
12 อัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี 2006 สมดุลย์ของธุรกิจและศิลปะ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ 12 อัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี 2006 สมดุลย์ของธุรกิจและศิลปะ 
ขอออกตัวก่อนเรยว่า การรีวิวครั้งนี้ย์เป็นเรื่องของการมองผ่านประสบการณ์ในการฟังเพลงมาตลอดปีนี้ย์ ที่ศิลปินรุ่นเล็กรุ่นใหญ่รุ่นใกล้ตาย รุ่นใกล้หมดอายุ รุ่นติดไฟ รุ่นโหล รุ่นฮิตติดลมบทร่านระร่วนติดเจ็ทดังฉุดไม่อยู่ ดาหน้ากันออกอัลบั้มเรียกขวัญเก็บเงินในกระเป๋นตังค์แฟนๆเพลงไปแบบทุกกลุ่มทุกรุ่น ทุกคอเพลง ทุกสไตล์

ดังนั้นอัลบั้มที่เดี๊ยนจะหยิบยกขึ้นมาชูช่องสรรเสริญอาจจะเป็นอัลบั้มเพลงพ็อพ (ที่ยึดถือแนวพื้นๆเป็นหลัก) และอาจจะมีดนตรีแขนงอื่นเป็นลูกผสมเพื่อนคลายความเลื่อน และเปิดโลกทํศน์น้องๆหนูๆเพื่อนๆ ให้ได้รับรุ้ถึงบริบทความเป็นไปในวงการดนตรีสากลโลกปัจจุบัน ที่ชั่วโมงบินสูงเหลือเกิน และยอดเเอร์เพลย์กะดาวน์โหลดตามฟรีเอ็มพีสาม ไม่สามารถแสดงถึงจริตในการเลือกเป็นคน รสนิยมดีและผู้มีทรรศนะในการเลือกสสร ฟังเพลงได้อย่างมีสติ ในขณะที่ก้ไม่ได้ทำกระแดะโดนอีพวกอีเจนซี่ย์กะนักวิชาการทางการตลาดใช้แผนธุรกิจอันแยบยล หลอกเอากะภาพลักษณ์และแรงโพรโมทแบบน่าตื่นตาตื่นใจ กะคำพูดคำโฆษณาชวนเชื่ออันทำพยายามทำตัวให้ทันสมัยหัวใหม่ ไม่เหมือนใคร หรือที่วัยรุ่นโง่ๆบ้านเราหลายๆคนที่หลงผิดคิดว่า ทางเลือกใหม่ และไอ้การแตกต่างจากคนอื่นเป็นเรื่องดีเสมอไป

ฉะนั้นอัลบั้ม 12 อัลบั้มที่เจ๊คัดสรร มาแร๊วว ว่าดีพอที่จะให้พวกเพื่อนๆหนูๆพี่ๆน้องๆไปหามาสดับรับฟังเพื่อความบันเทิง เพื่ออรรถรสในการเปิดไปสู่มุมมองใหม่ๆในการฟังเพลง โดยไม่อิงกะกระแส ข่าวแท็ปลอยด์หรือกระทั่งแรง AD. กะสื่อที่ประโคมกันกรอกหูและปลูกฝังกันมาแบบงูๆปลาๆว่าอะไรเป็นอะไรในมุมมองของนักธุรกิจ

และนี่ย์คืออัลบั้มที่ยืนอยู่กึ่งกลางของความสมดุลย์ระหว่าง เหตุผลทางการตลาด และ คุณค่าทางศิลปะอย่างแท้จริงในความเห็นของเดี๊ยน หากใครมีข้อคิดเห็นโต้แย้งในแง่มุมไหน โปรดใช้วิจารณญาณและความเป็นกลางของปัจเจกชนในการตัดสินใจ และรีพลายออกมาแบบผู้มีการศึกษาด้วยตรรกะเหตุผลและ ความรุ้สึกต่อบทวิจารณ์และตัวอัลบั้ม หากผู้ใดฝ่าฝืนและกระทำการเสร่อเกินจำเป็น อาจจะต้องมีการ ลบรีพลายไม่ส้รางสรรค์นั้นทิ้ง

ตกลงตามนี้ย์น่ะค่ะ และนี่ย์คือ 12 อัลบั้มยอดเยี่ยมที่สุดประจำปี 2006 ใรความคิดเห็นของเดี๊ยน

1.Ed Harcourt - The Beautiful Lie



นี่ย์คืออัลบั้มที่ทรงคุณค่าในหลายๆแง่ ทั้งแง่มุมของคนดนตรีและตัวเนื้อหาบทประพันธ์เพลง ซาวด์โดยรวมเป็นพ็อพลื่นละมุนหู ทว่า ไม่ได้เคี้ยวย่อยอร่อยปากง่ายจนหามีสารที่ช่วยพัฒนาต่อมใดๆในสมองไม่ เพลงของ เอ็ด เต็มไปด้วยรายละเอียดยุ่บยั่บ โดยมีเสียงเพียโนอันบาดจิตบาดใจยืนพื้นอยู่กับเนื้อหาที่ว่าถึงเรื่องความรักในแบบที่เข้าใจโลก และเข้าใจคนอื่น ไม่ใช่แค่เธอรักฉัน ฉันรักเธอ เรารักกัน และเดี๋ยวก้เลิกรักกันอะไรโง่ๆพรรคนั้น แง่มุมในการนำเสนอของเอ็ดยังเต็มไปด้วยการวิพากษ์วิจารณ์สังคมในแบบไม่โอ่อ่า จนดูอวดฉลาด เค้าใช้มุมมองในแบบคนธรรมดา ปุถุชนที่มองเรื่องราวต่างๆในแบบทั้งประชดประชัน และเห็นอกเห็นใจไปกะความเป็นไปทั้งหลายแหล่
เพลงของเค้าไม่ใช่ประเภทเนื้อเข้าใจยากจนไม่อยากจะเข้าใจ เค้าใช้ภาษาง่ายๆ แต่ทว่าได้ผลมากๆกะการพูดถึงเรื่องยากๆ มีปมแน่นๆอยุ่ในทุกๆเพลง น่าแปลกใจที่เค้าทำเพลงแบบนี้ย์ออกมาทั้งอัลบั้มภายใต้เงื่อนไขที่เค้ากะลังมีความสุข ออกมาได้ - - - ดนตรีของเค้ายังบอกถึงรสนิยมอันดีของลูกๆและภรรยา ทั้งโฟล์ค คันทรี่ย์ บลู โซล และเพลงสไตล์ Pink floyd กะความเป็นพ็อพเย็นๆยืนอยุ่บนฐานของดนตรีที่ดี แบบ The Baetles ที่ถ้าเปรียบเป็นอาหารก้คงเป็นอาหารชั้นหนึ่งที่มีคุณค่าครบถ้วน น่าตาน่ากินและราคาไม่แพง ซึ่งหากินได้ยากมากๆในยุคโลกาวินาศสันตะโรปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเรื่องเลวร้ายบนโลกใบนี้ย์ ที่แม้แต่ข้าวมื้อเดียวคนบางคนยังกินทิ้งๆขว้างๆ เชิ่ดใส่อาหารไทยอร่อยๆ ไปหาพิซซ่าขยะๆประทังปาก อวดรวยอวดโอ่ สมเพชคนอื่นไปซะอย่างงั้น


เอ้าเรื่องดนตรีตาเอ็ดดี้ย์เชื่อขนมกินได้อยู่แร๊วว ว่าเริ่ดโดยไม่ต้องเอาอะไรมาเป็นหลักประกันงานของเขาอ่อนโยนแต่ก็ไม่อ่อนปวกเปียกจนชวนอ้วกหรือเหงาหงอย และนี่ย์เป็นหนึ่งในเพลงที่เดี๊ยนชอบมากที่สุดในอัลบั้ม เนื้อเพลงโดนมากๆ ทำนองโดนเรียบเรียงมาอย่างปาณีตและละเอียดอ่อน

และนี่ย์คือเนื้อเพลงที่ดั่งบทกวีของ Loyd bgaola ก้ไม่ปาน

Ed Harcourt - Good Friends Are Hard To Find - (Lyric)


I wish you the most success...More than I could ever have
I wish you the most happiness...And good friends are hard to find
Don't make the mistakes I've made...And if you do.. don't be afraid
The greatest lie that there is...Is to believe what they all say

Social loners and deadbeat hacks...I open my arms for you
Cynical romantics want their money back...
And you know much more...Than I ever knew
Even though I pretended to

