ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
Vixen
FF>>Member Cool

เข้าร่วม: 30 Jun 2007
ตอบ: 1290
|
เดี๊ยนมองในฐานะที่เป็นนักศึกษาฝึกสอน (ถึงจะยังสอนไม่จบเพราะติดน้ำท่วมก็ตาม)
เดี๊ยนสอนชั้นป.6 อะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เดี๊ยนมองเด็กแล้วก็ย้อนกลับมามองที่ตัวเอง อย่างหนึ่งที่เด็กสมัยนี้ไม่เหมือนตอนสมัยเดี๊ยน คือ ขาดการเชื่อมโยง เชื่อมโยงว่าทำอันนี้อันนั้นแล้วจะเป็นอย่างไร ก็เกิดผลดีผลเสียแค่ไหน เดี๊ยนไม่ได้ว่าเด็กโง่หรือไม่ฉลาด เด็กบางคนคิดอะไรที่เดี๊ยนคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่อย่างหนึ่งที่กำลังเป็นปัญหาคือ การเชื่อในทางที่ผิด เช่นเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ แต่ไม่ได้คิดว่า ทำแล้วจะล้ำสิทธิ์ของคนอื่นหรือเปล่า เด็กขาดทักษะในการดำรงชีวิตก็อีกเรื่องนึง ตอนนี้คิดกันไม่ได้ว่าจะแก้ปัญหาให้ชีวิตตัวเองอย่างไร คิดแต่ว่าต้องมีคนมาแก้ให้
ระบบการศึกษาก็สำคัญ ถ้าทำสถิติ ประเทศไทยคงติด TOP10 ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษามากที่สุด การใช้หลักสูตรอะไรต่างๆเปลี่ยนบ่อย จนครูผู้สอนก็แอบท้อ ท้อเพราะว่าในระดับชั้นหนึ่งๆ จาก ป.1-ป.6 ควรจะอยู่ในระบบเดียวกัน แต่ปัจจุบัน ของเก่าก็ยังไม่ทันเห็นผล ของใหม่ก็ยังไม่แน่นอน เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ในระดับชั้นนึงก็แทบจะไม่เห็นผลเลยด้วยซ้ำ เรียนมาถึง ป.3 ใชะหลักสูตรนึง พอขึ้นป.4ก็ใช้หลักสูตรใหม่ มันไม่ต่อเนื่องกัน มันจึงไม่เห็นผลและเกิดความเละเทะ ตำราเรียนใหม่ๆถ้าใครมีน้องหรืออะไรว่างๆลองอ่าน เดี๊ยนอ่านหนังสือของเด็กๆในเกือบทุกวิชา แล้วรู้สึกว่า นี่เด็กเรียนอะไรกันวะ เชื่อไหมคะ เด็กป.6 ไม่รู้จักรัชกาลที่ 1 ด้วยซ้ำ ภาษาไทยก็เปลี่ยนตำราอ่านแล้วไม่สนุก คำยากเกินไป (ตอนเดี๊ยนเรียน แก้วกล้าค่ะ ตอนนี้เรียนใบโบกใบบัว คำศัพท์ยากมาก) ถ้าจะมีปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเดี๊ยนก็ไม่แปลกใจ ตอนเรียนวิชาสปช. ก็เรียนรวมๆกัน สมัยนี้เรียนแยกเป็นสังคม วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ นี่ชั้นป.1 นะ เรียนเยอะขนาดนี้ แต่พอเดี๊ยนถามอะไรก็ตอบไม่ได้ ซึ่งหมายความว่า เด็กไม่เกิดการเรียนรู้ใดๆ (การเรียนรู้คือการนำความไปประยุกต์ใช้ได้ และรู้ติดตัวไปจนตาย ถึงจะเป็นการเรียนรู้) สรุปคือ ระบบการศึกษาตอนนี้ เด็กเรียนยากแต่ใช้ไม่เป็น ผลสุดท้ายก็เรียนให้พอผ่านๆเป็นปีๆไป
