ป้าแนะนำให้กดปิดนะคะ
ยาวหน่อย แต่ฮามากๆ ค่ะ
***********************************
จู่ๆ คืนหนึ่ง หน้าร้านคาราโอเกะ พาราดิสโซ ในเดือนกันยายน
อีคางคกแก่ รสสุคนธ์ ก็เอ่ยปากชวนเดี๊ยนไปเที่ยวรับลมหนาว ที่ อ. ปาย จ. แม่ฮ่องสอน
มันเป็นอะไรที่อิมพอสซิเบิลมากๆ อยู่ดีๆ อีห่าจิกนี่เกิดอารมณ์ดีมาจากไหน
อะไรยังไง ทำไมมาชวนเดี๊ยนได้ มีแผนการร้ายอะไรหรือเปล่า หรือมันคิดจะลวงเดี๊ยนไปฆ่าข่มขืน
เดี๊ยนคิดหนักมาก ไม่รู้จะตัดสินใจยังไงดี ดังนั้น พอมันถามจบเดี๊ยนก็ตอบตกลงทันที
มาทราบในภายหลังว่า จริงๆ มันจองตั๋วรถไฟกับที่พักไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม
กะจะไปเย็ดหมาท้าลมหนาวบนภูเขากับผัว (ฮืม??) 2 ต่อ 2
แต่พอดีผู้ชายไหวตัวทัน ไม่ยอมซวยควยรับปีใหม่ กรรมทั้งหลายแหล่จึงมาตกที่เดี๊ยนแทน
9 ธันวาคม 2551 เริ่มต้นทริปด้วยบรรยากาศสดใสเหมือนภาพวาดของ Vincent Van Gogh
เดี๊ยนสะพายกระเป๋าเดินทาง Kenneth Cole Reaction สีเขียวหัวเป็ด ขึ้นลีโม่สีบานเย็นสด
เดินทางสู่สถานี Train a` Grande Vitesse ใต้ดิน (TGV) ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวด้วยความมั่นใจ
เย็นนี้ เดี๊ยนสวมเสื้อลูกไม้สีขาวของ Junko Yoshioka เข้ากับกางเกงทหารสีเขียวขี้ม้า ของ Abercrombie & Fitch
กระเป๋าสะพายหนังแก้วสีแดงสดของ Chloe`
รถ เตเชเว (TGV) เคลื่อนขบวนมาถึงหัวลำโพง เวลาประมาณ 5 โมงเศษ เดี๊ยนก็กุลีกุจอ หอบหิ้วข้าวของ
เข้ามายืนโพสต์บนรองเท้าส้นสูงสีฟ้าสดของ Diesel รอหน้าเคาน์เตอร์ขายตั๋ว
สายตาก็เหลียวซ้ายแลขวา มองหากะเทยหน้าเหมือนกบภูเขาท่ามกลางชาวอีสานนับล้าน
(เพราะมันบอกเดี๊ยนว่ามันจะออกจากออฟฟิศมันตั้งแต่ 4 โมง)
โทรหาก็แล้ว เมสเสจหาก็แล้ว แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคางคกที่เดี๊ยนเรียก
เดี๊ยนไม่มีอะไรทำ ก็เลยเดินไปซื้อหนังสือ ต่วยตูนพิเศษ ราคา 80 บาท มาอ่านแก้เซ็ง
เดี๊ยนจะไม่เดือดร้อนอะไรเลย ถ้าตั๋วหีแตดเอฟรี่ติงริงมายเบลล์ไม่อยู่กับมัน
ที่พ้งที่พักก็ไม่รู้เหี้ยอะไรซักอย่าง อีรสมันเป็นคนแมเนจหมด
คือถ้าแม่งไม่มา กูก็ต้องหอบผ้าผ่อน เดินส้นสูงเป็นอีบ้า ขึ้นรถเมล์กลับเมืองทองธานี
ระยะทาง 35 กิโลโดยประมาณ อีสัตว์!