Churchgoers wait for the bells to chime...And I'm in a non-defeatist state of mind
I know you'll shine in the limelight...God knows you've done it before
All the girls who dig all your mental scars...And the boys who pat you on the back
You and I may take a different path...But I'll still be cheering you on

You know much more...Than I ever knew
Even though I pretended to

I wish you the most success...More than I could ever have
I wish you the most happiness...And good friends are hard to find
Good friends are hard to find



2.John Legend : Once again



จอห์น ลิเจนท์ หนึ่งในศิลปินที่ถูกหลายหัวนิตยสารดนตรีพาดว่าจะเป็น New Donny Hathaway คนใหม่ของยุค 2000 นั้น ดูถ้าว่าอีคำพูดโอ่อ่าเว่อร์อลังการเกินจริง จะเชื่อได้กะวัย 20 กว่า ๆ ของตาจอหน์ จะพนังรับกะแรงกดดันต่างๆไหว จากอัลบั้มที่แร๊วว Get lifed ที่พิสูจน์ให้อีพวกปากดีและนักฟังเพลงทั่วโลกได้พิศวาสไปกะบทเพลงหวานๆ เคล้าดนตรีสดๆทั้ง เครื่องเป่าเครื่องสายและเสียงประสานนุ่มๆกะเนื้อเพลงจรรโลงโลกแบบไม่ต้องดัดจริต พูดถึงอะไรใหญ่ ๆ ให้มันดูน่าสลด หรือดูตอแหล ตาจอห์นก้ทำให้คนทั้งบางอึ้งมาแร๊วว ครั้นด้านเรื่องยอดขายก้ไม่ใช่ขี้ ๆ นะคะ ระดับแผ่นเสียงทองคำขาว กะแกรมมี่ย์อีก 3 ตัว กอปรกะที่บรรดาศิลปินรุ่นไหนๆในวงการก้หัวคัวบๆคว้าตัวกันมาทำงานในอัลบั้มตัวเองกันให้สนาน

แต่เบื้องหลังพวกนั้นกะแรงกดดันมหาศาลหาทำให้จอห์นอดสูทำเพลง เลี่ยนๆไร้พัฒนาการออกมาขายของเก่าไม่ จอห์นฉลาดและยังหัวการค้า แต่ก้เลือกที่จะฉลาดมากกว่า ขายของ เคารพศิลปะมากกว่าเงิน เพลงในอัลบั้มชุดที่ 2 นาม ง่ายๆ ว่า Once again นี้ย์ เค้าเลือกที่จะทำเพลงโซลเข้มๆชนิด ดำปิ๊ดปี๋ ไม่แคร์อีพวกฟังเพลง พ็อพอ กะอาร์แอนด์บีเจือจาง แร๊ววทำอวดว่าชอบ บลูส์โซล แบบอีพวกหัวโปกกะชะนีบางตัว

อัลบั้มนี้ย์เต็มไปด้วยเพลงดีๆ และเพลงที่น่าจะดังไปหมดทั้ง 15 แทร็ค จอห์นเลือกจะโตขึ้นทั้งงานและภาพเนื้อหาเริ่มพูดถึงเรื่องสังคมกะสงครามด้วยในบางแทร็ค ขณะที่เพลงเกี่ยวกะเรื่องรักก้ทำออกมาได้โรแมนติคและดูฉลาด มีรสนิยมอย่างยิ่งยวด บทเพลงของเค้าเหมือนลมเย็นๆที่พัดโชยมาเบาๆเข้าที่ใบหน้าของเรายามโพล้เพล้ พร้อมกลิ่นหอมๆของดอกไม้ที่เราก้ไม่รุ้ว่ามันเป็นดอกอะไร แต่ติดจมูกอยุ่นานนับวัน

3.Christina Aguilera : Back to Basics



นี่ย์อาจเป็นอัลบั้มที่ดูตลาดและขายได้ถล่มทลายเต็มไปด้วยกลยุทธ์อันน่าขบขันในแบบที่หลายๆคนอาจร้องยี๋ และ เหวอ กับการเซอร์ไพรส์สารพัดของสาวบางร่างเล็กเสียงไล่เปรตคนนี้ย์ หลังจากโผล่ออกมาเป็นคู่แข่งหนูหอกบริทนี่ย์ และถูกหลายสื่อจับมายกข่มดิว่ารุ่นใหญ่ร่างปลาวาฬเสียงโลมาแบบ เจ๊มารายห์ แต่เธอก็ช็อคไปกับการประกาศโชว์ จิ๋ม เขย่าฟลอร์ด้วยเรื่องเพศแบบโจ๋งครึ่มในอัลบั้มเปลื้องผ้า ชนิดที่ทำเอาหลายๆคนออกมาค่อนขอดว่าเป็นเรื่องของเบื้องหลังที่จะเอาออกมา รียูส ตัวเธอเองรึเปล่า รึเป็นแผนการตลาดของบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่ไม่ว่าไอ้การทำตัวไร้ยางอายบวกน่าขายหน้ากะสารเพเหระ ที่เป็นทั้งปรากฏการณ์และเรื่องตลกของใครหลายๆคน ทั้งยังส่งให้เธอกลายเป็นศิลปินระดับแนวๆหน้าของวงการเพลงพ็อพได้แบบไม่อายใคร ทั้งรางวัลแกรมมี่ย์ และยอดขายกอดคอกันดังกะป้ามหาภัย เจ๊ลินดา เพอรร์รี่ย์

แต่เรื่องไร้สาระอันเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอก้ไม่ได้ทำให้คุณค่าทางเอกภาพในตัวศิลปินของเธอในอัลบั้มชุดล่า ด้อยค่าลงไปแม้แต่นิดเดียว

อัลบั้มที่แร๊ว Stripped อาจหมายถึงการขุดลึกเข้าไปในกมลสันดานถึงอดีตอันเลวร้ายและเผยด้านมืดของชีวิตในตัวเธอและการสนุกกับอารมณ์เกรี้ยวกราดแบบเด็กกำลังจะโต กะภาพรวมของอัลบั้มที่ยัง งงๆ อยู่ ด้วยความที่อิทธิพลของศิลปินหลายๆคน ครอบงำจนแทบไม่เหลือตัวตนของเธอ

มาคราวนี้ นังตี๊นา กลับมาพร้อมกะ การรุ้จักตัวเองมาก ขึ้น ความพอดีในตัวงาน เสีงร้องที่เคยแหกปผากโวยวาย จนน่ารำคาญอาจมีอยุ่บ้างแต่ก้เพลาๆขึ้น ควงสามี และ โพรดิวซ์เซอร์ สถดสยิว เจ๊ลิดา กะ ดีเจ พรีเมีอยร์ มาขับขานพลัง โอลด์สคูล บลูส์ โซล อาร์แอนด์บีนิ่มๆที่ยืนอยุ่บนฐานของเพลงพ็อพที่ดูไม่ราคาถูกและไร้มันสมอง และการนำแซมเปิ้ลของศิลปินชั้นครูมาใส่ไว้แบบไม่ใช่เอากาวแปะจบแต่เธอเอามาทมำได้เนียน และกลมกลืน ไปกะตัวเพลงมากๆ ต้องขอบคุณบรรดาโพรดิวซ์เซอร์ทั้งหลาย และแน่นอน ตาจอห์น ลีเจนท์มีส่วนด้วย แม้อีตี๊จะชาติไพร่ไม่ให้เครดิตใดๆเรยก้ตาม แต่ดันเสือกออกมาแท้งง กิ้ววว เค้า (ถุ๊ยยย อีเปรต)

ทุกแทร็คร้อนแรงและเธอก้ไม่ต้องแหกปาก หรือแก้ผ้าเรียกร้องความสนใจใครๆอีกแร๊วว ปัจเจกในตัวงานชัดขึ้น งานเธอดูผ่อนคลายมากขึ้น ภาพรวมๆดีขึ้น โตขึ้นและไม่ตอหลดตอแหล พยายามจะเป็นคนอื่น งานอัลบั้มชุดนี้ย์เข้าขั้นมาสเตอร์พีซของเธอไปแล้ว

4.Keane : Under the Iron Sea



อัลบั้มที่แร๊วว อาจกวาดฐานแฟนๆเพลง พ็อพกะคอเพลงบัลลาดบาดจิตตรมใจจะตายล่อแล่ไปหลายโขหลายนางหลายนายอยู่ แต่ทว่า ตาทอม นักร้องนำปากจัดใจใหญ่กล้าหาญชาญชัยชนะเลิศศของวงก็ประกาศเจตนารมณ์อันชัดเจนของวงแบบไม่กลัวโดนบอย คอดต์ ในหลายๆประเทศว่า ตัวเค้าและเพื่อนๆจะเป็นวงดนตรีที่ดี ไม่ใช่วงดนตรีที่ดัง และแร๊วคำพูดนั้นก็ละลายมลายหายไปในกลืบเมฆ พวกเขาอาจทำหน้าที่หลายๆอย่างของวงดนตรีที่ดีได้ไม่สมบูรณ์ครบถ้วนนัก