ผู้ปกครองก็มีส่วน สมัยนี้ก็ยัดลูกมาโรงเรียนแล้วก็จบกันที่บ้านไม่ต้องสอน เพราะถือว่าส่งมาเรียนแล้วก็แล้วกัน ผู้ปกครองไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าลูกฉันมีปัญหาโรงเรียนต้องรับผิดชอบ ซึ่งเดี๊ยนคิดว่า บางอย่างมันเป็นสิ่งที่มันต้องปลูกฝังจากทางบ้าน
ครู บางคนอาจจะเคยเจอที่มาเข้าชั่วโมงไปวันๆไม่ได้สอนอะไรมากมาย เพราะเขาไม่ได้อยากเป็นครู แค่อยากมีเงินเดือนมีเงินใช้ หรืออาจจะเจอพวกแจกใบปลิว (ใบงาน) ทำส่งๆๆๆๆ กลายเป็นเพิ่มภาระให้เด็ก งานเยอะแต่ไม่ได้ความรู้ จบเห่... บางคนก็เอาแต่จะทำผลงานวิชาการปรับเงินเดือนโดยไม่ได้คิดจะนำไปใช้ประโยชน์กับเด็กจริงจัง --- ณ จุดนี้ เดี๊ยนขอบอกว่า ผลงานวิชาการถ้านำมาใช้กับเด็กจริงๆจะมีประโยชน์มาก เพราะมันเหมือนงานวิจัยแก้ไขความบกพร่องทางการเรียนของเด็ก --- แต่บางคนส่งผลงานแล้วก็สอนแบบเดิมๆ เข้าชั่วโมงให้มันหมดๆไป และยังมีอีกหลายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคน ที่มักยึดความคิดของตัวเอง เด็กต้องตอบแบบนี้ มากกว่านี้ผิด รู้มากไปก็ผิด ต้องรู้เท่านี้ คำถามเหมือนเป็นปลายเปิดแต่เด็กแสดงความคิดเห็นผิด แบบนี้คงจะเจอกันเยอะ เดี๊ยนคิดว่า หากเด็กตอบอะไรนอกกรอบแต่มันเชื่อมโยงกับเนื้อหาที่เรียน มันก็โอเคอยู่นะ ถ้าไม่นับที่ตอบแบบกวนตีน แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องตอบแบบกากบาทอยู่ดี ถูกคือถูก ผิดคือผิด ขาวกับดำ ซึ่งปัจจุบันมันไม่มีแล้วอะไรที่แยกชัดเจน ตอนนี้มันมีแต่สีเทาแล้ว เดี๊ยนแอบดูครูที่สอนบางคนก็เพลีย อะไรก็ไม่รู้
เดี๊ยนไม่รู้ว่าที่เดี๊ยนบ่นๆมามันจะเกี่ยวกับทอปปิคหรือเปล่านะคะ 555
_________________ 
|
Wed Oct 12, 2011 11:52 am |
|
 |
อิลลูมินาติ
FF>>Member Cool

เข้าร่วม: 30 Sep 2010
ตอบ: 4612
|