ยืนโพสต์รอมันอยู่จนหลับ รถออก 1 ทุ่ม 20 แต่กว่าอีรสจะค่อยๆ กระโดดมาถึงก็ปาเข้าไป 1 ทุ่ม
ปรากฏว่า อีห่าจิกมันเอาของมาฝากตั้งแต่ 5 โมงเย็น
แล้วเกิดครึ้มอกครึ้มใจอยากจะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ซึ่งบ้านมันอยู่บางนา แถมเป็นเย็นวันศุกร์
ค่ำคืนแห่งการเดินทาง รสสุคนธ์เฉิดฉายด้วย Tank Top สีชมพูอ่อน ของ LANVIN
กางเกงยีนส์ Hudson Super Skinny ซึ่งขับเน้นข้อปล้องของเธอให้โดดเด่น
สะพายบ่าด้วยกระเป๋าผ้าใบลายเคโระเคโรปี้จาก Sanrio
จากนั้น กะเทยหนึ่งสวยหนึ่งอับฯ จึงได้ฤกษ์แคตวอล์กไปขึ้นขบวนรถ Oriental Express ที่ชานชาลา 11
10 ธันวาคม 2551
เดี๊ยนตื่นขึ้นมารับ ชาแอปเปิล และ ขนมปังครัมเป็ต ที่โฮสเตสในรสนำมาเสิร์ฟเป็นเบรกฟาสต์
เมื่อหันไปมองซากคางคกที่นอนกรนอยู่ข้างกายก็ต้องตกใจ
เพราะไม่รู้มันแอบหยิบเอาเสื้อเวตเธอร์โค้ตขนสัตว์ของ Jean-Paul Gaultier มาใส่ตั้งแต่เมื่อไหร่
ขนจามรีที่ฟูอยู่รอบฮู้ด แผ่รอบศีรษะอีรสราวกับแผงคอ มองแล้วเหมือนกิ้งก่ากายสิทธิ์มากกว่ากบ
เดี๊ยนไม่ยอมแพ้ จึงรีบรื้อเอาแจ็กเก็ตหนังของ Vivienne Westwood มาใส่ต้าน
เวลา 7 โมงเช้า ขบวนรถ โอเรียลทอล พริ้นเซส ก็เดินทางถึง สถานีรถไฟ เชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ
2 สาว เตลม่า แอนด์ ลูอิส ลากกระเป๋าลงจากขบวนอย่างทุลักทุเล
ที่ทุลักทุเลไม่ใช่อะไร เพราะเสื้อโค้ตอีรสตัวใหญ่มาก เกะกะชิบหาย
ตอนแรกหันไปเจอ กูนึกว่ามึงกางเต็นท์นอนในรถไฟซะอีกค่ะ อีช้างเย็ด!
ลงมายืนที่สถานีรถไฟก็ต้องตกใจ ทำไมสถานีรถไฟเชียงใหม่เล็กเท่าแมวดิ้นตาย
ไหนว่าเป็นเมืองหลวงอันดับ 2 ของประเทศยะ
ตอนแรกเดี๊ยนวาดภาพเอาไว้ว่าจะต้องเหมือนสถานี Kings Cross มีชัตเติลบ๊ง ชัตเติลบัสมารอรับ
นี่มีแต่คิวรถสองแถว ตะโกนโหวกเหวกโวยวายเรียกลูกค้าสุดฤทธิ์ ต่ำที่สุด
เดี๊ยนนึกไม่ออก กลัวจะพูดภาษากับชาวท้องถิ่นไม่เข้าใจ จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหา อีเอก เดอะดำ
เพื่อจะหลอกให้มันไปหลอกอีหลิมให้ขี่มอเตอร์ไซค์มารับพวกเดี๊ยนไปส่งยังอาเขตต่อไป
แต่ปรากฏว่า อีเอกอยู่เที่ยวเชียงใหม่กับอีหลิมได้แค่ 2 วัน อีเอกก็ตัดสินใจไปอยู่สถานปฏิบัติธรรมที่ จ. แพร่ ทันที
น่ากลัวมาก!! อะไรที่ทำให้กะหรี่อย่างอีเอกสามารถปลงตกเรื่องควยได้!
อีหลิม???
อีหลิมไปเปิดเผยด้านมืดอะไรกับอีเอก หรือว่ากะหรี่ตัวแม่เจอพฤติกรรมกะหรี่รุ่นหลังแล้วถอดใจ..
