10. Fergie - Fergalicious Featuing Will.IAm
ขึ้นอินโทรมา เก๋ เปรี้ยว เด้ง ได้ใจ เหมาะแก่การแอ่นหน้าแอ่นหลังเด้งก้นในผับยิ่งนัก แต่พอได้ฟังจังหวะและทำนองแล้วก็ฟันธงเลยว่า ก๊อป My Hump มาทั้งดุ้น แม้ยัยเฝอจะยังมีแก่ใจไม่ก็อปจนน่าเกลียด ด้วยการเร่งบีทให้เร็วขึ้นอีกนิด แต่คนฟังเค้าไม่ได้โง่นี่นะ ถึงจะได้ฟังกันจนไม่รู้เลยว่า นี่คือ My Hump ภาค 2 ส่วนพ่อ Will.IAm นี่ก็น่าด่ายิ่งนัก อุตส่าห์ทำเพลงใหม่ให้ลูกเรือในทีม ก็ดันทำมาหาแดกกับของเก่า แต่อย่างน้อยๆมันก็เป็นแค่เพลงเดียวในอัลบั้มล่ะ
9. Britney Spears - Gimme More
หยิบยืมเอา 1 ในทีมของ Timbaland มาช่วยเป่าเสกก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมา ลำพังเรื่องส่วนตัวที่ต่ำแล้วอีก หอกหักยังหยิบเอาเนื้อเพลงที่ต่ำถึงแกนโลก มาร้อง เพื่ออะไร ไม่ปฏิเสธว่ามันเป็นเพลงที่ฟังสนุก อารมณ์เดียวกับ The Way I Are ของ Timbaland แต่ด้วยความงั่งความโปรดิวซ์เซอร์ที่คงคิดว่า ชื่อบริทนี่ย์ยังไงก็ขายได้ จนไม่ได้สนใจจะใส่รายละเอียด กลายเป็นเพลงขยะเพลงนึงอย่างไม่ต้องสงสัย ฟังไม่กี่รอบก็เบื่อ สุดท้ายแล้ว อย่างเดียวที่คนเค้าสนใจก็คือ ยัยบริทนี่ย์มันจะชีโหวอีกเมื่อไหร่ และใครเป็นผัวใหม่ของเธอ ก็แค่นั้น
8. Chris Brown - Wall To Wall/With You
หนุ่มน้อยคนนี้อาจจะเคยโด่งดังกับเพลง Run It จากอัลบั้มที่แล้ว และด้วยความที่มันดังแบบรวดเร็วและก็หายไปอย่างรวดเร็ว Wall To Wall เลยต้องออกมาเพื่อเตือนสติแก่คนฟังว่า เฮ้ยย เพลง Run It ของกูขึ้นอันดับ 1 นะเว้ย ฟังเพลงนี้แล้วขอสันนิฐานว่า หนูคริส บราวน์น่าจะเป็นญาติห่างๆของ อนัน อันวา ที่มีนิสัยน่ารัก ชอบเอาเพลงเก่ามาเปลี่ยนเนื้อร้องใหม่ แล้วก็เอามาขาย ส่วนซิงเกิ้ลล่าสุด With You หนูคริสก็เล็งเห็นว่า Irreplaceable ของ Beyonce' โด่งดังข้ามปี ก็เลยมาด้วยวิธีเดิมๆคือ เปลี่ยนเนื้อ ทำนองเดิม หูยย ทำกับเพลงของตัวเองไม่มีใครว่า แต่นี่เล่นเอาเพลงของคนอื่นมาทำด้วย แถวบ้านพี่เค้าเรียกว่า หน้าไม่อายนะหนู (ชั้นบอกว่าหน้าไม่อาย ไม่ใช่น่าด้าน)
7. Kylie Minogue - 2Hearts
ขึ้นต้นมาก็ไม่ต้องให้เดาว่ากูคือใคร เสียงกระเส่า กระซิบกระซาบ เล็กๆแหลมๆแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ ทว่าเจ๊ไข่ใช้มุขนี้มาแล้วไม่ต่ำว่า 20 ครั้ง จากนั้นขอเชิญพบกับความง่อยของทำนอง ยืดยาด อืดอาด ดนตรีก็เชยสะบัด ความตั้งใจของเธออาจจะอยากให้มันย้อนยุค ไปยุค 90 แต่ทำได้น่าเบื่อ หมาไม่แดก ฟังไปก็ต้องส่ายหัวดิกๆไปพลาง แม้ภาพลักษณ์หนนี้อีเจ๊จะแรงได้ใจ แต่เพลงเชยลากมากๆ เปรี้ยวก็เปรี้ยวไปให้ได้ถึงแก่นสิเจ๊ ไม่ไหวๆ เนื้อเพลงก็สิ้นคิด พร่ำเพ้อ ไร้สติ ไม่รู้แต่งออกมาได้ไง แหว่ะ