แต่ช้าก่อนนั่นไม่ใช่ที่ดนตรีของพวกเข้า

เรื่องที่ไปสำมะเรเกเรและปากพล่ามด่ากราดพูดจาโอ่อ่า ว่าดังแล้วทำให้ตัวเองนิสัยเสียและรับมือกะชื่อเสียงไม่ได้อะไรนั่น ช่างแม่งมัน

เรามาดูกันที่ตัวอัลบั้มกะบทเพลงอันกลั่นออกมาจากทั้งมันสมองละเลงไปด้วยความรุ้สึกอันซื่อสัตย์และเต็มไปด้วยแง่มุมทางอารมณ์ที่เศร้าโศรก จริงใจและที่แน่ๆ พวกเขาเชิ่ดใส่โพรแกรมมิ่งห่าเหวกะวพคอมพิวเตอร์ทั้งหลายทั้งปวงให้ลงไปในชักโครกให้หมดสิ้น

ดนตรีของพวกเค้าทั้งยืนพื้นอยุ่บนความเป็นเมนสตรีมร็อคเต็มตัว เผินๆอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรแต่เสียงร้องของตาทอมกะตัวเพลงต่างหากที่ต่างจากวงอื่นๆในอังกฤษและหลายๆประเทศที่พยายามทำตัวแตกต่างห่าเหวและพยายามที่จะทำอะไรใหม่ๆ กะวงการแต่กลายเป็นอะไรที่มากจนล้นและวงที่ทำได้ดีก้น้อยจนนับได้แค่มือหยิบ ก้พวกวงอินดี้ย์ที่แรงๆ และดีแต่ปากกะทำตัวติสท์ๆทั้งหลายนั่นแล

ดนตรีของ คีน เป็น บริทร็อคที่ข้นทั้งเนื้อหาและดนตรี ซาวด์โดยรวมของพวกเขานั้นโหวง และหงอยชนิดที่ถ้าใครไม่รุ้จักพวกเค้ามาก่อนอาจนึกว่าอีพวกคนร้องหน้าตาไม่มีความสุข หมดอาลัยตายอยากในโลกและไม่เคยเจอเรื่องดีๆในชีวิตมาก่อน

แต่มันไม่ใช่ ดนตรีของพวกเค้านิตยสารเอ็นเอ็มอี ให้คำจำกัดความง่ายๆซึ่งขอเอามาใช้เรยล่ะกันว่า

Beautiful Disaster - - - - เรามักจะเจออะไรที่สวยงามกับเรื่องหายนะและควงามเศ้ราทั้งนั้นมิใช่ฤา

5. Paolo Nutini : These street



นานแค่ไหนแร๊วว ที่ดนตรีง่ายๆกับแค่กีต้าร์และหนุ่มหล่อๆซักคนไม่ได้เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจอีกต่อไปแร๊วว เพราะอีไอ้พวกบอยแบนด์กะพวกอีผุ้ชายหมาๆหน้าโง่กะโหลกกะลาออกมานั่งโชว์กล้ามอก ซิกแพ็ค เล่นกีต้าร์ โชว์เสียงห่วยๆออกโทรทัศน์ ทำลายความขลังของหนุ่มโรแมนติค น่าค้นหาและฉลาดเฉลี่ยว เก่งน่าอยุ่ใกล้ๆแบบที่ สี่หนุ่มวงสี่เต่าทองเคยทำให้สาวๆทั่วโลกใจระทึกและทำเอาหนุ่มๆวัยป้าๆพ่อๆอยากเป็นแบบนั้นมาแร๊วว

และแร๊วว ฟ้าก้ประทานหนุ่มหน้าหวาน หัวใจอินทรีย์ นามเปาโล มาให้เดี๊ยนได้สดับรับเป็นสามีน้อยคนต่อไป

เปาโลอาจเป็นเจ้าของทายาทร้ายฟาสต์ฟู๊ทท ชิพ แอนด์ ฟิท อะไรนั่นห่าเหวบ้าบอไม่ต้องไปจำหรอกรกสมอง ศิลปินเค้ามาขายเพลง ขายงานมิใช่ขายนามสกุล ชื่อ หรือขายกระดอ

เสียงนุ่มๆลึกๆตำๆจนแทบจะกระซิบแต่ช่างดังก้องกังวาลจนต้องขนลุกทุกทีที่ได้ยินรับกะดนตรี โฟล์ค พ็อพ คันทรี่ย์ แบบง่ายๆ แต่ทำไม่ง่าย ยืนอยุ่กับคอร์ทกีต้าร์กะไอ้นู่นไอ้นนี่ย์ หน่อย ยำๆไปบนคีย์สวยๆกะทำนองพลิ้วๆ แค่นี้ย์ก้พอแร๊วว สำหรับงานเพลงดีๆซักอัลบั้ม ที่ทั้งเพราะและ พีค

ตัวเนื้อหานั่นก้บอกถึงความแตกต่างของการเป็นคนช่างคิดของหนูเปา ว่ามิได้เอาแต่ร้องเพลงจีบสาว แต่เธอยังสนใจชีวิต ยังมีมุม เด็กๆที่ไม่เข้าใจอะไรๆอีกมาก แต่ก้จะผ่านพ้นมันไปให้ได้โดยที่จะไม่งอแงงี่เง่าเป้นอีพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อที่มีให้เห็นได้ทั่วไปตาม สยามสะควาย ปลาร้าก้อน และ ตอกข้าวศาลรวมไปถึงสวนจตูดจักร

6.Corinne Bailey Rae : Corinne Bailey Rae



เธอาจจะพูดจาล่วงเกินใครๆหลายคนในวงการ กะความที่ภาพของเธอดูติ๋มๆ หงิ่มๆขัดกะนิสัยแรงๆเกินตัวของเธอเองอาจทำให้หลายๆคนเพ่งเล็งไปที่ปากและคำพูดของเธอ หาใช่งานเพลงไม่

เธอได้รับเกียรติและรางวัลประสาทแดกในหลายๆแขนงพอๆกะนางมาลัย ที่ไม่รุ้เจ้าตัวจะภูมิใจดีไม๊ กะการแซ่ซ่องจากหลายๆสำนัก ทั้งนิตยสาร สื่อและตัวนักวิจารณ์ว่าเป็น Sound of 2006 เรยทีเดียว

แต่ดูท่าที่ว่าอีคำพูดลอยลมผยองๆเล็กๆอันก่อให้เกิดเป็นความผยองของจริงกะตัวอีหนู คอรีน นั้นจะเป็นเรื่องจริง ดนตรีของเธอเป็นอะไรที่ขาดแล้งไปจากวงการเพลงเป็นสิบๆปีแล้ว การที่เธอนำมันออกมาเสนอเผยแพร่ในมุมมองที่อยุ่กึ่งกลางระหว่างคงามเป็นเมนสรตีมกะอัดมพ์คอมเทมโพรารี่ย์กะตลาดนตรีพ็อพทั่วไป ยิ่งทำให้เธอดูทั้งโดดเด่นและแตกต่างจากศิปลินยกหางทั้งหลาย ของสื่อังกฤษ

โซลอ่อนๆปราดหน้าอยุ่บนดนตรีแซมเปิ้ลน้อยๆกะเครื่องดนตรีสด น้อยชิ้น การเรียบเรียงในแต่ล่ะท่อนบอกได้เรยว่า เพราะเอาตาย ในหลายๆเเทร็ค อีกทั้งตัวเธอก้มีความเป็นนักเขียนอยุ่บ้าง เนื้อหาเรยสบายหายห่วงมีไปหมดทั้งแง่มุมใหญ่ๆเล็กๆในสังคม การยืดหยัดของผู้หญิงและ การปล่อยให้แผลใจหายไปโดนการที่ต้องหนีความจริงซะบ้าง เพื่ออปล่อยให้เวลาเยียวยา

Season Changes เพลงปิดอัลบั้มความยาวเกือบ 5 นาทีนั่นแหล่ะ คือตัวแทนของดนตรียุฝั่งอังกฤษคใหม่อย่างแท้จริง โดยที่ไม่ต้องพยายามเท่ห์เก๋หรืออะไรทั้งสิ้น แค่เป็นตัวเอง ก้พอ