ทุกอย่างยังคงเป็นปริศนา
เมื่ออีเอกวางสายไปอย่างสะทกสะท้าน เดี๊ยนก็โทรศัพท์ไปหาอีหลิมต่อโดยไม่รอรี
กะว่าใช้คอนเน็กชั่นอีเอกไม่สำเร็จ เดี๊ยนจะลองล่อมันด้วยของกิน แกล้งทำเป็นอยากเจอ จะเลี้ยงข้าว
ยังไม่ทันจะหลอกใช้กะหรี่ขี้ข้าได้สำเร็จ กะเทยรสสุคนธ์ก็เกิดรำคาญอีกะเทยหลิมน้อยเรื่อง
มัวแต่พิรี้พิไรจะให้กะเทยไฮเอนด์อย่างพวกเดี๊ยนไปหาถึงที่บ้าน
เลยเดินไปหยิบแผนที่เชียงใหม่ที่นักท่องเที่ยวทิ้งเอาไว้ตามถังขยะ พลิกไปพลิกมา
แล้วตัดสินใจกระชากเดี๊ยนเดินเท้าไปยังสถานีขนส่ง เพื่อขึ้นรถโค้ตต่อไปยังเป้าหมายแรก ห้วยน้ำดัง
กะเทยเดินกระปกกระเปรี้ยจากสถานีรถไฟ ลัดเลาะไปเรื่อยๆ ตาม ถนนทุ่งโฮเต็ล
เดี๊ยนได้ยินว่าภาคเหนืออากาศหนาว นึกว่าอากาศจะเย็นเหมือนที่ฝรั่งเศส
อีหน้าหี!! 8 โมงเช้า แดดจ้ายิ่งกว่าบ่าย 2 กรุงเทพ เดี๊ยนหยิบแว่นกันแดด Levi’s Lady ขึ้นมาสวมอย่างฉับไว
อีคางคกก็ไม่ยอมแพ้ หยิบเอาแว่น Chanel กรอบเพชร ขึ้นมาฆ่าเดี๊ยนทันทีเช่นกัน
ชาวพื้นเมืองเชียงใหม่ขี่จักรยานสวนไปสวนมา ต่างก็พากันหันมามองกะเทยใส่แว่นกันแดดชะนีสุดฤทธิ์
แต่ละคนใส่เสื้อเหมือนกับอุณหภูมิประมาณ 0 องศาเคลวิน มันทนใส่กันได้ยังไง ร้อนจะตายห่า
มิหนำซ้ำ แม่ค้าซาลาเปากับผัวตรงข้างทางยังพากันก่อกองฟืนผิงไฟอีกต่างหาก
แต่อีกะเทย 2 ตัว เดินหอบเป้ใบเท่าบ้าน หน้ามันยิ่งกว่ากระทะหอยทอด
เสื้อหนงเสื้อหนาวถอดทิ้งตั้งแต่หน้าสถานีแล้วค่ะ อีเย็ดแม่!!
เดินทางกันได้ประมาณ 3 กิโลครึ่ง เราก็ถึงอาเขต หรือ สถานีขนส่ง จ. เชียงใหม่
แทนที่จะได้นั่งพักให้หายหอบแดก อีรสก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า
“กูจะไปซื้อกางเกงขาสั้น”
“ทำไมรสสุฯ ไม่นำมาจากบ้านล่ะจ๊ะ” เดี๊ยนถาม
“มึงไม่เห็นเป้กูเหรอ แค่เสื้อโกลติเยต์กูตัวเดียวก็เต็มแล้ว”
สรุปว่า เป้ทั้งใบ นอกจากเสื้อโค้ตตัวนั้นแล้ว มีเสื้อยืดติดมาอีกแค่ตัวเดียว แชมพู 1 ขวด
น้ำมันงา (เอามาทอดอะไรแดก อีดอก!) เดี๊ยนไม่แน่ใจว่าจะมีกางเกงในตัวอื่นอีกรึเปล่า นอกจากที่มันใส่
ดังนั้น กะเทยจึงต้องเดินต่อจากหน้าอาเขต ข้ามซูเปอร์ไฮเวย์ ประมาณ 12 เลน แล้วเดินอีกครึ่งกิโลไปห้างคาร์ฟู
หลังจากเลือกซื้อกางเกงขาสั้นชั้นต่ำมาได้ 1 ตัว กะเทยก็ซื้อเสบียงแล้วเดินทางย้อนกลับมาที่อาเขต
พอมาถึงหน้าร้านหนังสือ เดี๊ยนก็นึกขึ้นมาได้
อีชิบหาย!! เดี๊ยนลืมต่วยตูนพิเศษราคา 80 บาท ไว้บนรถไฟ
อ่านได้ไม่ถึง 15 บาท ระยำมาก!!
