" ผมโรเบิร์ต เนวิลล์ ผมอยู่ที่นี่ทุกๆ เที่ยงวัน ณ เวลาที่พระอาทิตย์อยู่เหนือหัว ผมเป็นผู้รอดชีวิต คุณไม่ได้อยู่คนเดียว "
ประโยคดังกล่าวจะมีขึ้นทุกวัน ผ่านทางวิทยุของชายผู้หนึ่งที่อาศัยอยู่อย่างเดียวดาย ในมหานครที่ครั้งหนึ่งเป็นที่ๆ เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งหนึ่งของโลก " New York City "
ก่อนที่ผมจะเริ่มบทความนี้ ผมต้องขอบคุณเพื่อนคนหนึ่งเสียก่อน เพราะมันยอมให้ผมยืมเงินเพื่อไปดูหนังเรื่องนี้ ( ที่ต้องยืมเพราะตอนนี้หนังสนุกๆ เข้า 3 เรื่องติดๆ กัน ตั้งแต่ I am Legend , Warlords และวันที่ 20 นี้ก็จะเป็น National Treasure II ซึ่งเงินผมจะออกทุกๆ วันที่ 5 กับ 20 ของเดือน ) จนทำให้ผมสามารถมาเขียนบทความตัวนี้ได้ครับ หุๆ
ภาพของชายที่ขับรถตามลำพัง ( กับหมาอีก 1 ตัว ) กลางวันอยู่กับการล่าสั.ตว์ หาเสบียง หาอาวุธ และส่งสัญญาณวิทยุเพื่อรอความหวังว่านอกจากเขาแล้วจะมีคนอื่นที่ยังรอดชีวิตในตอนกลางวัน ขณะที่ภาพตัดไปยังเวลากลางคืน เวลาที่ต้องเอาชีวิตรอดจากพวกปีศาจ DarkSeeker สิ่งเหล่านี้คงเป็นแรงดึงดูดให้หลายท่านคิดว่า มันจะต้องเป็นหนังที่มีแอ็คชั่นมันส์ๆ ทั้งเรื่องเป็นแน่ใช่ไหมครับ?
แต่เปล่าเลย ชีวิตวันๆ หนึ่งของ ดร.เนวิลล์ ไม่มีความมันส์เช่นนั้น เขาเป็นทหารและนักวิจัยก็จริง แต่ไม่ได้มีความเก่งเวอร์แบบที่หนังฝรั่งทั่วไปต้องการให้เป็น จากตัวอย่างหนัง เขาสะพาย M4 ( M16 รุ่นใหม่ ลำกล้องสั้นกว่า พานท้ายสั้นและเบากว่า เหมาะสำหรับรบในเมือง ) ติดกล้องเล็ง แต่เอาจริงๆ แล้ว เขาไม่ได้ต่อสู้อย่างนิ่งและเก่งกาจแบบพระเอกหนังทั่วๆ ไป แต่เป็นปุถุชนธรรมดาที่มีความกลัวไม่ต่างกับคนอื่นๆ ทั่วไป ( สังเกตได้จากทั้งเรื่อง ฉากไหนที่ต้องยิงปืน จะพบว่าสาดแบบมั่วๆ ไม่ได้แม่นอะไรเลย ) ดังนั้นใครที่คิดว่าจะได้เห็นการบู๊แบบเท่ๆ คงผิดหวังแน่นอนครับ
แต่หากจะพิจารณ์คุณค่าของหนังจากสาระที่ผู้สร้างพยายามจะสื่อ เรื่องนี้ให้คุณได้เต็มที่ในหลายประเด็น เท่าที่ผมดูแล้วพอจะนึกออกก็คงจะมีดังต่อไปนี้
- มีหลายท่านไปดูมาแล้วงงๆ กับพวก DarkSeeker ว่ามันเป็นตัวอะไร ต้องบอกกันให้เข้าใจก่อนว่า พวกนี้ต่างจากซอมบี้ที่เราเห็นกันในหนังแนวๆ นี้ที่ออกมาเกร่อมากมาย เพราะพวกมันมีสมองที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ รวมถึงอาจจะมีอารมณ์ ความรู้สึกแบบมนุษย์ ( สังเกตว่าเจ้าตัวที่เห็นแฟนตัวเองที่เป็นปีศาจเหมือนกันโดนพระเอกวางกับดัก มันพยายามจะวิ่งฝ่าแสงแดดออกมาซึ่งไม่เหมือนนิสัยปกติที่ควรจะเป็นของพวกนี้ที่จะต้องกลัวแสงแดด )
- อีกประเด็นหนึ่งที่ต่อเนื่องจากประเด็นแรก มีบางท่านถามว่าทำไมพระเอกไม่จัดการล้างเผ่าพันธุ์พวกนี้ให้หมดเมืองไปเลย ในเมื่ออาวุธก็พร้อมซะขนาดนั้น
ประเด็นหลังนี่ล่ะครับที่หนังพยายามจะสื่อ และจะถือเป็นสาระสำคัญเลยก็ได้ว่าทำไมต้องให้พวก DarkSeeker มีลักษณะคล้ายมนุษย์ เพราะพวกนี้เป็นสัญลักษณ์ของหนังครับ สัญลักษณ์ที่ใช้แทน " ความบ้าคลั่ง " ในสังคมมนุษย์ ความบ้าคลั่งในกระแสต่างๆ ที่ทำให้เราดำเนินไป โดยบางทีเราก็ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วมัน " ถูกต้อง " จริงหรือ?
