punprin พิมพ์ว่า:

Bitchy พิมพ์ว่า:

ทรอน สมควรจะได้เป็นคอลัมนนิสมากค่ะ

ธร ค่ะ น้องเคยคิดว่าน่าจะไปเกิดเป็นคนเมกาเนอะดีอะ ฝรั่งนี่เรียกกันดีจัง เท่าเทียมคุณฉัน อะไรแบบนี้ แต่คิดดูอีกที อยู่เมืองแม้ค้าหรือพนักงานเก็บเงินหรือป้าอะไรที่เจอกันตามรถเมล์เวลาเค้าจะถามเรา จะเรียกว่า ลูก หรือ น้อง เรารู้สึกว่ามันเหมือนครอบครัวอะ มันอบอุ่นมากๆ

55 ทรอน จ้ะ มันเป็นอีโมชั่น มันให้ความอบอุ่น อย่างที่หลายคนบอก ว่าทุกสิ่งมีสองด้านเสมอ


_________________

punprin พิมพ์ว่า:

Bitchy พิมพ์ว่า:

ทรอน สมควรจะได้เป็นคอลัมนนิสมากค่ะ

ธร ค่ะ น้องเคยคิดว่าน่าจะไปเกิดเป็นคนเมกาเนอะดีอะ ฝรั่งนี่เรียกกันดีจัง เท่าเทียมคุณฉัน อะไรแบบนี้ แต่คิดดูอีกที อยู่เมืองแม้ค้าหรือพนักงานเก็บเงินหรือป้าอะไรที่เจอกันตามรถเมล์เวลาเค้าจะถามเรา จะเรียกว่า ลูก หรือ น้อง เรารู้สึกว่ามันเหมือนครอบครัวอะ มันอบอุ่นมากๆ

เคยคิดว่าอยากเกิดอเมริกาในตอนประมาณ ม.4 แต่ตอนนี้ขอแค่ได้ไปเที่ยวก็พอแล้ว ไม่อยากอยู่และเกิดที่นั้น ตอนนี้เราอาจรำคาญพ่อแม่นะ แต่พ่อแม่อเมริกาเขาปล่อยให้ลูกอยู่ด้วยลำแข็งของตัวเอง ถ้ามองในแง่ดี มันคือเด็กสามารถเติบโต และเรียนรู้อะไรได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ผิดผลาดเด็กก็จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่เด็กไทยมันเป็นอารมณ์ที่ว่าพ่อแม่คอยชี้นำ ผู้ใหญ่ถึงชอบบอกไงว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนนะ ซึ่งนั้นหมายความว่า เขาต้องการสื่อว่าเขาผ่านประสบการณ์มาก่อน อย่าเถียงเขา อเมริกาและต่างประเทศไม่ใช้ดีไปเสียทุกอย่าง และคิดว่า การที่เราจะหนีไปอยู่ประเทศเค้า สู่เราทำประเทศของเราให้ดีไม่ดีกว่าเหรอ

และเรื่องอบอุ่น ข้อนี้เป็นจุดแข็งของคนไทยเลย ไม่รู้จักกันก็ไม่ญาติกัน ป้าขายน้ำหน้าโรงเรียนหรือของกินหน้าโรงเรียนเราก็เรียกเขาว่าป้า ถ้าเขาชอบเราเขาก็เรียกเราว่าลูก และให้ของเราเพิ่มไปพิเศษ เหมือนคนในครอบครับ ดูน่ารัก และอบอุ่น

zassiiboii พิมพ์ว่า:

punprin พิมพ์ว่า:

Bitchy พิมพ์ว่า:

ทรอน สมควรจะได้เป็นคอลัมนนิสมากค่ะ

ธร ค่ะ น้องเคยคิดว่าน่าจะไปเกิดเป็นคนเมกาเนอะดีอะ ฝรั่งนี่เรียกกันดีจัง เท่าเทียมคุณฉัน อะไรแบบนี้ แต่คิดดูอีกที อยู่เมืองแม้ค้าหรือพนักงานเก็บเงินหรือป้าอะไรที่เจอกันตามรถเมล์เวลาเค้าจะถามเรา จะเรียกว่า ลูก หรือ น้อง เรารู้สึกว่ามันเหมือนครอบครัวอะ มันอบอุ่นมากๆ