7.James Morrisson : Undiscovered



ปีที่แร๊ววว อังกฤษ ส่งออกตาเจมส์ บลันส์กะเพลง -มึงสวยย -จนดังคับโลกคับอกคับใจระเบ้อไปทั่วทุกระแหงหย่อมหญ้ายันซ่องห้องสองแถว แต่ทว่าหลายคนกลับเห็นว่าตาเจมส์นั่นก้แค่นักร้องเพลง พ็อพ หวานเลี่ยนคนใหม่ที่จะมาแทน ตาโรแนน คีธธิ่งต่างหาก แถมตัวดนตรีเองก้ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ซำซาก น่าเบื่อ ตานั่นเเค่มาถูกที่ถูกเวลา จังหวะมันได้ ขณะที่ตอนนั้นวงการซบๆเซาๆ อีเพลงบ้านั่นก้ทำท่า ลอยละล่องดังฉุดไม่อยุ่ จนกลายเป็นเพลงน่าเบื่อที่สุดของปีใน นิตยสาร เอ็น เอ็ม อี และ Spin ไปอย่างช่วยไม่ได้

ยังไม่นับที่นักวิจารณืหลายคน ยกให้เป็นหนึ่งอัลบั้มยอดแย่ด้วยนะคะ เธอ

มาปีนี้ย์ ใครๆต่างก้หวั่นๆกะ อีกหนึ่งเจมส์ แต่ไม่ต้องพะวงไปค่ะ หนูเจมส์คนนี้ย์ เธอไม่ใช่อาหารสำเร็จรูปที่กินง่าย อร่อยได้ 2 มื้อแล้วโยนทิ้งแบบตานั่น เธอคนนี้ย์มีอะไรให้เห็นมากกว่าที่เราเห็นๆกันเยอะค่ะ

ด้วยรสนิยมอันดี ที่ต้องขอบคุณพ่อแม่ป๊าม๊าของเจมส์ที่ปลูกฝังให้ฟังดนตรีดีๆทั้งดนตรีคลาสสิค ดนตรีระดับตำนาน อย่าง Stevie wonder ,Al green, Donny Hathaway , Miles davis , The beatles , The pretender ตลอดจน Radiohead ,Muse,The Ramones และแน่นอน Pink floyd กะขวัญใจตลอดกาล Michael Jackson และขอบอกว่า เธอฟัง เจ๊แม่ มาดอนน่า อรีธ่า แฟรงค์คิน กะ มารายห์ด้วยน่ะค่ะ ต๊ายยยย ป้า แพทตี้ย์ ลาเบลล เธอก้ชอบ จอห์นเลเจนด์ใหม่ๆแบบ คานยี ก้ฟัง

เพลงของเจมส์เรยยืนอยุ่บนความเป็นโซล บลูส์ อ่อนๆ ผสมดนตรีโฟคก์ กลิ่นคันทรี่ย์ เหยาะไปด้วยลูกเล่นแพรวพราว ทั้งเครื่องเพอร์เคสชั่น เครื่องเป่า เครื่องสาย กะเสียงประสานและเพียโน วงออเคสต้าย่อมๆ และแน่นอน ที่มัดใจคนทั่วอิงค์แลนด์ อยุ่หมัด ให้ห่างจากตาเจมส์ บัน คือ นำเสียงค่ะ นำเสียงเธอเป็นโซลล เน้นๆ เข้ม ๆ เหมือนลุงในตำนาน อัล กรีน มากๆ แต่เธอมีเอกลักษณ์ค่ะ ไม่สักไปทำอะไรให้เหมือนใครแน่นอน เพลงของเธอจึงมาพร้อมกะท่อนฮุค ที่โดน พรีคอรัส ช่วยส่ง และ ไม่ใช่เพลงประเภท ร้อยเนื้อ ทำนองเดียวหรือ ติดหูหนับ จนอยากอ้วกแน่นอน

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด หน้าตาก้น่าแดกมากๆๆๆๆ ค่ะ สะเป็คเดี๊ยนเรยยย ดันสุดฤทธิ์

8.madonna : Confession on the dance floor



เก๋ไก๋มากตั้งแต่ คอนเส็ปอัลบั้มที่สะดุดทุกสายตาได้ชะงักกะแนวคิดเรื่อง "คำสารภาพบนแดนซ์ฟลอร์" ที่เจ๊แม่กลับมาทวงบัลลังค์ราชินีเพลงพ็อพ กะบีทดนตรีเต้นรำในยุคดิสโก้ เฟื่องฟูสูงสุดในจุดสุดยอดยุค 70 - 80

บีทอัพเทมโพกะดาวน์เทมโพและสารพันเสียงเอ้ออึงค์ เคล้าคลึงไปด้วยโพรแกรมมิ่ง เสียงสังเคราห์แบบคั้งใจทำไม่ใช่จงใจทำ กะซาวด์แบบดนตรีเต้นรำที่เราไม่ได้ยินจากเธอมานานมากๆแร๊ว กะ สำเนียงเสียงซินธ์เพราะๆบีทหนักๆแรงๆในหลายๆแทร็ค

เนื้อหาก้เก๋ไก๋ ล่อมาตั้งแต่เต้นกันลืมตายหาผุ้ชายมาดามใจใน Get together ช่วงรักกันขอสวีทหน่อยกะ How high แร๊วถึงครางง้องอนก้ต่อด้วย hung up พอจะตัดพ้อผุ้ชายหมาๆออกจากชีวิตก้นี่ย์เรย sorry ไหนจะต้องมาเครียดเรื่องลูกๆกะพวกจิปาถะในชีวิตก้ขอสำรวมหน่อยกะ Iissac กะ Fightin Spirit แร๊วก้มาเล่านิทานก่อนนอนถึงความจริงที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้อย่าง Future lover - Let it will be โอ๊ยยยยย เก๋มากๆค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าจะมีดีแต่ภาพนะ ดนตรีเจ๊เราก้เริ่ด เหล่ากงอหนุนทีมงานกะไอคิวเจ๊ที่พุ่งปรี๊ดดดด ก่อสร้างผลงานอันเป็นอีกชิ้นของประวัติศาสตร์วงการดนตรีในยุคนี้ย์ไปได้แบบ ไม่มีใครกล้าปรามาสชิงๆ ฮ่ะ

9.Arctic Monkey's : Whatever People Say I Am, That's What I'm Not



จะมีวงอินดี้ย์ใดเรย มาดังระเบ้อระเบิดและติดหนึ่งในอัลบั้มยอดเยี่มประจำปีของหลายๆสำนักได้มากที่สุดเท่าวงลิงน้อยกลอยใจในแดนสนธยาวงนี้ย์ได้อีก

ในขณะที่หลายๆวงยังสับสนอยุ่กะว่ากุจะเป็นอะไรดีระหว่าง กรั๊นจ์ การาจ ร็อค โจ๊ะ ๆ ใส่เสียงอินเล็คโทรนิคดีไม๊ หรือจะทำบัลลาดดังๆแบบคีนดีไม๊ เอ๊ะ รึทำตัวห่ามๆแบบอี คาเรน โอ วง YYY ดีป่ะ

พวกหนุ่มๆวงลิงน้อยทั้งหลายนำทีมโดยหนู อะเล็ค สุดหล่อ เชิ่ดใส่ทุกอย่างที่อีพวกนั้นขบคิดกันให้ขมองแตก ด้วยดนตรี ร็อค แอนด์ โรล ง่ายๆ บนบีทกระฉึกกระฉักของดนตรีพ็อพร็อคร่วมสมัย กะพังค์น้อยๆ กะริฟกีต้าร์มันส์ๆ กลองแรงๆ และเนื้อเพลงโดนๆ กะคนทุกเพศทุกวัย ขณะที่บรรดาดีเจย์มิกซ์ก้เอาเพลงดังทั้งหลายแหล่ของหนูไปมิกซ์ซะจน คลับแตก เกย์กรี๊ด ชะนีร้อง แต่หนูๆก้ยังดาหน้าทำอัลบั้มอีพี อะไรซักอย่างออกมา กุ้หน้า ว่ากุมิได้ทำเป็นแค่เพลงโจ๊ะๆนะ เพลงช้าๆซึ้งๆบทจะซีเรียสกุก้ทำออกมาได้ไม่แก่แดดไม่เว่อร์ด้วยล่ะ