ขณะที่เดี๊ยนนั่งตีอกชกหัวอยู่ที่หน้าร้านหนังสือ
อีรสก็แวบไปหารถโค้ตเพื่อซื้อตั๋วเดินทางไปยังจุดหมายแรก ห้วยน้ำดัง ที่สวยงาม
ฟังว่า บนนั้นมีต้นซากุระอยู่เป็นทุ่ง มีบ่อน้ำแร่ออนเซน ธรรมชาติงดงามตระการตายิ่งนัก
พอเลือกซื้อ ต่วยตูนพิเศษ ได้อีก 3 เล่ม เดี๊ยนก็ตามไปที่ท่ารถโค้ต

บรรยากาศผู้โดยสารร่วมทริปบนรถโค้ต

ที่วางสัมภาระ


ออกเดินทาง 10.30 น. นั่งหลับจนถึง 12.30 น. รถโค้ตของเราก็จอดแวะให้ผู้โดยสารพักรับประทานอาหารที่ภัตตาคารริมทาง
เมื่อรถโค้ตสุดหรูเดินทางมาถึง ห้วยน้ำดัง อันเป็นสถานที่ที่เราจะพักคืนแรก
กะเทยทั้ง 2 นาง ก็ช่วยกันโกยลังปลากรอบขึ้น หยิบกระเป๋าเดินทางลงจากรถ และเข้าไปติดต่อซื้อตั๋วเข้าที่ตู้ยามด้านหน้า
เบลบอยของห้วยน้ำดังก็มารยาททรามมาก ไม่ยอมช่วยเดี๊ยนขนกระเป๋าพาไปส่งยังที่พัก
เดี๋ยวพรุ่งนี้เดี๊ยนว่าจะโทรไปแจ้งกรมป่าไม้ให้ไล่ออกซะให้หมด
แล้วอีรสก็เข้ามาเกี่ยวก้อยกับเดี๊ยน กระโดดขึ้นลีโม่ของรีสอร์ตที่ทางวนอุทยานจัดเตรียมไว้ให้
พนักงานขับรถพาเราขับตรงเข้าไปยังจุดที่พักอีก 6 กิโล เมื่อมาถึงที่เช็คอิน เดี๊ยนก็ต้องตกใจอีกแล้วค่ะ
เพราะบนยอดเขาไม่มีเหี้ยอะไรเลย มีกิ่งไม้ผุๆ วางอยู่ 1 อันเป็น land mark ดอกซากุร้งซากุระเหี้ยห่าอะไรกูไม่เห็นซักดอก
พนักงานก็ไม่ยอมทำเหี้ยอะไรเลย แค่ชี้ทางไปห้องพักให้ แล้วก็โยนผ้าห่มให้ 2 ผืน
เดี๊ยนกับอีกบ 2 คนต้องกะเตง ทั้งกระเป๋าเดินทาง ทั้งผ้าห่มนวม ถุงนอน หีแตด etc.
