Mya Liberation (1)
เกริ่นนำส่วนตัว อร้ายยยยยยยยยยย ทำไมช่วงนี้มันหมดเรี่ยวหมดแรง หมดกำลังใจในการเขียนรีวิวเช่นนี้นะ โปรเจครีวิวในหัวเยอะมากเลยนะ มีตั้งหลายอัลบั้มที่ฟังแล้วอยากเอามาพูดถึง แต่พอถึงเวลาแล้ว ก็ไม่มีอารมณ์ในการเขียนซะที แล้วอัลบั้ม X ของ Kylie อัลบั้มแห่งปี เรารอคอยมากที่สุด และต้องเขียนให้ได้ ก็ยังไม่มีอารมณ์เขียนเลย ใครอยากอ่านก็รอหน่อยนะ เพราะอัลบั้มนั้นยากเหมือนกันในการเขียน เพราะรายละเอียดและลูกเล่นต่างๆ ในอัลบั้มเยอะแยะยุบยับมาก ขอสะสมข้อมูลให้พร้อมในครั้งนั้นก่อน ส่วนการเขียนในครั้งนี้ ขอจุดไฟที่ใกล้จะมอดของฉันขึ้นมาอีกครั้งก่อน การเขียนครั้งนี้ยอมรับเลยว่า อาจจะปฏิบัติต่อมาย่าได้ไม่ถูกนัก เพราะเหมือนใช้เธอเพื่อเป็นทางผ่าน แต่ ก็นะ เอาน่า อย่างน้อย ฉันก็ช่วยหร่อนนะ นังมาย่า เพราะถามหน่อยเหอะ ใครรู้มั่งว่าเธอออกอัลบั้มแล้ว
เกริ่นนำนักร้อง Mya (มีย่า , มาย่า , แล้วแต่ใครจะอ่าน) คือนักร้องสาว ที่เคยประสบความสำเร็จ เมื่อครั้งอดีตนานมากแล้ว ถ้าเพลงที่ทำให้เธอโด่งดังจนถึงขีดสุด และเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากที่สุด คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคือเพลง กะหรี่รสส้ม ที่เธอไปร่วมเป็น 1 กะหรี่อนงค์นาง รวมตัวกับ อิติ๊ อิพิ้งค์ และอิลิลคิม แต่ก่อนหน้านั้น เธอออกอัลบั้มมาแล้ว 3 อัลบั้มเชียวนะ เริ่มออกอัลบั้มตั้งแต่ปี 1998 อยู่ในวงการร่วม 10 ปีแล้ว เพลงที่เธอโด่งดังด้วยตัวเองสูงสุดคือ Case of the Ex เพราะสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 2 ในบิลบอร์ด แล้วเพลงนี้ทำให้เธอโด่งดัง และเป็นที่จับตามาก ของวงการเพลงอเมริกาในช่วงนั้น (ปี 2000) และอัลบั้มต่อไป My love is like wo เอง ก็โด่งดังพอตัวมาก แต่อัลบั้มนี้กลับเงียบฉี่ และส่งผลให้ข่าวเธอหายไปเยอะมากๆ
รูปแบบเพลง R&B ยืนพื้นเป็นของตายคนดำ ตามด้วยรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม แต่ไม่มากนัก เป็นอัลบั้มที่ลูกเล่นเพลงน้อยมาก เพราะหลายๆ แทรค พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด ที่นักร้องหลายๆ คนทำจนโด่งดังมาหมดแล้ว ทั้งฟังค์แบบบียอนเซ่ ครั้งค์แบบเซียร่า ภารตะ หรือซาวด์แบบเอเชีย โดนรวมถือเป็น R&B บีทกลาง ถึงเร็ว ที่เก๋นะ แต่ไม่เด่น และไม่น่าจดจำเท่าที่ควร