6. Westlife - Home
ออกอัลบั้มมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน พร้อมซิงเกิ้ลมากมายที่นับยังไงก็นับไม่ถ้วน และอันดับ 1 มากมายที่นับไม่ถ้วนเช่นกัน เกือบ 10 ปีที่พวกเขาเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวงการ บทเพลงของพวกเค้าล้วนแล้วแต่มีพัฒนาการ นั้นก็คือ เพลงน่าเบื่อ และเน่าลงทุกวัน ดังเช่นอัลบั้มล่าสุด ที่ฟังยังไงก็นึกว่าเอาอัลบั้มแรกมาเปิดให้ฟัง และคาดว่าทำเพลงใหม่ขึ้นมายังไงก็ไพเราะเพราะพริ้งเหมือนเดิม และด้วยความที่อยากให้เพลงมันไพเราะเพราะพริ้งยิ่งกว่า ก็เลยต้องเอาเพลงที่ไพเราะเพราะพริ้งอยู่แล้ว มาทำให้ ให้เน่า กว่าเดิม ดังเช่นที่พวกเขาเคยทำมาแล้วกับ You Raised Me Up, All Out Of Love, Angel, Love Can Build a Bridge , All Or Nothing, Mandy, I Have A Dream มากมายจนพิมพ์สามหน้าก็ไม่หมด เอ่อ มีคนตะโกนถามมาว่า Westlife ออกอัลบั้มใหม่แล้วเหรอ ไม่เห็นรู้เรื่อง
5. Bone Thuq N Harmony - Lil'Love Featuring Mariah Carey
แม้จะพะชื่อเลดี้มาเฟียแห่งวงการอย่าง มารายท์ แคร์รี่ย์มา แต่ค่าที่มันไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นเลย ทำให้เพลงนี้ดับ แม้ในอเมริกาคนจะชื่นชูบูชาฮิพฮอพเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เพลงฮิพฮอพทุกเพลงจะขึ้นชาร์ต ตัวเพลงที่มันไม่มี๊ไม่มีอะไรเลยซักกะนิด เนื้อร้องก็โหลยโท่ย ติ๊งต๊อง ปัญญาอ่อน ดนตรีก็กะโหลกกะลา เสียงยัยมารายท์ที่ว่าขึ้นชื่อลือชานักหนา ก็หมาไม่แดกซะดื้อๆ โอนสำมโนครัวให้ยัยเจโลร้องน่าจะมีเกียรติมีศรีกว่าเยอะ
4. Enrique Iglesias - Do You Know (Ping Pong's Song)
ดับไปหลายอัลบั้ม เพิ่งจะมีคนพูดถึงก็วันนี้ ตัวเพลงติดหูรวดเร็วดังใจนึก ลุคก็เท่ห์ สมใจ ไร้ไฝมากวนอารมณ์ แต่ทว่าเสน่ห์ของเพลงมันไม่มีไงพี่ ติดหูแต่ไม่ติดใจ ก็เลยมาไวไปไว เปรียบเสมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เอามาบริโภคเมื่อใดก็หอมอร่อย แต่ไม่มีคุณค่าสารอาหาร และควรบริโภคแต่พอควร มิฉะนั้นจะฝืด เฝือ เบื่อ และอ้วกแตกในที่สุด จากนี้อดีตไฝคงต้องกลับไปออกอัลบั้มเพลงภาษาสเปนพร้อมกับคิดมุขใหม่ไปพลางแล้วล่ะ เฮ้อ...