ใช่ ๆมีไทยที่เดียวที่เรียกแบบนี้เน๊าะ

ฝรั่งก็เรียกนะคะ ในมหาลัยจะเจอเยอะ เรียกคนที่ไม่รู้จักว่า ซิส บรา แต่จะว่าก็ไม่เยอะเท่าบ้านเรา ขนมาทั้งครอบครัวเชียว 555


_________________

Bitchy พิมพ์ว่า:

punprin พิมพ์ว่า:

Bitchy พิมพ์ว่า:

ทรอน สมควรจะได้เป็นคอลัมนนิสมากค่ะ

ธร ค่ะ น้องเคยคิดว่าน่าจะไปเกิดเป็นคนเมกาเนอะดีอะ ฝรั่งนี่เรียกกันดีจัง เท่าเทียมคุณฉัน อะไรแบบนี้ แต่คิดดูอีกที อยู่เมืองแม้ค้าหรือพนักงานเก็บเงินหรือป้าอะไรที่เจอกันตามรถเมล์เวลาเค้าจะถามเรา จะเรียกว่า ลูก หรือ น้อง เรารู้สึกว่ามันเหมือนครอบครัวอะ มันอบอุ่นมากๆ

55 ทรอน จ้ะ มันเป็นอีโมชั่น มันให้ความอบอุ่น อย่างที่หลายคนบอก ว่าทุกสิ่งมีสองด้านเสมอ

ก็อย่างที่บอกว่า สู้เอาเวลาไปฝันถึงความเจริญของต่างประเทศ มาพัฒนาประเทศตัวเองดีกว่า อย่าเพิ่งบอกว่าทำไม่ได้ ถ้ายังไม่เคยทำ อะไรที่อยากมีเหมือนต่างประเทศก็ต่อสู้ให้ได้มา ก็แค่นั้นเอง

และถ้าเอาจริงๆ อีกไม่กี่สิบปี ไม่เกินเราแก่ พวกหัวอนุรักษ์อะไรแบบนี้ก็แก่ก็จะเปลี่ยนแปลงแล้ว เพราะฉะนั้นประเทศอยู่ในมือของเราเองแล้วละ !

thoorn พิมพ์ว่า:

punprin พิมพ์ว่า:

Bitchy พิมพ์ว่า:

ทรอน สมควรจะได้เป็นคอลัมนนิสมากค่ะ

ธร ค่ะ น้องเคยคิดว่าน่าจะไปเกิดเป็นคนเมกาเนอะดีอะ ฝรั่งนี่เรียกกันดีจัง เท่าเทียมคุณฉัน อะไรแบบนี้ แต่คิดดูอีกที อยู่เมืองแม้ค้าหรือพนักงานเก็บเงินหรือป้าอะไรที่เจอกันตามรถเมล์เวลาเค้าจะถามเรา จะเรียกว่า ลูก หรือ น้อง เรารู้สึกว่ามันเหมือนครอบครัวอะ มันอบอุ่นมากๆ

การที่เราจะหนีไปอยู่ประเทศเค้า สู่เราทำประเทศของเราให้ดีไม่ดีกว่าเหรอ

นี่แหละถูกต้อง มีหลายคนนะที่คิดแบบอีคำผกา แต่ไม่กล้าพูดเลยหนีไปต่างประเทศ ดูทีวี มีหลายคนนะ แบบ แชมป์ชงกาแฟ มือหนึ่งของโลกไรเงี้ย ที่ไปอยู ตปท. แล้วไม่กลับมาด้วยเหตุผลประมาณว่าประเทศไทยมันไม่เหมาะกับคนอย่างพวกผม คนไทยที่ด่าอีคำผกาไม่รักชาติ ดูถูกชาติตัวเอง หรือด่าใครก็ตามที่กล้าพูดความจริงเกี่ยวกับประเทศ ก็ควรทีจะคิดใหม่กันนะ


_________________

thoorn พิมพ์ว่า:

Bitchy พิมพ์ว่า:

punprin พิมพ์ว่า:

Bitchy พิมพ์ว่า:

ทรอน สมควรจะได้เป็นคอลัมนนิสมากค่ะ

ธร ค่ะ น้องเคยคิดว่าน่าจะไปเกิดเป็นคนเมกาเนอะดีอะ ฝรั่งนี่เรียกกันดีจัง เท่าเทียมคุณฉัน อะไรแบบนี้ แต่คิดดูอีกที อยู่เมืองแม้ค้าหรือพนักงานเก็บเงินหรือป้าอะไรที่เจอกันตามรถเมล์เวลาเค้าจะถามเรา จะเรียกว่า ลูก หรือ น้อง เรารู้สึกว่ามันเหมือนครอบครัวอะ มันอบอุ่นมากๆ

55 ทรอน จ้ะ มันเป็นอีโมชั่น มันให้ความอบอุ่น อย่างที่หลายคนบอก ว่าทุกสิ่งมีสองด้านเสมอ

ก็อย่างที่บอกว่า สู้เอาเวลาไปฝันถึงความเจริญของต่างประเทศ มาพัฒนาประเทศตัวเองดีกว่า อย่าเพิ่งบอกว่าทำไม่ได้ ถ้ายังไม่เคยทำ อะไรที่อยากมีเหมือนต่างประเทศก็ต่อสู้ให้ได้มา ก็แค่นั้นเอง

และถ้าเอาจริงๆ อีกไม่กี่สิบปี ไม่เกินเราแก่ พวกหัวอนุรักษ์อะไรแบบนี้ก็แก่ก็จะเปลี่ยนแปลงแล้ว เพราะฉะนั้นประเทศอยู่ในมือของเราเองแล้วละ !

แผนครองโลกมาก 55


_________________

thoorn พิมพ์ว่า:

Bitchy พิมพ์ว่า:

punprin พิมพ์ว่า:

Bitchy พิมพ์ว่า:

ทรอน สมควรจะได้เป็นคอลัมนนิสมากค่ะ

ธร ค่ะ น้องเคยคิดว่าน่าจะไปเกิดเป็นคนเมกาเนอะดีอะ ฝรั่งนี่เรียกกันดีจัง เท่าเทียมคุณฉัน อะไรแบบนี้ แต่คิดดูอีกที อยู่เมืองแม้ค้าหรือพนักงานเก็บเงินหรือป้าอะไรที่เจอกันตามรถเมล์เวลาเค้าจะถามเรา จะเรียกว่า ลูก หรือ น้อง เรารู้สึกว่ามันเหมือนครอบครัวอะ มันอบอุ่นมากๆ

55 ทรอน จ้ะ มันเป็นอีโมชั่น มันให้ความอบอุ่น อย่างที่หลายคนบอก ว่าทุกสิ่งมีสองด้านเสมอ

ก็อย่างที่บอกว่า สู้เอาเวลาไปฝันถึงความเจริญของต่างประเทศ มาพัฒนาประเทศตัวเองดีกว่า อย่าเพิ่งบอกว่าทำไม่ได้ ถ้ายังไม่เคยทำ อะไรที่อยากมีเหมือนต่างประเทศก็ต่อสู้ให้ได้มา ก็แค่นั้นเอง

และถ้าเอาจริงๆ อีกไม่กี่สิบปี ไม่เกินเราแก่ พวกหัวอนุรักษ์อะไรแบบนี้ก็แก่ก็จะเปลี่ยนแปลงแล้ว เพราะฉะนั้นประเทศอยู่ในมือของเราเองแล้วละ !

กะเทยบอร์ด ff จะครองโลกแล้วค่ะ


_________________

Fuck Fuck Fuck Fuck Fuck !

@ธร ทั้งนี้ทั้งนั้นจะบอกเลยว่า การศึกษาที่ประสบความสำเร็จคือการร่วมมือจากทุกฝ่าย ตั้งแต่กระทรวง ครู ยันนักเรียน ธรได้พูดส่วนของครูไปแล้ว

นักเรียนไทยก็ตัวดีเหมือนกันนะที่ไม่ให้ความร่วมมือของการศึกษาเท่าไหร่ แล้วพื้นฐานเด็กแต่ละคนมาจากการเลี้ยงดูของทางบ้าน จะสังเกตได้ว่าพ่อแม่ที่รวย หรือฐานะปานกลางจะเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพดี (ไม่ว่าเค้าจะใช้วิธีใดก็ตาม) ทำให้การไปศึกษาในรร.นั้นเกิดประสิทธิผล เด็กกลุ่มนี้มีพัฒนาการดีกว่า และมีผลการเรียนที่ดี ส่วนครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างเสมอตัวหรือจน (ไม่ได้ว่าเค้า แต่มันคือปัญหาสังคมไทยจริงๆ) การเลี้ยงลูกก็จะแตกต่างกันไป ทำให้เด็กไม่ใส่ที่จะให้ความร่วมมือในการศึกษา ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบการเลี้ยงดูนะ

บ้าน A : กวดขันให้ลูกขยันตั้งใจเรียน สอนให้ลูกรู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบ แยกแยะผิดถูก

บ้าน B : ไม่ีมีเวลาดูแลลูก (จริงๆมันก็มีอ่ะแหละแต่ไม่ใส่ใจ) ลูกขออะไรก็ให้ ไม่สอนทักษะการใช้ชีวิตให้ลูก ปล่อยให้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง

ก็ดูเอาละกัน ครอบครัวไทยส่วนมากจะเป็นบ้าน B ในอัตราส่วนที่มากกว่า พ่อแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกแบบสปอยล์กัน ความผิดที่จริงมันไม่ได้มาจากเด็กสมัยนี้หรอกนะ แต่มันคือสิ่งที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่พวกเรากำลังทำอยู่ตะหาก ผู้ใหญ่ถูกกระแสสังคมและหน้าที่การงานผลักไปอยู่ชายขอบ วิธีการเลี้ยงลูกของคนไทยก็คล้ายๆกับจีนหรือญี่ปุ่นน่ะแหละปากก็บอกว่าขยันตั้งใจเรียนให้สูงๆนะ ได้แค่พูด แต่ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้เป็นตัวอย่างแก่ลูก เพราะอะไร เพราะตัวเองทำไม่ได้ไง เลยโยนภาระมาให้ลูก แล้วคิดหรอว่าลูกมันจะำทำให้ได้ ก็สันดานมันไม่ทิ้งแถวอยู่แล้ว เฉกเช่นสำนวนกล่าวไว้ว่า Like father, like son นั่นแหละ

ทางโรงเรียนเองก็ผลิตแต่บุคลากรให้ไปเป็นลูกจ้างขี้ข้าเค้า แต่ไม่สอนให้เด็กคิดใหญ่ มองการณ์ไกล สอนแต่ให้มองเฉพาะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า อยู่ไปแบบ Day by day เป็นมนุษย์เงินเดือนรอวันเงินเดือนออก แค่นั้นไป ประการสำคัญคือคนไทยให้ความสำคัญกับอาชีพบางอาชีพผิดไปนะ เราไม่ได้บอกว่าหมอไม่ดี จริงๆหมอคืออาชีพที่ควรเชิดชู แต่อย่าลืมว่าทั้งหมดทั้งมวลก็ถูกปั้นมาจากคนเป็นครู อยากให้คนไทยให้ความสำคัญกับครูกว่านี้

ภาษีมึงแดกไปกูไม่ว่า มึงช่วยยกระดับครูไทยหน่อย อัดเงินเข้ากระทรวงศึกษาธิการมากที่สุด แต่ไม่มีอะไรออกมาเป็นรูปธรรมเลยนอกจากไอ้ระบบ GAT/PAT ที่มึงเพิ่มเข้ามาฟันกำไรจากการสมัครวิชาละ 150 บาท มึงส่งคนไปศึกษาดูงานต่างประเทศทำไม ในเมื่อไม่เห็นทำด๋อยอะไร เออ พวกครูรากหญ้า ครูผู้น้อย หรือพวกอาจารย์ระดับดอกเตอร์เค้าก็มีแนวคิดพัฒนาการศึกษานะ ติดอยู่ที่ไอ้พวกใหญ่โตในระบบราชการเนี่ยแหละ ที่ยังไม่ตาสว่างเห็นกงจักรเป็นดอกบัว มองแต่อะไรแคบๆ

นะ ขอคร่าวๆก่อน เดี่ยวไม่จบ


_________________

Bitchy พิมพ์ว่า:

thoorn พิมพ์ว่า:

punprin พิมพ์ว่า:

Bitchy พิมพ์ว่า:

ทรอน สมควรจะได้เป็นคอลัมนนิสมากค่ะ

ธร ค่ะ น้องเคยคิดว่าน่าจะไปเกิดเป็นคนเมกาเนอะดีอะ ฝรั่งนี่เรียกกันดีจัง เท่าเทียมคุณฉัน อะไรแบบนี้ แต่คิดดูอีกที อยู่เมืองแม้ค้าหรือพนักงานเก็บเงินหรือป้าอะไรที่เจอกันตามรถเมล์เวลาเค้าจะถามเรา จะเรียกว่า ลูก หรือ น้อง เรารู้สึกว่ามันเหมือนครอบครัวอะ มันอบอุ่นมากๆ

การที่เราจะหนีไปอยู่ประเทศเค้า สู่เราทำประเทศของเราให้ดีไม่ดีกว่าเหรอ

นี่แหละถูกต้อง มีหลายคนนะที่คิดแบบอีคำผกา แต่ไม่กล้าพูดเลยหนีไปต่างประเทศ ดูทีวี มีหลายคนนะ แบบ แชมป์ชงกาแฟ มือหนึ่งของโลกไรเงี้ย ที่ไปอยู ตปท. แล้วไม่กลับมาด้วยเหตุผลประมาณว่าประเทศไทยมันไม่เหมาะกับคนอย่างพวกผม คนไทยที่ด่าอีคำผกาไม่รักชาติ ดูถูกชาติตัวเอง หรือด่าใครก็ตามที่กล้าพูดความจริงเกี่ยวกับประเทศ ก็ควรทีจะคิดใหม่กันนะ

คิดถ้าบอกแบบนี้ก็ต้องดูด้วยว่าอะไรเป็นปัจจัยให้เขาไปทำงานต่างประเทศไทย หลายๆอย่างก็น่าเห็นใจเขานะ เพราะ ถ้าพูดถึงเรื่องแชมป์ชงกาแฟ ถามจริงเถอะๆ คนไทยมันยอมรับอาชีพชงกาแฟหรือยัง คืออาชีพชงกาแฟหลายๆคนคิดว่าไม่จำเป็นต้องเรียนก็ได้ ซื้อกาแฟมาใส่นำตาล นมตามใจชอบก็โอเคแล้ว สิ่งเหล่านี้ประเทศไทยยังไม่ยอมรับ และเอาจริง อาชีพศิลปินประเทศไทยก็ยังไม่ยอมรับ ไม่เห็นเหรอ มหาลับมหิดล วิทยาลัยดุริยางคศิลป์นะ ตอนนี้มีปัญหาอยู่เลย หรือไม่รับรองหลักสูตร ประมาณว่าเรียนดนตรีอย่างเดียวมันจะได้อะไร
และอีกอย่างเราจะไปว่าคนอื่นก็ไม่ได้ เพราะคนเราคิดไม่เหมือนกัน ระบบการคิดไม่เหมือนกัน และอีกอย่าง เราว่าคำผกา จะพูดจะด่าประเทศไทยอะไรก็ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเลย (เปลี่ยนแปลงแค่กลุ่มเล็กเท่านั้น) เพราะคำผกายังไม่ดังมาก

และคิดว่าถ้าจะพูดตำหนิประเทศไทยอะไรแบบนี้เป็นสิ่งที่สมควรทำ และควรมีการรับฟังอย่างจริงจัง แต่สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยต้องทำให้ได้ก่อนคือ ยกเลิกพวกพ้อง