บางคนอาจจะหาว่าเพลงอย่าง Riot van ดูประสาทแดกและเป็นประสิตของอัลบั้มมากๆ แต่เดี๊ยนคิดว่านั่นเป็นยาทดลองที่หนุ่มๆวางไว้ ในอัลบั้มเต็มไปด้วยเพลงโจ๊ะ ๆ ๆ และเพลงพั๊งค์ร็อคแอนด์รลลิ่ง แรงๆบ้าง ฟังพอโยกๆบ้างเต็มไปหมด การที่เอาเพลงแบบนี้ย์เข้ามาเบรคอาจดุเป็นทั้งแผนการตลาดที่แยบยล และการโชว์ฝีมือในการทำเพลงอันหลากหลาย

ถึงตัวอะเล็คกะเพื่อนๆเองยังไม่รุ้ว่าชะตากรรม ของวงจะเป็นอย่างไรต่อไป เพลงของพวกเขาจะไปยังแนวทางไหน ในอนาคต จะโตขึ้นไม๊ จะต้องตามรอบวงอย่าง The killers - Jet - หรือ Turin Baskin รึเปล่า อันนั้นไว้รออัลบั้มหน้า แต่พวกขเด้ส้รางตำนานร็อคหน้าใหม่ให้แฟนขาเดฟและขาจร ได้เสียวสนุกกันมาแร๊วว หนึ่งปีเต็มๆและอาจจะนานกว่านี้ย์ ถ้าพวกเค้าเป็น ของจริง

10.Thom York - The Eraser



ใครๆก็รุ้ว่าวงอย่างRadiohead มีทีมหนุนกะมันสมองระดับเทพแค่ไหน แต่ก้คงปฏิเสธไม่ได้เรยว่าหัวกระทิอันบรรเจิดจรัสงานระดับสุดยอดของวงการก้ข่มกลั่นละเมียดออกมาจากหัวสมองเล็กๆของผู้ชายท่าทางอบอุ่นนาม ทอม ยอร์คคนนี้ย์ด้วยกันทั้งนั้น

พอถึงงานอัลบั้มเดี่ยวที่ผละพักออกมาจากอัลบั้มล่า H- To thr Tf อัลบั้มชื่อเรียกยากนั่น แต่น้าทอมก็ไม่ได้ยี่หระเรยว่าตัวเองได้สร้างสรรค์ผลงานระดับสมบัติโลกออกมาไว้มากมายแค่ไหน มาปีนี้ย์เค้ายังทำงานชนิดที่น้อยๆแต่ให้ผลเท่านำหยดบนลงที่หิน หินมันก้ยังกร่อน

ดนตรีของน้าทอมเป็น ดนตรี ที่ระบุแนวไม่ได้ ไม่รุ้จะเรียกว่าอะไร เหมือนงานของพวก Tori amos , Bjork หรือพวกป่วงๆติสท์ๆผิดมนุษย์มนาทั้งหลายแหล่พวกนั้น แต่ทว่าน้าทอมแกทำดนตรีออกมากลมกล่อมกว่า อ่อนโยนกว่า และเข้าใจคนฟังมากกว่า อาจเพราะเนื่องจากอัลบั้มนี้ย์ น้าอุทิศให้ลูกสาว

ทุกเพลงมีสำเนียงของบีท บ็อกซ์ และ เสียงสำเคราะห์ประดิษฐ์ขึ้นมาจากแลปท็อปทั้งสิ้น เครื่องดนตรีที่ใช้สดๆมีแค่ คีย์บอร์ดกะเพียโนเท่านั้น นอกนั้นที่ได้ยินกันตลอด 9 แทร็ค (น้อยมากๆ)w,jไม่ใช่เสียงเครื่องดนตรีสดทั้งหมด

น้าทอมจรดปากกาและกล่นกรองทุกเรื่องราวของชีวิตและโลกมนุษย์ออกมาในงานที่พื้นฐานเป็นดนตรีที่น่าจะจำกัดแนวได้ว่า อิเล็คโทรนิคฮาร์ทคอร์ แต่หลายๆหัวงหนังสือถึงขั้นกำหนดแนวเพลงใหม่ขึ้นมาบอกถึงภาพรวมอัลบั้มนี้ย์กันเรยทีเดียว

ทุกแทร็คโดดเด่นมาก และเชื่อมเข้าด้วยกันเหมือนภาพยนตร์ชั้นยอดปลายยุค 80 ซักเรื่องหนึ่งทั้งเพลงที่เเต่งให้ลูกสาวถึงการที่เราจะกลับไปแก้ไขอดีตถวิลหาความสำเร็จแต่พยายามจะทิ้งอะไรไว้เบื้องหลังว่าไม่ต่างอะไรกับการทำลายตัวตนที่แท้จริงของตัวเองใน Eraser
หรือจะเป็นเพลงที่วิพากษ์เสียดสีแกมประชดก่นด่าชีวิตในระบอบประชาธิปไตยไร้พ่ายแบบสุดตีนใน
harrowdown hill หรือจะเป็นเพลงก่นด่าระบอบทุนนิยมกะค่านิยมของวัยรุ่นกะคนยุควิบัติที่ชื่นชอบอะไรสวยๆงามๆ จนคุณค่าทางจิตใจเป็นเรื่องน่าตลก ใน Black Swan ที่น้าทอม โพล่งคำว่า

FUCKKK UP ออกมาได้เพราะไพเราะบาดจิตที่สุดเท่าที่เคยได้ยินคำผรุศวาสมา

เป็นหนึ่งในอัลบั้มแห่งประวัติศาสตร์เพลงหัวใหม่ อีกหนึ่งที่ทุกคนจะจดจำไปจนวันตายแม้กระทั่งตัว น้าทอมเอง

11.Carrie Underwood : Someheart



อ้ายยอีค้างปีจากเวที อเมริกันไอดอลทั้งหลายหน่อ อาจจะตกอยุ่กะวังวนอุบาวท์ ในวงจรเกิดง่ายตายเร็ว ตามกระแสนิยมในธุรกิจวงการทีวีเรียลลิตี้ย์ห่าๆ โดยมีค่ายเทปหนุนหลังกะแฟนคลับเดนตายคอยทวารและฝังรากกะงานเพลงที่ห่วยมั่ง ดีมั่ง พอมีพอเกิดได้มั่ง ตามโชคช่วยและกอปรก่ะความมีอะไรบางอย่างในตัวตน อันเป็นหนึ่งในคุณลักษณะสำคัญของการเป้น ไอดอล จริงๆในสมรภูมิดนตรีแห่งนี้ย์

นอกจากเคลลี่ย์ คลากสัน จะมีนางใดใครฤามาดังด้นสุ้หนูแครรี่ย์ อันเดอร์วูดได้ (ไม่นับอีเคลย์เพราะอีนั่นมันกระเทย) ด้วยนำเสียงกะกิริยาสันยดรที่ซื่อๆ จากบ้านนาแคนซัส เเท๊กซัส ความจริงใจเป้นกันเองและตรงไปตรงมา ที่แผนทางการตลาดกะสไตลิสต์ทำให้มีไม่ได้ กะฝีไม้ลายมือทางดนตรีที่ก้พอมีติดตัวมาบ้าง

ในขณะที่ไอดอลจากเวทีเดียวกัน ทำเพลงเอาใจตลาดโลก ตลาดเพลงพ็อพกันชนิดไม่อายฟ้าอิยดิน นางเคลลี่ย์ หนึ่งในนั้นเลือกที่จะ ร็อค และนางสาวเเครี่ย์ นางนี้ย์เลือกที่จะลาว โดยขอลาวแบบมีคุณภาพ กะเพลงครันทรี่ย์ ฟังชิลล์ๆ คุณภาพคับแก้ว กะนำเสียงระดับโซพาโน่

งานเพลงของแครร์รี่ย์นั้นฟังง่าย ติดหูง่ายแต่ไม่ใช่ชนิดเนื้อต่อท่อนจนอุบาวท์ชาติไพร่ ขนาดเพลงบ้านเราหรือศิลปินเกรดบีห่าเหวอะไรขนาดนั้น เพลงของแครรี่ย์มาด้วยท่อนฮุคเด็ดๆกะเนื้อประเภทเล่นเอาตาย ทุกแทร็คมาพร้อมกับลูกเล่นชัดเจน เพราะเอาบุญเอาเกิด แบบแดดิ้น เสียงของแครรี่ย์ก้ไม่ต้องแหกปากจนน่ารำคาญโชว์พาววจนคนฟังอึดอัด เธอถ่ายทอดมันออกมาอย่างนุ่มนวล ซื่อ ๆ ต้องขอขอบคุณบรรดโพรดิวซ์เซอร์ด้วยที่จรรโลงโลกออกมาด้วยเพลงคนัทรี่ย์ง่ายๆไม่ซับซ้อนที่เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์กับคนฟังขนาดนี้ย์

