
อันที่จริงแล้ว ตัวรีเองก็ไม่ได้มีโปรเจ็คท์รีวิวที่อยากจะเขียนในช่วงนี้ซักเท่าไหร่นัก (รวมไปถึงบรรดาโปรเจ็คท์ที่ยังเขียนค้างเอาไว้ด้วย) แม้กระทั่งอัลบั้มล่าสุดของอีหัวนมเอง ก็ไม่ได้อยู่ในแพลนที่อยากจะเขียนแต่อย่างใด แต่ไหนๆเห็นบรรดากะเทยเพื่อนสาวต่างhypeกับอัลบั้มนี้กันมาก ยิ่งกว่าวันหวยออก อีกทั้งพอได้ฟังเพลงหมดทั้งอัลบั้มแล้ว ก็พอจะกล่าวได้ว่าคุ้มค่าให้เสียเวลาเขียนรีวิวนี้ให้พวกนางซะหน่อย

The Album : C+
ว่ากันตามตรง มาตรฐานผลงานของอีหัวนมเอง ถ้ากะเทยไม่อคติหรือรำคาญความเวิ่นเว้อปัญญาอ่อนของพวกอีปลิงเกินไปนัก ก็ต้องยอมรับว่าผลงานของอีพวกนี้เองก็ไม่ใช่ผลงานไก่กานูกูเซโย ยิ่งเทียบกับมาตรฐานของเพลงแดกหมาด้วยกันแล้วนั้น เพลงอีหัวนมคือแดกขาดทุกด้านแบบทุกด้านจริงๆ แต่... ก็ต้องยอมรับอีกเช่นกันว่าที่ผ่านมานั้น ในมาตรฐานระดับสากลเอง เพลงอีหัวนมก็ยังไม่สามารถล้างคราบกลิ่นโคลนสาปโลกที่3 ไปเผยอหน้าชูคอในมาตรฐานระดับเพลงโลกที่1กับเค้าได้
แต่... ในอัลบั้มล่าสุดนี้เอง เรียนตามตรงว่าพวกนางได้เปลี่ยนทัศนคติและมุมมองของรีที่เคยมีต่อผลงานของพวกนางเปลี่ยนไปพอสมควร หรือจะกล่าวว่าอัลบั้มนี้สามารถตอบโจทย์สิ่งที่แฟนเพลงสากล แม้แต่แฟนเพลงทั่วไปที่เป็นnon-Kpop fansคาดหวังหรือต้องการ ก็คงจะได้(มั้ง?)
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าอัลบั้มนี้มันก็ไม่ได้ถึงขนาดมิมีมลทินมัวหมอง สามารถลบคำสบประมาทต่างๆนาๆออกไปได้อย่างสิ้นเชิงขนาดนั้น แต่... ก็ยอมรับความจริงและให้เครดิตในแง่ของการเปิดมิติและสร้างบรรทัดฐานใหม่ของผลงานเพลงแดกหมา ว่าอัลบั้มนี้ของอีหัวนมสามารถยกระดับมาตรฐานของผลงานได้ทัดเทียมไม่อายเพลงเมนสตรีมของฝั่งพวกดั้งขอเลยแม้แต่น้อย
ส่วนในแง่ของจุดด้อย อย่างที่เคยพิมพ์ไปในกระทู้สนทนาและกระทู้MV ว่าสิ่งที่หายไปจากอัลบั้มนี้คือ'ขาดความเป็นเจ้าของผลงาน' โอเค ไม่ว่าพวกหล่อนจะรักหรือเกลียดพวกนางก็ตามแต่ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไปไม่ได้คือผลงานที่ผ่านๆมาของอีพวกนี้มันมีซิกเนเจอร์และความเฉพาะตัวบางอย่าง ที่บั่บ เออ นี่ล่ะ เพลงอีหัวนม แม้ว่าสิ่งนั้นกะเทยจะปรามาสว่าเป็นfake iconหรือtrendsetter wannabeก็ตามอะนะ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ อีสองซิงเกิ้ลล่าสุด อย่างอีice creamและอีlovesick girls ที่แทบจะหาตัวตนหรือความเป็นเจ้าของผลงานของอีหัวนมแทบไม่เจอ เครดิตของอีพวกนี้ใน2เพลงนี้ มีอยู่แค่ในฐานะนักร้องที่มีชื่อกำกับไว้แค่นั้น ขาดเอกลักษณ์ ไร้ความไอคอนนิค เหมือนนักร้องเกรดบีที่มาเป็นแบคอัพให้ศิลปินเอลิสต์อีกทีแค่นั้น