จุดเด่น ถือเป็นอัลบั้มที่ฟังได้เรื่อยๆ ทั้งอัลบั้ม แบบที่ไม่ต้องมีการกดข้ามแทรคแต่อย่างใด รวมถึงลูกเล่นในหลายๆ แทรค แม้อาจจะเป็นลูกเล่นที่พบได้ทั่วไปตามท้องตลาดแล้ว แบบที่บอก แต่ก็ถือว่าเธอหยิบมาใช้ ผสานกับเสียงร้องตัวเอง จนปรับเป็นเพลงของเธอเองได้ ต้องยอมรับในความสามารถของเธอเลยแหล่ะ รวมถึงชื่อเสียงที่เธอเคยมีมา แม้จะน้อยนิด แต่ชื่อของเธอ ก็อยู่ในความรู้จักวงกว้าง ทำให้งานเพลงของเธอ ก็ยังมีคนสนใจจะหยิบขึ้นมาฟัง รวมถึงเราเองด้วย
จุดด้อย ถามหน่อยเหอะ ถ้านาโอไม่หยิบรีวิวนี้ขึ้นมาพูด ใครจะรู้บ้าง ว่ามาย่าเธอออกอัลบั้มใหม่มาแล้ว น้อยคนมากกกก ที่จะรู้ และที่ร้ายกว่านั้นคือ เธอออกซิงเกิ้ลมาแล้ว 2 เพลงด้วยนะ ทั้งนี้ ก็เพราะชื่อเสียงเธอ เงียบมากกก ข่าวคราวต่างๆ ก็น้อยมาก บวกกับอัลบั้มที่แล้ว ที่แป๊ก และเธอดองเค็มอัลบั้มนี้นานมาก เกือบ 5 ปีเต็ม แต่เธอเองกลับไม่มีข่าวคราวใดๆ เลย นั่นแค่จุดเริ่มต้นแล้ว นี่ยังไม่รวมคลื่นลูกใหม่ ที่พัดเข้ามาเรื่อยๆ คอยกลบคลื่นลูกเก่าให้ดับไปเรื่อยๆ เมื่อมาดูที่เนื้อในอัลบั้มแล้ว อย่างที่เราบอกนั่นแหล่ะ หลายงานเหมือนนักร้องอื่น แน่นอนที่สุด ว่าเธอต้องโดนเปรียบเทียบ ว่าเป็นได้แค่เงา ของนักร้องคนอื่น และตัวเธอเอง ก็ไม่ได้มีศักยภาพที่โดดเด่น และภาพลักษณ์ที่ชัดเจนขนาดนั้นด้วย ทำฟังค์แบบบียอนเซ่ วินาทีนี้ ใครจะสู้อิบีได้หรอ ทำครั้งค์แบบเซียร่า จริงเธอเต้นเก่งพอๆกับอิเซียร่านะ แต่การเต้นของเธอจะดูไม่แข็งแรงเท่า จะไปทางพริ้วไหวมากกว่า แล้วอะไรหล่ะ ที่จะทำให้อัลบั้มนี้น่าสนใจได้ นอกจากตัวเธอเอง ความจริงเธอเป็นคนที่มีความสามารถนะ แต่เหมือนเอามาใช้ไม่เป็น ดึงจุดเด่น และความน่าสนใจของตัวเองและงานเพลงออกมาไม่หมด น่าเสียดายนักร้องที่มีความสามารถคนนึงเลยแหล่ะ
Track By Track
Lock u down (2) ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มที่จริงๆ เธอปล่อยออกมาตั้งแต่กลางปีนี้แล้ว แต่เงียบฉี่มากๆ ก็สมควรแหล่ะ เพราะตัวเพลงนี้ อ่อนยวบมาก แล้วยิ่งเทียบกับเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มแล้ว เพลงนี้ถือว่า ลายละเอียด บางไปมากเลย น่าจะตัดเพลงอื่นเป็นซิงเกิ้ลมากกว่า R&B เดินบีทกลางๆ เบาๆ แม้จะแซมเสียงขลุ่ยมาเสริมตรงคำว่า Lock u down ให้เพลงนี้พอโดดเด่นขึ้นมาได้บ้าง แต่เพลงนี้ไม่โดดเด่น และไม่ได้น่าจดจำแต่อย่างใด ผิดหวังมากกกก