ทั้ง Don't forget to remember me ที่เพลงคันทรี่ย์เท่านั้นที่จะมีเนื้อแบบนี้ย์ได้ หรือ Jesus take a wheel กับ Some heart ไทเทิ่ลแทร็คก้ประกาศเจตนรมณ์อันชัดเจนของเธอ นานเท่าไหร่แร๊ววนะ ที่เราไม่ได้เห็นเด็กผู้หญิงน่าตาน่ารักๆ มาทำอะไร "ธรรมดาๆ" แล้วดูสะกดทุกสายตาได้มากขนาดนี้ นับจากอลิซ ใน วันเดอร์แลนด์ คนนั้น

ความชัดเจนตรงนี้ย์แหล่ะ ที่อีพวกไอดอลคนอื่นไม่มี ล่าสุดอีเจนนิเฟอร์ ฮัดสัน ก้ร่านไปเล่นหนัง ดรีมเกริ์ล จนน่าจะมีชื่อเข้าชิงสมทบหญิงออสก้าร์ไปแร๊วว

12.Gnarls Barkley : St. Elsewhere



อีซิลเกิ้ลสุดดังขย่มโลกเขย่าชาร์ต Crazy เพลงนั้น สดับให้อันตัวเดี๊ยนเขวไปจากคอมพ์พอควรตอนได้ยินเพลงนั้นเป็นครั้งแรก ด้วยความที่มันช่าง เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์อันน่ายกย่องที่จับเอา โอลด์สคูล อาร์แอนด์บี มายำกระฉึกกระฉักอยุ่กับบีทดาวน์เทมโพและอัพเทมโพกะเสียงอิเล็คโทรนิคนานา ประกอบกะเสียงร้องอถิมหาโคตรจะโซลของน้า Cee-Lo Green ที่ฟังแล้วทั้งเก๋แล้วทั้งชื่นใจ และทั้งขนลุก ที่เสียงน้าท่านก้าวผ่านความสุดยอดทางดสตประสาทไปแร๊วว หลังจากทำงานในวงการมาร่วมสิบๆปี

แต่นั่นคงยังเป็นบทสรุปที่ดูจะน้อยไปซักหน่อยสำหรับแค่ตัวน้า Cee lo และเพลงโคตรฮิตเพลงนั้น ที่ซิงเกิ้ลต่อมาของทางวงก้เข้าอีหรอบโดนเพลง ฮิพห่า กะเพลงร็อคเหวๆกลบซะมิด ขุดหาช่องอ้าปากหายใจไม่ได้ในชารต์อีกต่อไป

แต่ใช่ว่านั่นจะเป็นความล้มเหลว วงการต่างอื้อระทึง และยอดดาวน์โหลดอัลบั้มใน ไอทูนกะยอดขายก้เข้าระดับที่หลายศิลปินต่างอดอิจฉาไม่ได้ จนติดบิลลบอร์ท ชาร์ทอัลบั้ม top 5 (เข้าอันดับหนึ่งรึเปล่าไม่แน่ใจ ไม่สันทัดเรื่องสถิติเดี๊ยนเกลียด เลขขขขอะไรที่เกี่ยวกะตัวเลขเกลยีดหมด ถือเป็นเสนียดสายตามากๆๆ)

อัลบั้มนี้ย์เต็มไปด้วยเพลงที่บรรจงส้รางมาเพื่อการสดับรับฟังเพื่อเปิดใจเปิดทรรศนะไปสุ่โลกยุคชิบหายได้โดยแท้ มันเต็มไปด้วยเนื้อเพลง เสียดสีสังคมชนิดทั้งฮาทั้งหดหุ่ไปในอารมณ์เดียวกัน การถวิลหาอดีต อารมณ์รักใคร่ที่เต็มไปด้วยความสับสนของบริบททางสังคม การฆ่าตัวตาย ครอบครัว ตลอดจนเรื่องพระเจ้าและศรัทธา ในการมีชีวิตอยุ่เพื่อมนุษยชาติ

ตัวเพลงเป้นการผสมผสานของดนตรี โอลด์สคูล บลูส์ ดิสโก้ สกา ทริพฮ๊อพ กะบีทอัพ-ดาวน์เทมโพ ลูกเล่นเสียงสังเคราะห์แพรวพราว ในสไตล์อิเล็คโทรลอยๆ ออกจะเป็น เวริ์ล มิวสิคอยุ่ในบางแทร็คที่ใช้เสียงสวดภาษาฮิบบรูประสานกะ เครื่องดนตรีพื้นบ้านที่เดี๊ยนก้ไม่รุ้ว่าเป็นอะไรแต่มันเขียนไว้ที่ปกเครดิตเต็มไปหมด แล้วแซมเปิ้ลที่เป็นนำจิ้มในชนิดที่เพลงที่ชอบแซมเปิ้ลทั้งหลาย มาเจอของจริงแล้วจะหนาวนะจ้ะ (อีตี๊ก้ด้วยค่ะ)

นิตยสารโรลลิ่งโสตน ยกให้นี่ย์เป้นอัลบั้มที่ดีที่สุดในรอบยุค 2000 ที่เคยทำกันขึ้นมา Spin ยกให้ตัวน้า Cee-Lo Green เป้น Best male Performence of the 90's - 2000 และอีกห่าเหวสารพัดกงอภูเขาเลากายกกันจนตัวเดี๊ยนไม่อยากเอามานั่งสาธยายกะความมหัษจรรย์ขงอัลบั้มที่ทั้งเพราะและทั้งเริ่ดอัลบั้มนี้ย์

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

Other next best Albums

13.Mary J Blige : The Breakthrough



ศิลปินระดับตำนาน อย่างป้าเมรี่ย์ เจ ปีนี้ย์ก้มีอัลบั้มที่อยุ่ในข่าย "ของดี" ออกมาเหมือนกันอัลบั้มเต็มไปด้วยสำเนียงโซลแท้ๆแบบที่มารายห์กับวิทนี่ย์ ทั้งชีวิตก้ไม่มีทางทำได้ดีเท่า (แต่เสียงเจ๊ก้สุนางม้าลายกะป้าวิทไม่ได้เช่นกัน ก้ทดๆกันไป) กับท่อนรับท่อนสร้อยเสียงประสานสวยๆแบบเพราะบาดไปถึงกมลสันดาน ดนตรีอบอวลไปด้วยแซมเปิ้ลดีๆกับบีทฮิพฮอพพอโยกๆแบบคนโตแล้วที่กระเเทกในห้วงลึกของทุกโสตสัมผัส และเพลง One ร่วมกับโบโน่ นั่นก้ไม่ใช่ของดีที่เอามาทำเสีย แต่เป้นของดีที่เอามาทำใหม่อีกรอบ

14.Justin Timberlake : FutureSex / LoveSounds



หลายๆคนอาจจะตราหน้าเค้าเป้นแค่ศิลปินลูกกรอกทำเพลงดาดๆขายชะนีโง่ๆกลุ่มนึง แต่เราให้โอกาสคุณพิจารณาในตัวเนื้องานกับดนตรีและอัลบั้มใหม่ล่าสุดของเค้าดีๆ ปราศจากอคติใดๆทั้งหลาย และใช้ใจฟังแบบบริสุทธิ์ เพื่อเปิดรับงานอันเต็มไปด้วย พลังของคนหนุ่มที่อัดแน่นกับบีทแหวกๆ หม่นๆ ทึมๆ เนื้อหาโตขึ้น มองโลกในแบบที่คนกำลังจะบรรลุนิติภาวะคนนึงพึงจะระลึกและตระหนักได้ถึงความเป็นไปในโลกอันบิดเบี้ยว นี่ย์เป้นการเดินไปตามแผนที่ใน Purple rain ของ Prince แต่ไม่ใช่การเดินตามรอยเท้าจนโงหัวหาตัวเองไม่เจอแล้วหลงทางอย่างแน่นอน

15.John Mayer's : Continuum



จอห์นอาจเคยทำทั้งเพลง พ็อพ ใสๆเอาใจแฟนแควนเพลงคอลูกกวาดประเภทร้อยตามง่ายดนตรี สนุกลืมตายกะท่อนฮุคโดนๆชนิดเอาไว้เปิดตอนกระหนุงกระหนิงกะแฟร หรือคลอเคลือกะเพื่อนๆ เมาธ์กันเรื่องเรื่อยเปื่อย จนถึงขั้นทำเพลงโฟลค์ดิบกร้าน กะเนื้อหาประหนึ่งเพื่อชีวิตใต้ดินไม่แคร์หน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆในอเวจีและโลกนี้ย์ ทว่าเค้าได้กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มระดับ-สุดยอด-ที่เป้นการรวมกันของความติดหูและเรียบง่ายของดนตรีพ็อพ กับรายละเอียดมิติทางดนตรีที่หลากหลาย และเป้นดนตรีที่เป็นดนตรีจริงๆในแบบ บลูส์ โฟล์ค และ บีทข้นๆแบบที่เพลงดีๆควรจะมี กับเนื้อหา หัวใจทองคำแบบบไม่ต้องมีรางวัลมาการัณตรี ชนะเลิศศ !

