˹���á Forward Magazine

ตอบ

หนังไทยที่รัก ตอนที่ 1 ผีเลี้ยงลูกคน จาก เวบ Deknang
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ หนังไทยที่รัก ตอนที่ 1 ผีเลี้ยงลูกคน จาก เวบ Deknang 


ผีเลี้ยงลูกคน(ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์ /2007) : SIMPLY IS THE BEST




กลายเป็นหนังสุด surprise เรื่องหนึ่งของปี เพราะด้วยความตั้งใจเดิมแค่คิดว่าจะเข้าไปดูน้องโฟกัสเท่านั้น หนังเล่าเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องขายปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้เลี้ยงหลานสามคน หลังจากพี่ชายถูกฆ่า แต่ก็ถูกพวกเมาเฟียตามมาฆ่าจนได้ ตายแล้วก็ยังกลับมาดูแลหลานต่อไป พร้อมทั้งป้องกันครอบครัวจากอันตราย และตามล้างแค้นไปด้วย โดยมีนายตำรวจหนุ่มมีอดีตคอยสืบคดีอีกแรง

พลอตหนังนั้น cliche' มากๆ และหนังก็ไม่ได้ปิดบังตัวเองในเรื่องนี้ เรื่องทั้งหมดถูกเล่าไปตั้งแต่ในตัวอย่างภาพยนตร์แล้ว หนังเองก็เล่าเรื่องไปแบบสามัญมากๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น ทุกอย่างคาดเดาได้เกือบหมดจากต้นจนจบ ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย และไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

แต่ความสามัญคือสิ่งที่ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้อย่างยิ่ง หนังเรื่องนี้เป็นหนังผีไทยบ้านๆ ที่ไม่มีตลกมาวิ่งหนีผีแม้แต่น้อย ตัวหนังเป็นหนังผีชีวิตบัดซบแบบที่เราอาจเคยเห็นเมื่อครั้งหนังไทยยุค แปดสิบ ความซื่อตรงของหนังทำให้หนังสามัญเรื่องนี้มั่นใจในการเล่าเรื่องทีเดียว ที่สำคัญหนังกล้าหาญพอที่จะไม่ทำ-ผีสมัยนิยม- แบบ ผีญี่ปุ่นหน้าขาว ผีในเรื่องนี้ปรากฏตัวไม่มากนัก ฤทธิ์เดชในการหลอกหลอนก็ไม่ได้มากอะไร (มายืนหน้าเขียวเสียเป็นส่วนใหญ่) แต่ด้วยข้อนี้เองทำให้เรารู้สึกว่า นางเอกกลายเป็นผีไปจริงๆ ด้วยการไปๆมาๆ หลังจากตาย กระทั่งในบ้าน เราก็เห็นเธอวูบไปวูบมา

หนังถ่ายภาพกรุงเทพออกมาได้ถูกใจผมมากนั่นคือ เป็นกรุงเทพสามัญแบบตาเห็น ซอกซอนชอนไชลงไปในชีวิตชนชั้นล่าง โดยไม่พยายามปรุงแต่ง ภาพไม่สวยคือการตัดสินง่ายๆ แต่มันดูจริงมากด้วยเช่นกัน (แม้จะทำใจได้ยากว่าอั้ม และน้องโฟกัส จะขายปาท่องโก๋จริงๆ)

ที่น่าสนใจคือหนังเต็มไปด้วยภาพ โคลสอัพ เยอะมาก ทั้งแป้งปาท่องโก๋ ผ้าขี้ริ้วจนถึงหน้าตานักแสดง ราวกับผู้กำกับจะโชว์พาวด้านภาพ แต่ภาพที่ออกมาก็ทำให้มันเป็นหนังสยองขวัญที่มีภาพแปลกตาดี

อั้ม เลิกเล่นใหญ่เหมือนที่เธอเล่นละคร เธอไม่ต้องเป็นนางเอกมาดร้ายที่ส่งเสียงโวยวายหรือเซกสะบึมอีกต่อไป บางฉากเธอทำได้ดีทีเดียว และนั่นทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการให้เราเข้าไปดูหน้าตาเธอ แต่ไปดูการแสดงของเธอ (อย่างไรก็ดี ออย ธนา ยังคงเล่นแข็งมากกกกอยุ่ดี และน้องโฟกัสก็ยังบทไม่เยอะ)

ฉากที่ชอบมากๆในหนังคือฉากงานวันแม่ เพราะมันสะท้อนค่านิยมเรื่องแม่ในสังคมไทยได้น่าสนใจมาก เราต้องกรายแม่ทุกวันแม่ (โดยโรงเรียนเป็นคนจัด) แต่จากมุมมมองของเด็กที่ไม่มีแม่ ใช่หรือไม่ว่ามันเป็นวันที่บาดใจมากๆ ฉากที่เด็กชายธง หลานคนเล็ก ยืนเก้ๆกังๆขณะเพื่อนๆขึ้นเวที ทำให้ผมตระหนักคิดว่า พิธีซึ่งใจของคนบางคนมันแสนจะโหดร้ายเพราะมันสามารถย้อนไปทิ่มแทงคนอื่นได้อย่างรุนแรง (เหมือนที่น้องสาวบอก คนไม่มีแม่จะถูกล้อจนร้องให้!!!)

หนังเลือกจบโดยอ้างอิงพุทธศาสนา แต่ข้อดีคือ แทนที่จะใส่เข้ามาเพื่อเป็นฉากจบตามระเบียบ หนังกลับเลือกใช้มันในการอธิบายเรื่องทั้งเรื่องได้เลย (และตั้งคำถามย้อนไปด้วย เช่นตอนที่หลวงพ่อบอกให้ปล่อยวาง แต่ออยตั้งคำถามหน้าศพว่า ในเมื่อไม่มีใครสนใจคดีนี้มันจะปล่อยวางได้ยังไง) โดยส่วนตัวการให้พระเอกตระหนักรู้ความเป็นผีด้วยการนั่งสมาธิเป็นเรื่องที่รับได้ มันอธิบายตัวหนังได้ เพียงแต่ไม่ใช้หลักคิดวิทยาศาสตร์แต่ใช้วิธีคิดแบบพุทธแทน การมีอยู่ของวัด


จาก www.deknang.com





_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ชอบนะหนังที่เล่าเรื่องตรงไปตรงมาแบบนี้

บางทีการที่หนังบางเรื่องทำเรื่องให้สลับซับซ้อนซ่อนปมไว้มากมาย
มันก็สนุกอยู่หรอกนะ แต่คนบางกลุ่ม(เช่นเพื่อนๆผมนี่แหละ)
มันดูแล้วงงไง ก็เลยพาลหาว่าหนังไม่สนุก

อั้มแสดงได้ดีนะ แบบว่าทั้งตอนเป็นคน ตอนโดนฆ่าหรือตอนเป็นผี
ทีแรกก็ไม่ค่อยเชื่อในตัวละครหรอกว่าอั้มจะขายปาท่องโก๋
แต่พอได้ดูแล้ว เออมันใช่เลยอ่ะจากการแต่งตัวสีหน้าท่าทาง
แสดงได้เป็นแม่ค้าธรรมดาๆคนหนึ่งได้ดีเลย

โดยรวมแล้วเศร้าดีซึ้งสะเทือนอารมณ์มาก
ตั้งแต่ตอนถูกฆ่าตอนกลับบ้านมาทำปาท่องโก๋
หรือตอนที่ไม่รู้จะปฎิเสธหลานยังไงเรื่องที่ไปงานวันแม่ไม่ได้



_________________


สวยและรวยเวอร์
ต้องJessica Simpson
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com