Ridin (1) ซิงเกิ้ลที่ 2 บัลลาดตามสมัยนิยม ที่ธรรมดามากกก อีกแล้ว เมื่อเทียบกับเพลงเด่นๆ เด็ดๆ สมัยนี้ ซึ่งแนวนี้ ที่โดดเด่น ต้องยกให้แม่ Keyshai Cole ที่ทำออกมาได้เก๋กว่าหลายเท่านัก ทั้งเสียงร้อง ที่มาย่าเทียบไม่ติดเลย รวมถึงลูกเล่นการร้อง ที่คลื่นลูกใหม่อีกหลายๆ คนยังทำได้ดีกว่าเธอ เฮ้อ น่าเสียดายแทน ประสบการในวงการมากมาย น่าจะค้นพบจุดเด่นของตัวเองได้แล้วนะเนี่ย
I am (2.5) เพลงแรกเปิดอัลบั้มที่ เอ่อ .... ฟังค์แบบบียอนเซ่ มาอีกแล้วอ่ะ เหอะๆ ก็นะ ถือว่า ฟังได้เพลินๆ ดี แต่เพลงนี้ก็ต้องถือว่าเป็นแนวที่เธอหยิบมาร้องได้เข้าท่าอยู่พอตัว จะเอาจริง ถ้ามาเอาดีด้านนี้ ก็ทำได้ไม่ยาก เพราะลักษณะการร้อง กึ่งแร๊พ การแบ่งคำ หรือ กรูฟต่างๆ ของเธอ ถือว่าชัดเจน และโดดเด่นเลยนะ เพียงแต่ มาช้ากว่าบียอนเซ่ และอีกหลายคนไปหลายปี แล้วจ้ะ
Walka not a talka (4) R&B ภารตะ ที่หายไปนานพอสมควร แต่ถ้าเด้งๆล่าสุด คงต้อง Buttons ของจิ๋มแมวนั่นแหล่ะ (นิแถมเอาตาสนูปด๊อกมาฟีทเหมือนกันด้วยนะเนี่ย) คิดว่า เพลงนี้เข้าท่าที่สุดแล้วในอัลบั้ม โดดเด่น และมีเอกลักษณ์ ที่สุด เพราะการนำซาวด์หลายๆ แบบมารวมกัน ทั้งการร้องแบบดิบๆ การร้องแบบไหลๆ และลูกเล่นดนตรีที่หลากหลาย เปลี่ยนไปมาเรื่อย ทำให้ทั้งเพลงไม่จำเจ และเหมาะสม อย่างลงตัวที่สุด เพลงนี้น่าจะตัดเป็นซิงเกิ้ลที่สุด ถ้าอัลบั้มไม่แป๊กไปซะก่อนนะ อ่ออีกอย่าง ด้วยความสามารถในการเต้นที่ล้นเหลือของเธอ ยิ่งน่าจะทำให้เพลงนี้เด่นขึ้นไปได้อีกเยอะเลยแหล่ะ แอบเสียดายเพลงดีๆ
Still a woman (3.5) อินโทรหนักแน่นมาก แต่พอเข้าเพลง ดนตรีกลับเบาลงอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่เข้าท่านะ สำหรับอัลบั้มนี้ การเดินบีทเบาๆ โหวงๆ แต่เดินไปเรื่อยๆ ติดกลิ่นแอมเบี้ยนแบบที่ตาทิมชอบใช้ แล้วค่อยๆ หารายละเอียดมาแซมตามจังหวะเรื่อยๆ การแบ่งจังหวะของเพลงเอง ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี การเข้าคอรัสทำได้น่าสนใจ เป็นอีกเพลงที่จะเลือกตัดเป็นซิงเกิ้ล ก็น่าจะไปได้ดีแท้ๆ แม้ตัวเพลงอาจจะไม่เด่นเท่าไหร่ แต่แนวนี้ยังไม่มีใครเล่นมากเท่าไหร่ ตัดมา อาจจะเป็นเจ้าแม่ของกระแสเพลงนี้ได้ไม่ยาก
No touchin (3) R&B หม่นๆแบบที่ตาทิมชอบทำในยุคแรกๆ แต่กลับเอาแนวอุปรากรจีนมาแซม รวมถือเครื่องสายเสียงแหลม ก็เป็นอีกเพลงที่เข้าท่านะ ของอัลบั้มนี้ ถือเป็นบัลลาดแบบมืดหม่น ที่ต้องอาศัยเทคนิคการร้องไหลๆ เอื้อนๆ และลูกเล่นการหลบเสียงค่อนข้างเยอะเลยแหล่ะ โชคดีหน่อย ที่ธรรมชาติเสียงเธออยู่ในโทนหวาน เพลงแนวนี้เลยค่อนข้างสบายสำหรับเธอ
Lights go off (2) บัลลาด R&B มาอีกแล้ว ก็นะ โหลๆ อ่ะ แต่ถ้าถามว่าเพลงนี้เข้าท่ากว่า Ridin มั้ย ตอบเลยว่าใช่ เนื่องเพราะตัวเมโลดี้ของเพลงที่พริ้วไหว และส่งอารมณ์เพลงได้ตรงมากกว่า เพราเมื่อแสงไฟเงียบลง ซาวด์แบบกล่องเพลงดูจะเหมาะมากที่สุด พร้อมกับการที่เธอนอนลงบรรยายบรรยากาศต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอ ไปได้เรื่อยๆ แต่เพลงนี้เนี่ย ยาวตั้ง 6 นาทีกว่าๆแหน่ะ แต่เพลงหน่ะ จบลงตั้งแต่ 4 นาทีแล้ว อีก 2 นาทีครึ่ง บ่นอะไรกับโทรศัพท์ก็ไม่รู้ ไม่เห็นจะเข้าท่าเลย ไส่มาทำไมก็ไม่รู้ ไม่ได้น่าฟังเล้ย หรือเล่น Sex phone หรือไงยะ ตัดๆ ไปเหอะ
Switch it up (1) เอ่ R&B แบบนี้เรียกว่าไงหว่า ลืมไปละ จะว่าไป เพลงนี้ก็แอบคล้ายเพลงเก่ง Case of Ex ของเธออยู่นะ อิประเภทซาววด์กระฉึกกระฉัก ไปเรื่อยๆ แต่เพลงนี้ด้อยกว่าเพลงนั้นเยอะเลย ก็ผ่านๆ ไปเหอะ เพลงนี้อ่ะ ไม่ต้องไปสนใจอะไรมากหรอก
Give a chick a hand Freakshow ของบริทนี่ย์ลอยมาทันทีเลยอ่ะ เหมือนมากกกกกก ถ้าบอกว่าลอกกันมาก็เชื่อ เพราะฉะนั้น รายละเอียดเพลงนี้ ไปอ่านเอาในอัลบั้มรีวิวบริทเอานะจ้ะ เพราะโขลกกันมาเด้ะๆ
All in the name of love (0) ชื่อเพลงน้ำเน่ามากก แลดูความรักมันยิ่งใหญ่ แต่ตัวเพลงกลับจืดมาก ดูแล้วไม่น่าเชื่อเลย ที่จะสื่ออารมณ์ออกมาแบบนั้น และดูไม่น่าเชื่อแบบนั้นเลย อ่อ รายละเอียดดนตรีข้ามได้เลย R&B ดาดๆ โหลๆ เห่ยๆ ประเภทเพลงท้ายๆ อัลบั้มหน่ะ อย่าไปไส่ใจเลย อุ่ย กระแด้นเอากีตาร์ร๊อคเสียงงแหลนๆ มาไส่อีกนะ ยิ่งน่ารำคาญไปใหญ่ ผ่านด่วนคร่า....
Life is too short (3) นี่อีกเพลงคร่า... WBT ของอิอ้วนลอยมาแต่ไกล เหมือนมากกก แต่จะว่าไปความหมายเพลงนี้ก็สื่อออกมาได้ดีนะ คนเราเรียนรู้อะไรเมื่อมันสายเกินไป คนเราไม่รู้หรอกว่าจะมีชีวิตอีกเท่าไหร่ และคนเราไม่รู้หรอกว่าชีวิตเรานั้น มันสั้นแค่ไหน กับสิ่งอะไรอีกหลายๆ อย่างที่เราอยากทำและยังไม่ได้ลงมือทำ เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยให้โอกาสของวันนี้มันหมดไป แล้วได้แต่โทษตัวเองว่า ทำไมวันั้น เราไม่ทำอะไรในสิ่งที่เราอยากทำ
Nothin at all (1) - บัลลาดปิดอัลบั้มแบบที่พบทั่วไปแหล่ะ เพราะเราเห็นคนดำปิดอัลบั้มทีไร ก็แนวนี้แหล่ะ ไม่ได้โดดเด่น อะไรเลย ก็แล้วแต่นะ หลายๆคนอยากปิดอัลบั้มตัวเองแบบสบาย ร้องคลอกับตัวเพลงไปเรื่อยๆ ส่วนตัวเฉยๆ กับเพลงแบบนี้ แนวนี้แล้วอ่ะ
ไว้อาลัยก่อนสาปส่ง เป็นอีก 1 อัลบั้มที่ทำให้เราเห็นว่า แม้ตัวนักร้องจะมีศักยภาพมากมายขนาดไหน แต่ถ้าได้เพลงไม่ดี ไม่ขับให้ตัวนักร้องเด่นขึ้นมาได้ หรือแม้แต่ตัวนักร้องเองที่มีเพชรอยู่ในมือ แต่กลับถือนอนกอดมันไว้อยู่ที่บ้านแบบนั้นให้ฝุ่นมันเกาะไปเรื่อยๆ แล้วสิ่งนั้นมันจะมีค่าอะไร เธอเป็นนักร้องที่เต้นเก่งมากก ถือเป็นแถวหน้าของวงการเลยแหล่ะ (ถ้าอยากรู้ ลองไปดูพวกไลฟ์เก่าๆ ได้เลย จะรู้ว่าเธอเต้นเก่งจริงๆ) แต่ตัวเพลงกลับไม่ส่งการเต้นแบบนั้นของเธอเลย อีกอย่างเพลงอัลบั้มนี้เนือยมากจนหน้าตกใจ ไม่มีความโดดเด่นใดๆ เลย และที่สำคัญ ซิงเกิ้ลเธอเนือยมาก แม้เพลง 50 แต่เธอเต้นซะ 100 ก็ไม่ทำให้เพลงเด่นขึ้นมาได้
สุดท้าย ก็คงต้องไว้อาลัย ให้กับเพชรอีกเม็ดของวงการเพลง เพราะเชื่อได้เลยว่า อัลบั้มนี้แป๊กแน่นอนเป็นที่สุด
ปล. จะมีคนทนอ่านที่ฉันนั่งเขียนตั้งนานมั้ยเนี่ย เอาเหอะ หยิบอัลบั้มนี้มาปลุกไฟในการเขียนงานเขียนต่อๆ ไปหล่ะจ้ะ ใครทนอ่านได้ คอมเมนท์ได้ รักตายเลย เหอะๆ
แถมท้ายให้คนที่ทนอ่านจนจบได้ คือ MV ซิงเกิ้ลแรก ที่โชว์ความสามารถในการเต้นเพลงเบาๆ ของเธอ ซึ่งMV นี้ออกตั้งแต่กลางปีแล้ว
สวยเลือกได้
_________________
Kylie Thailand Fansite