ประเด็นของหนังเริ่มออกมาอีก ทำไมต้องเป็น Bob Marley ( เชื่อไหมว่าคนที่ชอบศึกษาเรื่องอุดมการณ์ , แนวทางการปฏิวัติ - รัฐประหารแบบผม กลับไม่ค่อยรู้จักนักร้องผู้เป็นตำนานผู้นี้เลย ) ตัวละคร ดร.เนวิลล์จะเปิดเพลงของเขาทุกๆ เช้า และเหตุที่เขาชอบ ก็เพราะว่า Bob Marley เป็นผู้ที่ต่อต้านการเหยียดผิว ขณะเดียวกันก็ไม่สนับสนุนวิธีการรุนแรงใดๆ ( แบบเดียวกับ John Lennon ที่ทำเพลง Imagine ทั้งคู่ถูกยิงเหมือนกัน แต่ John นั้นเสียชีวิตทันที ) คนแบบนี้ในโลกแห่งความเป็นจริงจะอยู่ได้หรือ? คนที่เป็นส่วนน้อยแบบที่ในหนังบอกว่า 94% ตายทันทีหลังรับเชื้อ ที่เหลืออีก 5% กลายเป็นพวก DarkSeeker และมีเพียง 1 หรือไม่ถึง 1% ที่มีภูมิคุ้มกัน
อะไรคือภูมิคุ้มกัน? ถ้าเราดูเพียงแค่หนังโดยไม่ตีความก็จะตอบแบบตรงๆ ได้ว่า " เลือดของพระเอก " ซึ่งนั่นเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่เรียกว่า " ความดีงาม " ที่นับวันในโลกแห่งความเป็นจริง ท่ามกลางสังคมที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งแข่งขัน มนุษย์นั้นเข้าห้ำหั่นกันด้วยความรุนแรง ( ทั้งการใช้กำลังโดยตรงก็ดี หรือเล่ห์เหลี่ยมก็ดี ) คนไม่น้อยรับใช้ระบบที่เหลวแหลกเช่นนี้ อีกไม่น้อยอยู่ไม่ได้ ฆ่าตัวตายไปก็มีเช่นกัน
แล้วมนุษย์ส่วนใหญ่อย่างเราๆ ท่านๆ จะต่างจากพวก DarkSeeker ตรงไหนเล่า? อย่างไรก็ตามในสังคมที่บ้าคลั่งเช่นนี้ ก็ยังมีคนจำนวนน้อย ( น้อยมากจริงๆ ) ที่ยังยึดในความดีงาม ในสันติภาพ เสรีภาพอย่างแท้จริง ดุจการเปรียบเปรยกับ 1% ของผู้มีภูมิคุ้มกันไวรัสอย่างในหนังเรื่องนี้ พวกเขาทำในสิ่งที่ดี แม้บางครั้งจะท้อแท้ ตัดพ้อพร่ำบ่นกับโลกและสังคมบ้างแบบเดียวกับที่ ดร.เนวิลล์เป็น ( ทั้งโดยฝันร้ายเรื่องลูกเมียตัวเอง และในตอนที่เสียหมาที่อยู่กันมานานไป ) แต่เขาก็ยังทำในสิ่งที่เขาเชื่อ นั่นก็คือเขาพยายามไม่ฆ่าพวก DarkSeeker โดยไม่จำเป็น แต่จะหาทางจับมาทดลอง เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่ง เขาจะทำให้เลือดของเขาสามารถรักษาอาการของพวกนี้ให้กลับเป็นคนปกติได้อีกครั้ง
การเลือกที่จะไม่ใช้ความรุนแรง แนวทางสันติ - อหิงสานี้ทำได้ยากถึงยากที่สุด ( ผมไม่อยากจะนำไปเปรียบเทียบกับแนวคิดของ 2 มหาศาสดาอย่างพระพุทธเจ้าและพระเยซูคริสต์ แต่มันคล้ายกันจริงๆ ) เฉกเช่นกับที่ ดร.เนวิลล์กล่าวถึง Bob Marley ไว้ว่า " ผมมาเพราะคนเลวๆ ยังไม่หยุดทำเรื่องชัวๆ สักวัน แล้วผมจะหยุดได้อย่างไร "
นั่นล่ะครับแก่นแท้ที่หนังพยายามจะนำเสนอ ท่ามกลางสังคมที่เลวร้ายนี้ คนอีกจำนวนน้อยนิดพยายามที่จะเป็น " แสงสว่างในความมืด " โดยไม่เหน็ดเหนื่อยแม้จะลำบาก จะถูกมองอย่างแปลกๆ อย่างใดก็ตาม และแม้กระทั่งถูกถากถางว่า " ทำแล้วได้อะไร ในเมื่อคนส่วนมากเขาไม่ทำแบบคุณ " ( ประมาณหลายๆ ท่านที่ไม่เข้าใจ แล้วออกมาวิจารณ์บทของ ดร.เนวิลล์ว่าโง่บ้าง ไม่สมเหตุผลบ้าง )
และสุดท้ายกับบทบาทนี้ Will Smith เหมาะสมแล้วครับ ถ้าเทียบกับข่าวที่ว่าทีมผู้สร้างพยายามติดต่อคนอื่นก่อนหน้าเขา เหตุที่ว่าเหมาะสมนั้น เพราะในเมื่อหนังต้องการสื่อถึงประเด็นเหยียดผิว - ความรุนแรง ก็ควรจะให้ผ่านในมุมมองของผู้ได้รับผลกระทบ ( ผู้ถูกกระทำ ) ซึ่งในสังคมอเมริกันนั้น คนผิวดำถือเป็นตัวแทนของสังคมที่เหยียดผิว - แบ่งชนชั้นดังกล่าว ดังนั้นหากจะพูดถึงประเด็นนี้แล้วเอาคนผิวขาวมาแสดง ผมก็ก็คงไม่เหมาะเสียเท่าไร อีกเหตุผลคงเป็นเพราะ Will Smith เป็นนักแสดงที่นิสัยส่วนตัวดีมากคนหนึ่งในสังคมฮอลลีวู้ดไม่ว่าจะเป็นผิวขาวหรือผิวดำด้วยกัน ดังนั้นจึงเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงกับบทบาทของ ดร.เนวิลล์นี้ ( จนผมไม่เชื่อว่าคนแบบนี้จะเล่นบทตลกได้ในหลายๆ เรื่อง เพราะหนังเรื่องหลังๆ ของเขานั้นจะออกแนว Drama หนักๆ ซะมาก อย่าง Persuit of Happiness ที่หลายคนบอกว่าเรียกน้ำตาคนดูได้ เป็นต้น )
ก่อนจะจบบทความ ผมคงต้องขอชื่นชมเหล่าบุคคลที่ยังทำงานในฐานะ " คนดี - มีอุดมการณ์ " ทุกท่าน ทั้งที่ยังอยู่บนโลกนี้ และลาจากโลกนี้ไปแล้ว
พวกท่านมิได้ถูกลืม พวกท่านไม่ได้ถูกละทิ้ง เพราะพวกท่านเป็น " แสงสว่างในความมืด " ขณะเดียวกัน ก็สมแล้วที่ " เป็นตำนาน " ทั้งเรื่องเล่าเล็กๆ ในชุมชน ไปจนถึงผู้กล้าระดับชาติ และผู้อุทิศตนให้กับเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกอย่างไม่ย่อท้อ
ท่านทั้งหลายคือ " ตำนาน " ในใจของใครหลายๆ คนครับ
8/10 ครับกับหนังเรื่องนี้ ถ้าไม่นับเรื่องราวที่ไม่สมเหตุสมผลเรื่องศรัทธา พระเจ้าและศาสนา ( โดยส่วนตัว ผมค่อนข้างมองโลกแง่ร้าย และมองเรื่องพวกนี้ว่าเหลวไหลในบางครั้งครับ )
TonyMao_NK51 ( เจ้าลัทธิแห้ว )
_________________