16.Nas : Hip hop is dead



ข้าทาส ฮิพฮอพ เอ๋ยย อยากจะร้องกรี๊ดดด แซ่ซ่องไปทั่วบารมีแดนบีบอย์ East side West side Any side of the world ว่าไม่เคยฟังอัลบั้มเพลง ฮิพฮอพ อัลบั้มไหนเรยที่เข้าท่าและดูดีมีสกุลได้เท่าอัลบั้มนี้ย์ของตา แนส มานานแล้ว นับจากอัลบั้มขั้น มาสเตอร์พืซนั่นของ Wyclf jean ที่ตอนนี้ย์สนุกอยุ่กะอีชากีร่า กะเพลง ตูดจะไม่ตอแหล จนกุ่ไม่กลับ อะไรเอยจะเริ่ดขนาดนี้ย์ แนสขับเสียงแร๊พออกมาแบบทั้งดิบและนุ่มนวล บนบีทเนิบๆ โยกๆบทจะแรงของเค้าก้ใช่ว่าจะมีแต่อะไรแรงๆจนเมาไม่ได้สติ ทว่ายังเต็มไปด้วยรสบาดคอนุ่มลิ้นในแบบไวน์ดีๆที่พอกรึ่มๆไม่ใช่เหล้าแรง เบียร์เหม็นๆที่ทั้งราคาถูกและไม่มีคุณค่าใดๆทั้งสิ้นในแง่ไหนเลยก้ตาม อัลบั้มนี้ย์เป็นสิ่งที่ช่วยกีดแนส ออกจากอีพวก แร๊พโย่ว ประสาทแดก ด่าพ่อล่อแม่ แบ่งพรรคพวกแร๊พประกาศ ศักดาห่าเหวกันอยุ่ได้ทั้งๆที่พวกมันก้ไพร่ด้วยกันทั้งนั้น พวกนั้น ยกระดับความเป้นที่หนึ่งในวงการเทียบเท่า Kanye West ไปเรยทีเดียว

17.Prince : 3121



เด็กวัยรุ่นหัวแรงบ้านเราอาจะจเชิ่ดใส่ ป้า แต่ใคร่ใช่ว่าป้าจะสนถึงอีพวกเด็กหัวโปกหมดเปกเรยโปกมาข้ามชาติชั่วๆนานโขแล้ว แต่ป้าก้ยังยืดหยัดอยุ่บนถนนสายดนตรีต่อมาได้เป้นสิบๆปี กับ จุดกำเนิดของเพลง โซล ฟังค์ สกา อาร์แอนด์บี แบบโจ๊ะ ๆ หม่น ๆ เปรี้ยวเยี่ยว ราด สุดเก๋ไก๋ เคลือบไปด้วยไสตล์เรโทรๆ กะ ดนตรีบีทอัพเทมโพ หนัก ๆ แร่ด ๆ โพรเกซซีฟ ไปเกนเรยทีเดียว ยิ่งได้ %TDP มามิกซ์ให้ยิ่งลืมโลก ตกนรกบกไหม้กันไปในเเดนซ์ฟอลร์กันให้ฉีแหกไปข้าง ใครจะเชื่อล่ะว่าคนที่สร้างอะไรใหก้กะวงการตั้งมากมายขนาดนี้ย์ ยังไม่หมดฟังทำเพลงออกมาได้ลืมโลก แบบที่หลายๆคนยกย่องและไม่สารมารถทำได้ดีเท่า เพลงอย่าง 3121 กับ Get on the boat เป็น 2 แทร็ค ที่บ่งบอกได้ถึงตัวตนของพริ๊นซ์ได้แบบไม่ต้องพยายามแรงหรือโดเด่นมาก แต่เค้าเป้นแบบนั้น มาตั้งนานแล้ว ปิ๊วป๊าวว ฟิ๊ววฟ๊าวว และ นิ่งแร่ดแบบเงียบๆ แรงของจริง

18.Kelly Price : This Is Who I Am



หากพูดถึงเคลลี่ ไพรซ์ หลายๆคนอาจะจคงนึกถึงเพลง Heartbreak hotel เพลงเก่งของเจ๊วิธที่เจ๊เคล ไปร่วมวงไพบุลย?เขย่าฟลอร์โยกๆด้วยนั่นกะน้าเฟธ อีวานส์ แต่ด้วยตัวเพลงและอันดับหลายๆอย่างอาจทำให้ตัวตนของเจ๊แกโดนรัศมีอะไรหลายๆอย่างกลบไปอยู่บ้าง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องประดักประเดิกอะไรกะศิลปินดีๆซักคนที่มีศักยภาพมากพอจะทำทั้ง ดนตรีที่ดี และมีต้นทุนที่ดี นั่นคือเสียงร้อง และความคิดสร้างสวรรค์ เสียงของเคลลี่ย์ นุ่มลึก โหนไปถึงโน๊ตตัวไหนก้บ่ ยั่น อีกทั้งดนตรีที่มาแบบโซล กอสเพล เข้มข้น ขุ่นคลั่กไปด้วยเครื่องดนตรี สดๆ ดิบ ๆ กะดนตรีแน่นๆ เสียงประสาน 200 คนที่เอามาช่วยร้องใน Nobody but jesus นั่นทำให้เราน่าจะไปบอกมาลัย กันว่า หร่อนน่าจะเลิกเอาแต่เสียงประสานในทุกๆเพลง จนเฝือ แต่หัดใช้ในเพลงที่สมควรใช้ และหยุดในเพลงที่ไม่สมควรมี นี่ย์แหล่ะเค้าเรียกว่า คิดเป้นใช้เป็น แต่ยกเพลง Make it happen ของนางมาลยไว้เพลงนึง อันนั้นขนลุกชิงๆ

19.Boyz 2 men : The remedy



ศิลปินประสบความสำเร็จมากที่สุดวงหนึ่งในยุค 90 อาจมีอยุ่หลายวง แต่วงอาร์แอนด์ บีแท้ ๆ ดีๆ กับบีทนุ่มๆ ที่มากับนำเสียงโซลแท้ๆ พะยี่ห้อเจ้าพ่อเพลงรัก ที่เชิ่ดใส่เพลงฮิพฮอพ และเพลงเต้นรำ ทั่ววงการนั่น คงหนีไม่พ้น วง บอย ทู เมส์ วงนี้ย์ พวกเค้ายึดที่จะทำเพลง โซลสวิง ๆ โยก ๆ บนบีทเพลงอาร์แอนด์ บี เค้ลาแจ๊ส กะ พ็อพในแบบผู้ใหญ่ๆ หรืออาจจะเรียกได้ว่า เพลงแก่ๆนั่นแล แต่ทว่าเมโลดี้ย์อันสวยงาม หวานหยดชนิดมดทั้งรังปลวกแห่กันมาถลุง หูก้คงไม่พอ เสียงร้องประสานในแบบกอสเพล ระดับโซพราโน่ ของพวกเค้าอาจจะดีจริง แต่นั่นก้รวมไปถึงดนตรีของพวกเค้าด้วย นี่อาจเป้นอั้ลบั้มเพลงอารืแอนด์บี แท้ๆ จริงๆที่เหลืออยุ่ในตลาดอมริกา ไม่ใช่อัลบั้มเพลง ฮิพฮอพ หรือเพลง แดนซ์ แร๊ว เอาอาร์แอนด์บีหยบอดๆ เพื่อแก้ หนวกหู ในอัลบั้มเพลง โย่วว ๆ ซัฟ แม๋นน เสร่อที่สุด

20.Damien rice : 9



ลืมเพลงโครตดัง มะปีที่แล้ว the blower DT ไปได้เรย ไม่ใช่ว่าในอัลบั้มนี้ย์ไม่มีเพลงแบบนั้น หรือไม่มีเพลงโครงส้รางแบบนั้น มันมีอยุ่ และมีกลิ่นอาย หม่นๆ เค้ลาเสียงโฟล์ค กะกีต้าร์ริฟ บาดจิตอยุ่ เพยีงแต่มันซับซ้อน ขึ้น ลึกซึ้งขึ้น และ ดูมีรูปแบบในการนำเสนอที่ ฉลาด ขึ้น เดเมี่ยน ขนเอาเพื่อนพรรคและภรรยาลูกๆมาร้องคลอๆไปด้วยกันในหลายๆแทร็ค ดนตรียืนอยุ่บนเพลงพ็อพ โฟล์ค คนทรี่ย์แบบขุ่นมัว เต็มไปด้วยมิติ คาเร็คเตอร์ชัดเจน และเนื้อหาครอบคลุมทั้งจักรวาล อัลบั้มถ้าเปรียบดทนสีโดยรวมคงเป้นโททนสีเดียวกันหมด นั่นคือ สีฟ้า มันทั้งหม่นหมอง และอบอุ่น ในขณะเดียวกันก้สะเทือนใจและ สุขใจ เคยได้ยินคำพังเพยที่ไหนสักแห่งนึง เค้าว่ากันว่า เสพย์สุขต้องสเพย์ทุกข์ อัลบั้มนี้ย์คงบ่งบอกถึงคำพูดนั้นได้โดยไม่ต้องอธิบายอะไรต่อเลย

21.Johnny Lang : Turn Around



แกรมมี่ย์ปีนี้ย์ หากไม่มีหนุ่มคนนี้ย์เข้าชิงซักรางวัล ความอุบาวท์จัญไรอัปปรีย์ Thing ทั้งหรายคงเข้าแทรกถึงจิตวิญญาณและวิจารณญาณ ของระบบมันสมองที่ขาดความตระตรองอย่างดีแล้ว ๆ แน่ๆว่าดนตรีดีๆที่ขายได้ด้วย และอาจขายไม่ด้ ถึงขั้นเจ๊งชิบหายวิบัติเป็นเสนียดต่อวงการและตัวงานเองของกการตัดสินใจของคนฟังเอง คงเป้นเรื่องตลกและน่าเศ้ราไปในคราเดียวกัน จอห์นนี่ย์อาจเป้นหนุ่มเข้าใจยากในหลายๆผลงานของเค้า แต่คราวนี้ย์ด้วยอายุ ด้วยวัยวุฒิ วุฒิภาวะ และการมองโลกในแง่ดีขึ้นเค้ากลับมาพร้อม เสียงระดับ มาลัย ภาค ผู้ชาย สำเนียงเอย เทคนิค การร้องตอแหลต่างๆที่เก็บยได้จน ถ้านางมาลัยมาได้ยิน คงกรี๊ดๆๆๆๆๆ ที่หาเนื้อคู่เจอแล้ว ในทุกเพลงหนูแกร้องเพลงได้ สตอเบอรรีย์มากๆ เสียงออดอ้อน เง้างอดหงุงหงิคราง ฮื่ฮ ฮ๊า กรี๊ด กร๊าดดด หวีด ต๊ายยย ดีที่ดนตรีหนักแน่นและเจนจัดไปด้วยลูกเล่นแพรวพราวอยุ่หลายขุมเลยพอแยกแยะออก ดนตรีของจอห์นนีย์เป้น ร็อค โซล บลูส์ กอสเพล เค้ลาไปกะเครื่องเคียงอย่างพกวเเซมเพิ่ล และบีทดนตรีฟังก์ สกา แร๊กเก้ กะริฟกีต้าร์แรงๆ รัวกลองมันส์ๆ และแหกดปากแข่งกะเบส เสียงสังเคราห์มันส์ นรกแตก
เนื้อร้องก้มีหมดทั้งเรื่องความยากจน เหยียดผิวเชื่อชาติ ของ มาธิน ลูเทอืรคิง ที่เอามามิกซ์นิ้ง เข้ากะบีทเร๊กเก้น่ารักๆใน Anything Possible แถมยังมีเพลงแจ๊สส จ๋าๆที่ถ้าใครไม่รุ้ว่าถ้ามาลยเสียงเป้นผุ้ชายจะเป้นแบบไหน มาฟังหนูจอห์นนี่ย์ร้องเรยย จะบรรเจิดทันที ทันใด

22.Gwen Stefani : The Sweet Escape



นี่ย์ถือเป็นอัลบั้มของปีหน้า แต่มันเริ่ดและดีจนต้องรีบจัดเข้าหมวดสุดยอดอัลบั้มดีเด่นของปีนี้ย์ไปเรย ด้วยที่มันเป้นทั้งอัลบั้มเมนสตรีม พ็อพ เต็มตัวและฉีกขบถเดิมๆของตลาดเพลงพ็อพ ไปด้วยดนตรีแบบป่วงๆ สนุกๆ เรียบง่ายและจงใจพยายามทำให้มันดูมีราศีและดูมีของดี ไม่ใช่สักแต่จะขาย หลายๆเพลงอาจดูโหลยโท่ย อุบาวท์ ซำซาก ตายห่า แต่นั่นแค่หยิบมือ2 - 3 เพลง ซึ่งโดยของดีในอัลับ้มย้อมแมวหลวมตัวทำให้เกิดใหม่สวย ได้หมด ถึงจะเป้นดนตรีแบบ พ็อพ ร็อคอารร์แอนด์บี ย้วยๆ บีทแรงๆ เค้ลาเสียงอิเล็คโทรนิค ดิสโก้เรโทรกลายๆเปรี้ยวปร๊าดและ ท่อนฮุค ฉึกฉัก ติดฟหูร้องตามง่าย ชนิดฟังรอบเดียวก้ถึง แต่เนื้อหา และแนวทางของอัลบั้มต่างหากที่ดูโดขึ้นมา เกว็นและบรรดาโพรดิวซ์เซ่อ ช่วยกันรังสรรค์ของเก่าๆมายำเละ โดยปราศจากทัศนคติและความกดดันมหาศาลจากงานที่แล้ว นี่ย์คืองานในสนามเด็กเล่น ที่เต็มไปด้วยแง่มุมดีๆและการเย้ยหยัน ระบบทุนนิยม กะ ขนบเดิมๆของวงการเพลงพ็อพ ดูชื่ออัลบั้มสิ The Sweet Escape * - - - - ประชดได้ตอแหล สุดๆ



* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *


เออ ปีนี้ย์ศิลปินนักร้องวงห่าลากมันขยันปั๊มงานกันออกมาเยอะมากกกก อัลบั้มพวกนี้ย์ก็เริ่ดและยอดเยยี่มไม่แพ้กันแต่อาจจะด้วยแนวทางและรสนิยม นานาจติตตัง และนี่ย์ก็คืออีกหลายๆอัลบั้ม
ที่สมควรไปหามาฟังประดับบารมีการฟังดนตรีและรับรุ้ว่าเพลงดีๆน่ะมันเป็นยังไง โดยไม่เกี่ยงแนว





















ปล.รีวิวเสร็จล่ะนะคะ ใครสนใจอัลบั้มไหน ขอดาวน์โหลดได้ ส่วนตัว แต่ถ้าฟังแร๊วว ชอบจริง ต้องไปแจ้นซื้อของเเท้มาเก็บไว้ด้วยน่ะยะ



แก้ไขล่าสุดโดย มาดามจ๊อกกาโล่ เมื่อ Mon Jan 15, 2007 10:04 pm, ทั้งหมด 8 ครั้ง

_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว ตำแหน่ง AIM Yahoo Messenger MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เราไม่ได้มารีนะ เรามาอ่าน บอกก่อน กลัวเข้าใจผิด


_________________
อย่ามาสตอนะ
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อุ้ย ยังไม่ได้อ่านนะ แค่เห็นคนตั้งกระทู้ กับ ชื่อกระทุ้ก็เริ่ดแล้ว เดี้ยวอ่านเลยๆ

ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
รุจักเพียงบางคนเองค่ะ อร๊ายยยยยยยย เลิศ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อยากฟังทุกอัลบั้มเรย เอามาให้โหลดหน่อยดิ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
หุหุ รีวิวได้ดุเด็ดเผ็ดมันส์มากก

ตรึง!!!


_________________
My Name is Adam Maroon5
My Nickname is Justin Timberlake
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
Kelly Price เพราะจริงๆครับ

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
Paolo Nutini เริ่ดมากกคะ ชอบ ยัยวิกเซ๋นแนะนำมาไห้ฟังก้อชอบเลย

ผลงานการเขียนของเจ๊เริ่ดมากๆคะ



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
แครี่ย์ นี่ชอบมากๆเลยคร่ะ เพลงเพราะไม่เคยชอบเพลงคันทรี่ย์เลยเนี่ย
ส่วนนัง MJB นี่ก็เลิศเหมือนกัน เก๋อยู่หลายเพลง



_________________
http://www.napussyonline.net/

http://www.babyjane-mimi.com
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 4
ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com