ส่วนจุดด้อยอีกข้อนึงที่มีผลมากๆเช่นกัน นั้นก็คือเรื่อง'กำแพงภาษา' ต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวรีเองนั้น ทุกคนรู้ คนอ่านรู้ ด้วยความที่เป็นคนฟังเพลงเกาหีลมายาวนานเกินกว่า10ปี ส่วนตัวไม่ได้มายด์อะไรกับประเด็นนี้อยู่แล้ว แต่เท่าที่ฟังได้คุยกับพี่ๆน้องๆหลายๆคนที่เป็นแฟนเพลงสากลหรือคนที่เป็นnon-Kpop fans มีจำนวนไม่น้อยที่บอกว่ายังรู้สึกว่าภาพรวมยังไม่สามารถก้าวข้ามความเป็นเพลงแดกหมาไปได้
จากประเด็นนี้ ส่วนตัวคิดว่าภาคดนตรี รวมถึงมูดแอนด์โทนของอัลบั้มนี้คงไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้คนกลุ่มนี้รู้สึกเช่นนั้น ถ้าให้รีวิเคราะห์ รีคิดว่าคงเป็นผลพวงมาจากเรื่อง'ภาษา' โอเคว่าอาจจะมีเรื่องอคติและความไม่คุ้นชินอยู่ด้วยหรือไม่ ก็คงไม่สามารถตอบแทนใครให้ได้ แต่ขนาดคนที่ค่อนข้าง'คุ้นชิน'กับภาษาแดกหมาอยู่แล้วอย่างตัวรีเอง บางแทร็คยังแอบรู้สึกทะแม่งแปลกๆ
โดยเฉพาะทักษะการร้องเพลงของอีเข ที่ฟังกี่ครั้งก็เพลียในความปรอทแตก ไมเกรนแทบขึ้น สมัยเดบิ้วแรกๆก็ยังอยู่ในระดับพอทนได้ แต่หลังๆพอรู้ว่าเริ่มดังก็ยิ่งมั่นหน้า อีตอนร้องภาษาแดกหมาก็ไม่เท่าไหร่หรอก (จริงๆก็คือเหี้ยนั้นล่ะ แต่คือด่าจนไม่รู้จะสรรหาอะไรอะไรมาพิมพ์ จนปลงเลิกด่าไปเอง) แต่พอร้องภาษาดั้งขอเท่านั้นล่ะ โอ้โห กูงงมาก อีปลิงใช้ประสาทสัมผัสส่วนไหนในการรับรู้เสียงของอีนี้ได้คะ ถึงกล้าอวยว่าร้องเพราะ สำเนียงระดับเนทีฟสปีคเกอร์ อีดอก ถ้าไม่รู้คงนึกว่ากำลังอยู่ในงานชิงเปรตวันสารทเดือนสิบ มั่นมากค่ะอีเข คงนึกว่าตัวเองเป็นอีเด็กบิลหรี่อย่างงั้นล่ะสิ่ ขำ
ซึ่งข้อด้อยเหล่านี้คือการบ้านให้อีหยางแอนด์ทีมงานกับอี4ตัวนี้ ต้องกลับไปคิดทบทวนแบบhard-workingและแก้ไขสำหรับในคัมแบ็คครั้งถัดไป ถ้ายังอยากก้าวข้ามไปเป็นนักร้องระดับหัวตารางกับเค้า เพราะภาพรวมของอัลบั้มนี้เอง ในฐานะก้าวแรกที่ตีตลาดเพลงอีกันอย่างเต็มตัว ก็ต้องถือว่าสอบผ่านอะนะ แต่... อัลบั้มหน้าคือขอเหอะ เลิกซักที อีการพราวด์กับอีพวกภาพลักษณ์พอพสตาร์AECซะเต็มประดา คือมันไม่สามารถต่อยอดส้นตีนอะไรได้เลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากแสดงถึงความราคาถูกและความตลาดล่างแค่นั้น
_________________