3. Hilary Duff - Stranger
อีหนูอุตส่าห์มามาดใหม่ สวยใส ไฉไลกว่าเดิม อีกทั้งตัวเพลงยังเป็นพ็อพน่ารักติดหู ฟังแล้วไม่โง่เหมือนเมื่ออัลบั้มที่ผ่านๆมา อุตส่าห์ได้ซาวด์สดใหม่ ที่ตัวเองยังไม่เคยใช้ อุตส่าห์ย้อมผมสีใหม่ อุตส่าห์เลิกกับแฟน อุตส่าห์มีท่าเต้น ก็แล้วไงหนู เพลงมันห่วย ไม่ว่าลุคสวยแค่ไหน ของมันห่วยก็คือห่วยวันยังค่ำ ค่าที่อุตส่าห์แทรกความเป็นภารตะเข้ามาให้ดูเหมือนว่ามีอะไรใหม่ ก็ไร้ค่า จืดชืด น่าเบื่อ และดับสนิท เสียงหนูดี ลุคหนูสวย แต่เพลงหนูห่วย ก็เท่านั้นแหล่ะ อ้อมีคนเค้ากระซิบมามาว่า อัลบั้มนี้จะรีลีลิสใหม่ เอาเลยหนู ทำเวอร์ชั่นใหม่ซะ จะได้ด่าน้อยลง
2. Kelly Clarkson - Never Again
ยัยเคลลี่ย์ร่างตันคงจะชะล่าในความสำเร็จเมื่อครั้ง Breakaway กลับมาหนนี้จึงโหมประโคมฉิ่งฉาบ กลอง กีต้าร์ไฟฟ้า คีย์บอร์ด พร้อมทั้งตะเบ็งมานแหกปากโวยวายมันเต็มที่ ดนตรีเหี้ยยังไงกูไม่สน ขอมันส์ไว้ก่อน ก็กูเสียงดีที่หว่า ทำให้ยุ่งวุ่นวายฉิบหายขนาดนี้ กะจะให้สอดคล้องกับเนื้อเพลงสั่งลาผัว ต่อไปนี้นะกูจะไปจูบมึง จะไม่ไปไหนกับมึง จะไปด่ามึง จะไปตายที่ไหนก็ไป เจ้าของเพลงใส่อารมณ์เต็มที่ ด่าผู้ชายไปหลายยก แต่ดนตรีได้โปรดหยุดให้คนเค้าด่าอีเคลลี่ย์ซะบ้างก็ดี รำคาญ(โว๊ย)
LOSER
IS
1. Darren Hayes - Me Myself & (I)
เปิดใจสาวแต รายใหม่ถือกำเนิดแล้ว และคงต้องมอบตำแหน่งดันทุรังยอดเยี่ยมแห่งปีให้ เพราะหลังจากที่ป่าวประกาศถึงรสนิยมทางเพศตัวเองที่แอ๊บมานาน อัลบั้มใหม่เจ๊ดาเลยต้องแรดให้สมใจอยาก ดนตรีรึก็ขอดิสโก้ย้อนยุค เอาให้กะเทยและเกย์ได้ยินร้องร้องโหยหวนด้วยความแรดว่า เริ่ด แต่ไอ้เราฟังยังไง๊ยังไง มันก็ไม่ผ่านนะเจ๊ เสียงสวยๆเมื่อครั้ง I Knew I Loved เจ๊เอาไปฝังไว้ที่สุสานใด ในวันนี้เจ๊ถึงได้ร้องเพลงหมาไม่แดกเหลือเกิน หยั่งกับกะเทยมาดัดจริต บีบเสียงร้องเพลง ไม่มีอะไรดีซักอย่าง ป่านนี้คู่หูเมื่อครั้ง Savage Garden คงโล่งใจที่เพื่อนสาวไปดีซะที เจ๊ดา เอางี้มั๊ย ในเมื่อ ออกเดี่ยวมา 4 อัลบั้มแล้วยังไม่เกิด เจ๊ลองเขียนพ็อคเก็จบุ๊คแฉคนในวงการว่าใครเป็นเกย์น่าจะรุ่งกว่านะเจ๊
_________________