จริงเเล้วชั้นติดตามนางมาระยะหนึ่งเเล้วนะค่ะ ซึ่งดิชั้นค่อนข้างจะมีความคิดแปลกเเยกจากชาวบ้านมาตั้งเเต่เด็ก เเต่พยามจะไม่เเสดงความต่างออกมามาก เเต่พอมาเจอนางทำให้ดิช้นเก็ทว่า ทำไมละถ้าเรามีจุดยืนมีความคิดต่างเราก็แสดงความคิดมันออกมา โดยไม่ต้องกลัวการตัดสิน แค่ตั้งคำถามขึ้นมา คำตอบจะยังไงก็ช่าง ดิชั้นชอบเเละเห็นว่าการคิดต่าง การเกิดข้อขัดเเย้งมันเป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปะไตยอยู่เเล้ว พอได้คุยกับชีในเพจหรือดูรายการต่างๆ ชีก็มีหลาย partนะค่ะ ทั้ง ฮิโตมิ จากเกียวโตก็อีกรูปแบบหนึ่ง พี่แขกก้อีกแบบ คำ ผกาก็อีกเเบบค่ะ
เเล้วทำไมละปัญหามันไม่ดีตรงไหนค่ะ ถ้าเราไม่กล้าที่จะพูดถึงปัญหาเเล้วหลีกหนีมันคงไม่เกิด นวตกรรมดีๆในโลกหรอกค่ะ ยิ่งมีปัญหายิ่งมีโอกาศค่ะ ดิชั้นกล้าพูดว่าชอบชีอย่างเต็มปากเเละดิชั้นกล้าพูดได้เลยดิชั้นเป็น แดง ค่ะแต่ดิชั้นก็กล้าที่จะเปิดดีเบตกับเหลือง ดิชั้นไม่จำเป็นต้องพูดว่าเป็นกลางเพื่อลดเเรงเสียดทานจากสังคมเลยเพราะดิชั้นมั่นใจในตัวเองแต่ก็มีเพื่อนเหลืองเยอะเเยะ
_________________
|
Wed Oct 12, 2011 12:07 pm |
|
 |
Vixen
FF>>Member Cool

เข้าร่วม: 30 Jun 2007
ตอบ: 1290
|
เพราะคนไม่อยากคิดไงคะ เลยไม่อยากมีปัญหา
_________________ 
|
Wed Oct 12, 2011 12:16 pm |
|
 |
Bitchy
FF>>Member ระดับไฟแรง

เข้าร่วม: 02 Aug 2010
ตอบ: 5527
ที่อยู่: NY, ยอดมงกุฏนังเทพีเสรีภาพ,USA
|
Vixen พิมพ์ว่า:เพราะคนไม่อยากคิดไงคะ เลยไม่อยากมีปัญหา
บทสรุปนึงของคนไทยค่ะ ที่จริงโทษคนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องโทษปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คนคิดไม่เป็น
_________________
|
Wed Oct 12, 2011 6:48 pm |
|
 |
Bitchy
FF>>Member ระดับไฟแรง

เข้าร่วม: 02 Aug 2010
ตอบ: 5527
ที่อยู่: NY, ยอดมงกุฏนังเทพีเสรีภาพ,USA
|
Vixen พิมพ์ว่า:เดี๊ยนมองในฐานะที่เป็นนักศึกษาฝึกสอน (ถึงจะยังสอนไม่จบเพราะติดน้ำท่วมก็ตาม)
เดี๊ยนสอนชั้นป.6 อะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เดี๊ยนมองเด็กแล้วก็ย้อนกลับมามองที่ตัวเอง อย่างหนึ่งที่เด็กสมัยนี้ไม่เหมือนตอนสมัยเดี๊ยน คือ ขาดการเชื่อมโยง เชื่อมโยงว่าทำอันนี้อันนั้นแล้วจะเป็นอย่างไร ก็เกิดผลดีผลเสียแค่ไหน เดี๊ยนไม่ได้ว่าเด็กโง่หรือไม่ฉลาด เด็กบางคนคิดอะไรที่เดี๊ยนคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่อย่างหนึ่งที่กำลังเป็นปัญหาคือ การเชื่อในทางที่ผิด เช่นเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ แต่ไม่ได้คิดว่า ทำแล้วจะล้ำสิทธิ์ของคนอื่นหรือเปล่า เด็กขาดทักษะในการดำรงชีวิตก็อีกเรื่องนึง ตอนนี้คิดกันไม่ได้ว่าจะแก้ปัญหาให้ชีวิตตัวเองอย่างไร คิดแต่ว่าต้องมีคนมาแก้ให้
ระบบการศึกษาก็สำคัญ ถ้าทำสถิติ ประเทศไทยคงติด TOP10 ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษามากที่สุด การใช้หลักสูตรอะไรต่างๆเปลี่ยนบ่อย จนครูผู้สอนก็แอบท้อ ท้อเพราะว่าในระดับชั้นหนึ่งๆ จาก ป.1-ป.6 ควรจะอยู่ในระบบเดียวกัน แต่ปัจจุบัน ของเก่าก็ยังไม่ทันเห็นผล ของใหม่ก็ยังไม่แน่นอน เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ในระดับชั้นนึงก็แทบจะไม่เห็นผลเลยด้วยซ้ำ เรียนมาถึง ป.3 ใชะหลักสูตรนึง พอขึ้นป.4ก็ใช้หลักสูตรใหม่ มันไม่ต่อเนื่องกัน มันจึงไม่เห็นผลและเกิดความเละเทะ ตำราเรียนใหม่ๆถ้าใครมีน้องหรืออะไรว่างๆลองอ่าน เดี๊ยนอ่านหนังสือของเด็กๆในเกือบทุกวิชา แล้วรู้สึกว่า นี่เด็กเรียนอะไรกันวะ เชื่อไหมคะ เด็กป.6 ไม่รู้จักรัชกาลที่ 1 ด้วยซ้ำ ภาษาไทยก็เปลี่ยนตำราอ่านแล้วไม่สนุก คำยากเกินไป (ตอนเดี๊ยนเรียน แก้วกล้าค่ะ ตอนนี้เรียนใบโบกใบบัว คำศัพท์ยากมาก) ถ้าจะมีปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเดี๊ยนก็ไม่แปลกใจ ตอนเรียนวิชาสปช. ก็เรียนรวมๆกัน สมัยนี้เรียนแยกเป็นสังคม วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ นี่ชั้นป.1 นะ เรียนเยอะขนาดนี้ แต่พอเดี๊ยนถามอะไรก็ตอบไม่ได้ ซึ่งหมายความว่า เด็กไม่เกิดการเรียนรู้ใดๆ (การเรียนรู้คือการนำความไปประยุกต์ใช้ได้ และรู้ติดตัวไปจนตาย ถึงจะเป็นการเรียนรู้) สรุปคือ ระบบการศึกษาตอนนี้ เด็กเรียนยากแต่ใช้ไม่เป็น ผลสุดท้ายก็เรียนให้พอผ่านๆเป็นปีๆไป
ผู้ปกครองก็มีส่วน สมัยนี้ก็ยัดลูกมาโรงเรียนแล้วก็จบกันที่บ้านไม่ต้องสอน เพราะถือว่าส่งมาเรียนแล้วก็แล้วกัน ผู้ปกครองไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าลูกฉันมีปัญหาโรงเรียนต้องรับผิดชอบ ซึ่งเดี๊ยนคิดว่า บางอย่างมันเป็นสิ่งที่มันต้องปลูกฝังจากทางบ้าน
ครู บางคนอาจจะเคยเจอที่มาเข้าชั่วโมงไปวันๆไม่ได้สอนอะไรมากมาย เพราะเขาไม่ได้อยากเป็นครู แค่อยากมีเงินเดือนมีเงินใช้ หรืออาจจะเจอพวกแจกใบปลิว (ใบงาน) ทำส่งๆๆๆๆ กลายเป็นเพิ่มภาระให้เด็ก งานเยอะแต่ไม่ได้ความรู้ จบเห่... บางคนก็เอาแต่จะทำผลงานวิชาการปรับเงินเดือนโดยไม่ได้คิดจะนำไปใช้ประโยชน์กับเด็กจริงจัง --- ณ จุดนี้ เดี๊ยนขอบอกว่า ผลงานวิชาการถ้านำมาใช้กับเด็กจริงๆจะมีประโยชน์มาก เพราะมันเหมือนงานวิจัยแก้ไขความบกพร่องทางการเรียนของเด็ก --- แต่บางคนส่งผลงานแล้วก็สอนแบบเดิมๆ เข้าชั่วโมงให้มันหมดๆไป และยังมีอีกหลายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคน ที่มักยึดความคิดของตัวเอง เด็กต้องตอบแบบนี้ มากกว่านี้ผิด รู้มากไปก็ผิด ต้องรู้เท่านี้ คำถามเหมือนเป็นปลายเปิดแต่เด็กแสดงความคิดเห็นผิด แบบนี้คงจะเจอกันเยอะ เดี๊ยนคิดว่า หากเด็กตอบอะไรนอกกรอบแต่มันเชื่อมโยงกับเนื้อหาที่เรียน มันก็โอเคอยู่นะ ถ้าไม่นับที่ตอบแบบกวนตีน แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องตอบแบบกากบาทอยู่ดี ถูกคือถูก ผิดคือผิด ขาวกับดำ ซึ่งปัจจุบันมันไม่มีแล้วอะไรที่แยกชัดเจน ตอนนี้มันมีแต่สีเทาแล้ว เดี๊ยนแอบดูครูที่สอนบางคนก็เพลีย อะไรก็ไม่รู้
เดี๊ยนไม่รู้ว่าที่เดี๊ยนบ่นๆมามันจะเกี่ยวกับทอปปิคหรือเปล่านะคะ 555
ค่ะ คิดเหมือนกันตรงที่ว่าสังคมนี้(ไทย) แบ่งขาวกับดำ โดนไม่สนใจว่าจะมีสีเทาไหม ค่ะ อีห่าทำเหมือนโลกใน เทพนิยาย มันเป็นอิทธิพลไปถึงทุกอย่างค่ะ ทั้งละคร หนัง ดูสิคะ ร้ายก็ร้ายเลย ดีก็ดีเว่อร์ บ้านเรา จนบางครั้งมันก็สร้างมายาคตีแบบเกินมนุษย์ให้มนุษย์ (เพราะโลกนี้มันไม่ได้มีคนที่แบ่งตัวเองชัดเจนขนาดนั้นหรอก) เพราะยังไงเราก็เป็นปุถุชนคนเดินบนปราด้า อีแตะ อะไรก็ว่าไปค่ะ ยังมี รัก โลภ โกรธ หลง ยิ้ม แย้ม แจ่ม ใส จริงมะ?
เรื่องการศึกษาไทยเม้าท์ 3 ชาติก็ไม่จบ ระบบเปลี่ยนจนจะอ้วกค่ะ อีห่า ไร้จุดยืนมาก
เรื่องสอนเอาสอบผ่านก็เหมือนกัน เคยเม้าท์กับครูฝรั่ง ว่าเขามาเป็นครูสอนพิเศษที่บ้านเราได้เงินดีมาก เขาแปลกใจที่สถาบันติวบ้านเราเยอะมากและได้รับความนิยมมาก ทั้งที่บ้านเขาแทบไม่มีเลย แต่ทำไมเวลาถามภาษาอังกฤษ ในคลาส แบบที่ไม่ใช่เรื่องแกรมี่แกรมม่า แต่เป้นเรื่องทั่วไป อย่าง ชอบไปเที่ยวที่ไหน เพราะอะไร ก็ตอบกันไม่ได้ อย่างที่เธอว่ามา การเอาความคิดส่วนตัวมาใส่ในบทเรียน มันทำให้เราอึดอัดมาก คือแบบแทนที่จะให้เปิดโอกาสให้เด็ก แล้วครูไทยหลายคนจะเป็นแบบ จะเรียกว่าอะไรดีอ่ะ ใช้คำว่า"ถือศักดิ์สูงกว่า" ได้มะ แบบฉันถูก เธอเถียงฉันเธอก็จะกลายเป็นเด็กไม่ดี เป็นพวกมารยาททราม บางคนมาสอนศีลธรรมเราอีกอ่ะ แบบพ่อแม่ส่งมาเรียนทำไมไม่เรียน กูไม่โทษเด็กเลยค่ะที่มันไม่เรียนกัน สอนเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ ศีลธรรมไม่สมควรจะนำมาใช้ในชั้นเรียนมากมาย เพราะเมื่อไหร่ที่ทิ้งศีลธรรมลงมา มันก็จะกลายเป็นการปิดโอกาสเด็กด้วยคำว่า "ห้ามเถียงผู้ใหญ่"
การศึกษาที่นี่เรียนไปก็สู้ชาวบ้านเขาได้แค่ในตำราเท่านั้นแหละ เรลไลฟ์มัน...อ่ะนะ
_________________
|
Wed Oct 12, 2011 7:10 pm |
|
 |
Bitchy
FF>>Member ระดับไฟแรง

เข้าร่วม: 02 Aug 2010
ตอบ: 5527
ที่อยู่: NY, ยอดมงกุฏนังเทพีเสรีภาพ,USA
|
AL พิมพ์ว่า: นานๆเข้าบอร์ดมาที บิชชี่ เปลี่ยนไปว์น่ะคร๊ะ
แต่ก่อน เราไม่ค่อยชอบนางคำผกานี่ซักเท่าไหร่ นางดูอีโก้เกินไป เหมือนทำตัวเปนศูนย์กลางจักรวาล
แต่ถ้ามองว่ามันเป็นคาแรคเตอร์นาง ก้อโอเคค๊ะ มองข้ามได้ เจตนาของจิงๆของนางก้อน่าจะกระตุ้นให้คนที่ฟังได้คิดตาม เหมือนพระนางแมรี่บอกแหละ เราว่า
แต่ตอนนี้ชอบนางน่ะ แต่เห็นกระเทยปาล์มด่านางทุกรีเลย ส่วนใหญ่ด่าไฟแหลบ ไล่ไปอยู่ประเทศนั้นนี้
โทษฐานที่เอาความจิง(ด้านลบ)ของประเทศหรือปัญหาสังคมของไทยมาวิจารณ์ผ่านสื่อ
คนที่ต่อต้านนางหรือตั้งแง่อคติกับนาง เราสรุปได้ว่าสั้นๆว่า "คือพวกที่ไม่ยอมรับความจริง"
จะโทษใครได้ล๊ะ? เอ๊ะ ก้อสังคมไทยปลูกฝังมาอย่างนี้นี่นา
มีสื่อมีอะไรบิดเบือนความเป็นจิงมากมาย เหมือนโดนล้างสมองอ๊ะ ดูซ้ำๆเข้า ก้อคิดว่าเรื่องที่ตัวเองดูนั้นมันเป็นเรื่องจิง ซึ่งความจิงมันอาจจะไม่ใช่ความจิงก้อได้ แต่ไม่มีใครกล้าพูดกล้าวิจารณ์ เพราะ? โทษผู้ใดดี เอิม แต่เด็กไทยถูกสอนมาว่าอย่าเถียงผู้ใหญ่ การแสดงความคิดเห็นของ(คนที่อายุน้อยกว่าตน) จะถูกมองว่าเถียงไปในบรรดล ฉันท์ใดก้อฉันท์นั้น และที่สำคัญการที่เอาเรื่องปัญหาสังคมหรืออะไรต่างๆด้านลบของประเทศมาวิจารณ์มาถกเถียง จะโดนมองว่าไม่รักษ์(รัก)ชาติ และถูกด่าสาปส่งต่างๆนาๆ หนักเข้า ไล่ไปอยู่ต่างประเทศก้อมี
ไม่ได้เปลี่ยนจ้าา ยังตอแหลเหมือนเดิม มันแค่เป็นอีกด้านนึงเฉยๆ อิอิ
เบื่อค่ะพวกที่ชอบพูด "ถ้าไม่รักประเทศไทย ได้แต่ด่าก็ไปอยู่ที่อื่นสิ" จะบอกให้นะคะ ที่มีคนออกมาพูด ก็เพราะเค้าอยากให้ที่ที่อยู่กันเนี่ยดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ ปัญหามีให้แก้ไม่ใช่ซ่อน?
_________________
|
Wed Oct 12, 2011 7:16 pm |
|
 |
Bitchy
FF>>Member ระดับไฟแรง

เข้าร่วม: 02 Aug 2010
ตอบ: 5527
ที่อยู่: NY, ยอดมงกุฏนังเทพีเสรีภาพ,USA
|
อิลลูมินาติ พิมพ์ว่า:จริงเเล้วชั้นติดตามนางมาระยะหนึ่งเเล้วนะค่ะ ซึ่งดิชั้นค่อนข้างจะมีความคิดแปลกเเยกจากชาวบ้านมาตั้งเเต่เด็ก เเต่พยามจะไม่เเสดงความต่างออกมามาก เเต่พอมาเจอนางทำให้ดิช้นเก็ทว่า ทำไมละถ้าเรามีจุดยืนมีความคิดต่างเราก็แสดงความคิดมันออกมา โดยไม่ต้องกลัวการตัดสิน แค่ตั้งคำถามขึ้นมา คำตอบจะยังไงก็ช่าง ดิชั้นชอบเเละเห็นว่าการคิดต่าง การเกิดข้อขัดเเย้งมันเป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปะไตยอยู่เเล้ว พอได้คุยกับชีในเพจหรือดูรายการต่างๆ ชีก็มีหลาย partนะค่ะ ทั้ง ฮิโตมิ จากเกียวโตก็อีกรูปแบบหนึ่ง พี่แขกก้อีกแบบ คำ ผกาก็อีกเเบบค่ะ
เเล้วทำไมละปัญหามันไม่ดีตรงไหนค่ะ ถ้าเราไม่กล้าที่จะพูดถึงปัญหาเเล้วหลีกหนีมันคงไม่เกิด นวตกรรมดีๆในโลกหรอกค่ะ ยิ่งมีปัญหายิ่งมีโอกาศค่ะ ดิชั้นกล้าพูดว่าชอบชีอย่างเต็มปากเเละดิชั้นกล้าพูดได้เลยดิชั้นเป็น แดง ค่ะแต่ดิชั้นก็กล้าที่จะเปิดดีเบตกับเหลือง ดิชั้นไม่จำเป็นต้องพูดว่าเป็นกลางเพื่อลดเเรงเสียดทานจากสังคมเลยเพราะดิชั้นมั่นใจในตัวเองแต่ก็มีเพื่อนเหลืองเยอะเเยะ
ใช่ค่ะการพูดแสดงความคิดเห็นเป็นส่วนนึงก็สังคมประชาธิปไตย แต่สังเกตุไหมว่าสังคมไทยโดนอะไรทับไว้ ทำให้คนไม่กล้าอ้าปากพูด อะไรที่มันครอบประเทศนี้ไว้ ปัจจัยนึงก็น่าจะเป็นแบบ กลัวพูดออกมาแล้วไม่มีคนเข้าข้างก็กลัวจะโดนสังคมตัดสิน(ซึ่งสังคมไทยก็ชอบตัดสินคนซะด้วย) และคิดว่ามีปัจจัยอื่นอีกมากมาย
แล้วคนไทยส่วนมากนี่ก็แปลกนะคะ "คิดต่าง แล้วต้องแตกแยก?"
_________________
|
Wed Oct 12, 2011 7:21 pm |
|
 |
HalO_Of_AngelS
FF>>Member ระดับเริ่ด

เข้าร่วม: 22 Mar 2010
ตอบ: 13502
ที่อยู่: ปราสาทชองบอ ประเทศฝรั่งเศส
|
ยาวขะอีห่า อยากอ่านให้หมดนะค้ะแต่เมื่อยสายตามากๆ
_________________
|
Wed Oct 12, 2011 10:25 pm |
|
 |
|