แล้วกะเทยอดทนก็เดินต่อไปจนถึงห้องพักซึ่งอยู่อีกเนินเขาหนึ่ง
พอเข้าห้องพักเสร็จสรรพ รสสุคนธ์ก็จัดแจงรื้อข้าวของออกมาวางเกะกะรกห้องเต็มไปหมด

สภาพห้องพักของรีสอร์ตกรมป่าไม้

ข้าวของและขยะของรสสุคนธ์

เรือนข้างเคียง
หลังจากแยกย้ายกันไปขี้ อาบน้ำอาบท่าใน สปารวม เรียบร้อยแล้ว
รสสุคนธ์ก็ชวนเดี๊ยนออกเดินสำรวจหาทิวทัศน์สวยงามตามที่มันโฆษณากับเดี๊ยนเอาไว้
อีคางคกหล่อนมั่นใจมาก เนื่องหล่อนเป็นกบเขตหนาว ภูมิลำเนาอยู่อลาสก้า
ความเย็นแค่ห้วยน้ำดังไม่สามารถทำอะไรผิวหล่อนไม่ได้
หล่อนจึงใส่กางเกงบ็อกเซอร์ขาสั้นที่ซื้อมาจากคาร์ฟูตัวเดียว กับเสื้อขนจามรี ออกมาแคตวอล์กรับลมหนาวให้เย็นหี
เดินผ่านชะนีกับผู้ชายคู่หนึ่ง ผู้ชายใส่เสื้อแจ็กเก็ตเหมือนสูทประตูน้ำกับกางเกงยีนส์ พันผ้าพันคอใส่หมวก
ชะนีก็ใส่เสื้อหนาวแขนยาวสู้ตาย ใส่หมวกดอกไม้ ถุงมือหนัง
ผู้ชายก็เหลือบมองมาเจอกะเทยรสสุคนธ์ แอบมองขนหน้าแข้งอีรสแวบนึง แล้วหันไปเม้าท์มอยกับเมียสุดริด
“ดูสิ เราแต่งตัวเหมือนจะไปปีนเอเวอเรสต์ คนอื่นเค้ายังใส่แค่ขาสั้นตัวเดียว”
พูดเหมือนมันอายนะคะ แต่กูกะอีรสหันไปมองรอบข้างก็เห็นมีแต่อีคางคกใส่ขาสั้นอยู่คนเดียว
สรุปว่ามันกัดรึเปล่า หรือว่าชื่นชมบูชา
ตามทางที่จะเดินไปชมวิวของ ห้วยน้ำดัง อันกระเดื่องชื่อ
สิ่งที่เดี๊ยนพบก็คือ ซากุระโกร๋นๆ 3 ต้น ที่มีดอกบานหรอมแหรม มองไปคล้ายดอกตะแบกที่หน้าสนามมวยราชดำเนิน

ซากุระไทย หรือ นางพญาเสือโคร่ง

ดูยังไงกูก็ว่ามันเหมือน ตาเบบูย่า มากกว่า ซากุระ
เราพากันเดินไต่ภูเขาที่ไม่มีเหี้ยอะไรเลยนอกจากต้นซากุระ 3 ต้นที่ว่า
มุ่งหน้าไปยังจุดชมวิวเพื่อค้นหาความงดงามตามธรรมชาติที่คาดหวัง
ในที่สุดเดี๊ยนและอีกบก็ได้เห็นจุดที่งามที่สุดบนดอย
อีดอก!! แปลงกระหล่ำม่วงค่ะ
สวยที่สุดในห้วยน้ำดังจริงๆ กูคอนเฟิร์ม ทั้งแปลงมีกระหล่ำม่วงอยู่ประมาณ 10 หัว ทั้งสีสัน รูปทรง สวยเลิศที่สุดแล้วเท่าที่เห็นมา
นอกจากนั้นก็มีดอกเก็กฮวยเหี่ยวๆ อีกแปลง แล้วก็ดอกชบาหนูสีเน่าๆ อีกแปลงนึง
ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมฝูงชะนีพากันตะบี้ตะบันโหนป้าย ห้วยน้ำดัง ถ่ายรูปกันใหญ่ราวกับที่นี่คือ ดิสนีย์แลนด์
หรือมันไม่เคยเห็นกระหล่ำม่วงและดอกเก็กฮวยกัน
เดี๊ยนโมโหเป็นครั้งที่ 30 ของวัน เลยเดินไปซื้อเกาลัดแดกให้เย็นใจ
แล้วเดี๊ยนกับรสสุคนธ์ซึ่งไม่สามารถค้นพบความงามของธรรมชาติ จึงพากันแทะเกาลัด เดินกลับที่พักด้วยความสมน้ำหน้าตัวเอง
ขี้เกียจพิมพ์แล้ว..
โปรดติดตามชมตอนต่อไป
แก้ไขล่าสุดโดย เม็ดนุ่น เมื่อ Wed Dec 17, 2008 1:36 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง