˹���á Forward Magazine

ตอบ

Britney Spears : The Essential Britney Spears :
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Britney Spears : The Essential Britney Spears : 


http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/08/25/britney-spears-the-essential-britney-spears-dance-popelectropoprbteen-pop-90-4-55/comment-page-1/#comment-129

http://www.facebook.com/hysteriaculture

Britney Spears : The Essential Britney Spears : Dance-Pop/Electropop/R&B/Teen Pop (90% = 4.5/5)

เอาจริงๆแล้วเคยประกาศจุดยืนของตัวเองไว้หลายครั้งว่าเป็นคนที่ไม่ชอบเขียนวิจารณ์ถึงงานจำพวก”รีมิ๊กซ์”และ”รวมฮิต”เนื่องจากเป็นอะไรที่ต้องใช้ความรู้สึกล้วนๆในการคำนวณคะแนนมากกว่ามาตรฐานส่วนตัวในการคำนวณที่ค่อนข้างจะยุติธรรมกับศิลปินมากกว่าแต่ถ้าถามว่าชอบฟังงานจำพวก “รวมฮิต” ของศิลปินมั้ยนี่ก็ต้องขอบอกว่า “ชอบค่ะ!” เพราะทำให้เราสามารถรับรู้ถึงจุดเริ่มต้นของศิลปินท่านนั้นๆก่อนจะเป็นทางลัดในการติดตามพัฒนาการและการเจริญเติบโตของศิลปินให้เราได้ความรู้จักกับตัวตนทางผลงานของเขาได้โดยสังเขปแม้จะไม่สามารถสะท้อนหรือฟันธงบ่งบอกถึงทุกสิ่งอันได้อย่างชัดเจนครบถ้วนก็ตามทีเพราะส่วนตัวเชื่อว่าถ้าอยากจะรู้จักกับตัวตนของศิลปินจริงๆในแต่ละสตูดิโออัลบั้มจะสามารถบ่งบอกสภาวะทางความรู้สึกและอัตตะในแต่ละช่วงเวลาของพวกเขาแจ่มชัดกว่า

อย่างไรก็ตามทุกกฏย่อมมียกเว้นนะคะเพราะถ้าวันหนึ่งเราเกิดเจออัลบั้มรวมฮิตดีๆที่ฟังแล้วถูกใจมากๆอยากเขียนถึงสักชุดอันนี้ก็ต้องยกความดีความชอบและผลพลอยได้ให้แก่ศิลปินและตัวอัลบั้มไปอย่างเช่น The Essential Britney Spears ชุดนี้ที่ถูกจริตและฟังได้เพลิดเพลินเจริญใจไหลลื่นมากๆอาจจะเป็นเพราะว่าส่วนตัวดิฉันเป็นแฟนคลับของบริทนี่ย์ที่เหนียวแน่นมาตั้งแต่ยุคแรกๆเลยก็มีส่วนพอได้มีโอกาสหยิบงานชุดนี้มาฟังแล้วมันก็เหมือนกับได้ดื่มด่ำกับเรื่องราวในชีวิตดีๆที่เคยเกิดขึ้นโดยที่มีเสียงเพลงของเธอคลอเคลียไปกับหลากหลายความทรงจำอันแสนสุขของเราหนึ่งในสิ่งที่ชอบในการฟังงานชุดนี้คือได้เห็นเงาสะท้อนของความเป็นบริทนี่ย์ในทุกช่วงเวลาจะว่าไปเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหายเพราะเหมือนกับเพิ่งจะเมื่อวานเองมั้งที่เธอออกอัลบั้ม…Baby One More Timeมาพอฟังจบลืมตาขึ้นมาแล้วมันอารมณ์ประมาณว่า “นี่ฉันกับเธอเราโตมาพร้อมๆกันก้าวผ่านกาลเวลามาเป็นสิบกว่าปีด้วยกันแล้วเหรอนี่!!!” – - นี่ใช่มั้ยคือความผูกพัน?

อย่างไรก็ตามในสิ่งที่เรียกว่า “งานวิจารณ์” เราคงต้องใส่เหตุผลและความยุติธรรมเข้าไปมากกว่าความรู้สึกนะคะเพราะสำหรับคนที่เป็นแฟนคลับบริทนี่ย์ในแง่ของความรู้สึกเมื่อได้ยินงานรวมฮิตจัดเต็มขนาดนี้จากเธอเรื่องความประทับใจก็คงมาเต็ม – - ว่าแต่นี่ Official มั้ยไม่ทราบ? ทำไมดิฉันถึงไม่ทราบข่าวคราวว่าจะมีอัลบั้มนี้ออกมา?นี่นั่งเขียนวิจารณ์โดยไม่ได้เช็คข่าวจริงๆ – - แต่ถามว่ามีอะไรสะดุดในรวมฮิตชุดนี้มั้ย? “ก็ใช่ว่าจะไม่มี!” เพราะ The Essential Britney Spears ชุดนี้เมื่อนำไปเทียบกับ My Prerogative แล้วคงต้องบอกว่าเรื่องพลังและมิติในการเรียบเรียงสู้ไม่ได้จริงๆถึงจะมีเพลงเยอะกว่าและยิงยาวมาถึงบริทนี่ย์ยุคล่าสุดก็ตามทีแต่งานชุดนี้เหมือนกับปล่อยให้ไหลไปเรื่อยเปื่อยตั้งแต่สมัยอัลบั้มแรกขึ้นไปเรื่อยๆเหมือนกับจะปล่อยให้อัลบั้มเรียบเรียงตัวมันเองมากกว่าซึ้งก็โชคดีที่ความเป็นพ็อพของบริทนี่ย์ค่อนข้างโดดเด่นและชัดเจนในอัตลักษณ์ของเธอพอตัวจึงไม่เป็นปัญหาใดๆ เรื่องของเพลงนี่ขนมา “แทบ” จะทุกซิงเกิ้ลฮิตแต่บางเพลงอย่าง Hot As Ice หรือ Out From Under นี่ไม่ทราบว่าท่านผู้เรียบเรียงแทร็คลิสต์ใส่มาทำไม? แต่เพลงที่น่าใส่อย่าง Born To Make You Happy กับ Don’t Let Me Be The Last To Know ดันไม่ใส่หน้าปกรึก็เรียบเนียนเฉิ่มเชยบ้านมากๆสมธรรมเนียม Essential แต่นี่ของระดับเจ้าหญิงเพลงพ็อพทั้งทีคุณ Creative ไม่คิดจะทำให้มันดูมีความน่าดึงดูดสมกับเป็น The Essential ของบริทนี่ย์ สเปียรส์บ้างหรือ? อาร้ายมองไปมองมานึกว่าอัลบั้มใหม่ของ “เฟธ ฮิล” คันทรี่ย์ คันทรี่ย์ค่ะ แต่บ่นซะขนาดนี้นี่ฟังไปไม่รู้กี่รอบแล้วค่ะฟังเพลินมาก เหอๆ

สำหรับพาร์ทช่วงรีวิวแทร็คลิสต์นี้ส่วนตัวขอหยิบมาเฉพาะเพลงที่ชอบและเห็นว่าเป็นไฮไลท์ของบริทนี่ย์จริงๆนะคะ อย่างที่กล่าวไปข้างบนว่าชอบอัลบั้มนี้ตรงที่เป็นเหมือนกับการที่เราได้ย้อนรอยมาติดตามพัฒนาการของบริทนี่ย์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเธอเริ่มด้วยตัวแทนจากอัลบั้ม Baby One More Time สตูดิโออัลบั้มชุดแรกของเธอในปี1999ที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลกนับว่าเป็นอัลบั้มที่ส่งให้บริทนี่ย์ขึ้นสู่การเป็นเจ้าหญิงเพลงพ็อพและเป็นสัญลักษณ์ของทีนพ็อพตลอดจนดนตรียุค90sตลอดกาลจวบจนวันนี้ที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คงจะเป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวที่เป็นไทเทิ่ลแทร็คชื่อเดียวกันกับอัลบั้มอย่าง Baby One More Time (5/5) งานพ็อพเต้นรำสุดทรงพลังอันเป็นหนึ่งในธีมเด็ดและตัวแทนที่สะท้อนวัฒนธรรมของดนตรีทีนพ็อพช่วงปลายทศวรรษ90sได้อย่างดีที่สุดกับงานพ็อพเต้นรำเจือบีทอาร์แอนด์บีกระฉึกกระฉักเจือจางให้อารมณ์เดียวกับความเท่ห์เปรี้ยวปราดกับดนตรีของสารพัดวงบอยแบนด์สมัยนั้นแต่เพลงนี้เด็กผู้หญิงคนเดียวคุมทางอยู่หมัดจนดังระเบิดระเบ้อไปทั่วทุกซอกมุมบนโลกส่งอานิสงส์ให้บริทนี่ย์ สเปียรส์กลายเป็นศิลปินที่มีอิทธิพลที่สุดของโลกไปในชั่วข้ามคืนเช่นเดียวกับวลีเด็ดอย่าง Hit Me Baby One More Time ที่ยังคงความขลังประดับPop Cultureมาจวบจนทุกวันนี้ มาที่ Sometimes (5/5) สลับมาเป็นงานมิดเทมโพใสๆหวานหูละเมียดละไมในแบบฉบับของงานเพลงแบบทีนพ็อพบริสุทธิ์หวานละมุนนุ่มหูที่สำคัญเมโลดี้และท่อนคอรัสของเพลงนี้ไพเราะบรรเจิดมากในแบบฉบับที่ทุกวันนี้มันเป็นอะไรที่หาไม่ได้แล้วในเพลงพ็อพสมัยนี้ ขอยกให้เป็นหนึ่งในเพลงที่ไพเราะที่สุดของบริทนี่ย์! ในส่วนของงานบัลลาดอย่าง From The Bottom Of My Broken Heart (4/5) ก็เป็นงานบัลลาดโชว์พลังเสียงตามธรรมเนียมทีนดิว่าที่ถ้าคริสทิน่ามี Reflection เจสซิก้า ซิมป์สันมี I Wanna Love You ForeverและMandy MooreมีI Wanna Be With You บริทนี่ย์ก็มีเพลงนี้แหละที่เป็นบัลลาดโลโก้ในยุคแรกสุดของตัวเอง

สำหรับอัลบั้มชุดที่สอง Oops! I Did It Again ที่เป็นพัฒนาต่อยอดที่นำเสนอบริทนี่ย์ในภาพลักษณ์ที่เปรี้ยวขึ้นโดยแม้ว่าจะลดทอนความหวานในแบบอัลบั้มที่แล้วลงไปอยู่บ้างแต่งานดนตรีของบริทนี่ย์ก็ยังเป็นงานพ็อพที่ติดหูและขยายฐานไปสู่ความเป็นเมนทสณีมในวงกว้างโดยซิงเกิ้ลเปิดตัว Oops! I Did It Again (4/5) แม้จะไปได้ดีสุดที่อันดับ9บนบิลบอร์ดชาร์ตแต่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่บริทนี่ย์เขย่าบัลลังก์เพลงพ็อพไปทั่วโลกเลยทีเดียว ในส่วนของตัวเพลงแม้จะเป็นสูตรสำเร็จที่แปลงโฉม Baby One More Time สู่ความโฉบเฉี่ยวรับวัฒนธรรมของยุคมิลเลเนี่ยมอันเป็นงานอาร์แอนด์บีพ็อพเต้นรำบีทแสบทรวงสะเด็ดเด่า – - “อาร์แอนด์บีพ็อพ” คืองานพ็อพโดยเนื้อแท้ที่ใส่อิทธิพลของอาร์แอนด์บีผิวสีเข้าไปพอมีกลิ่นหอมไม่เหมือนกับ “พ็อพอาร์แอนด์บี” ที่เป็นงานอาร์แอนด์บีที่บีบความเป็นเมนทสตรีมลงไปสูงจนมีความติดหู ละเมียดละไมและหวานพอรับประทานในแบบพ็อพ” – - ซึ่งถ้าไม่อคติก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงเวลานั้น Oops! นี่ก็ถือว่าเป็นเพลงพ็อพที่โดดเด่นที่สุดแห่งปีทีเดียว ส่วนตัวเรามองว่าพัฒนาการของบริทนี่ย์เริ่มต้นในอัลบั้ม3กับงานชุด “Britney” ที่เธอขยับขยายไปเล่นกับภาคดนตรีที่หลากหลายขึ้นทั้งความเป็นเออร์บันที่สูงขึ้นโดยมีอิทธิพลของความเป็นอาร์แอนด์บีและฮิพฮอพที่ชัดเจนในตัวมากขึ้นตลอดจนความเป็นคลับแด๊นซ์ที่สูงขึ้นในตัวแม้ว่าโดยภาพรวมนจะยังไม่เด่นชัดเหมือนเป็นแค่งานชิมลางเพราะเพลงอื่นๆในอัลบั้มยังคงมีความเป็นทีนพ็อพบับเบิ้ลกัมสไตล์บริทนี่ย์อยู่มากแต่ก็นับว่าปูทางไปสู่อีกหลายงานของเธอในอนาคตได้ดีทีเดียว เริ่มกับ I’m A Slave 4 U (4/5) ซึ่งก็นับว่าฉีกจากความหวานใสของซิงเกิ้ลเปิดตัวทั้งสองเพลงก่อนหน้าสู่ภาคดนตรีเต้นรำที่ร้อนแรงขึ้น จัดจ้านบนความเป็นเออร์บันที่ตลบอบอวนขึ้นตลอดจนจริตและมิติของตัวศิลปินเองที่ดูแพรวพราวมากขึ้นนับเป็นสัญญาณอันดีที่แฟนๆจะร่วมต้อนรับไปกับความเติบโตของเธอในอนาคต I’m Not A Girl,Not Yet A Woman (4.5/5) เพลงประกอบภาพยนตร์จากเรื่อง Crossroads กับงานพ็อพบัลลาดสไตล์อดัลท์คอนเทมโพรารี่ย์บัลลาดเดินเรื่องอย่างเรียบง่ายด้วยเพียโนพลิ้วไสวซึ่งก็นับว่าดูมีหีบห่อกว่าหลายๆงานบัลลาดก่อนหน้านี้ของบริทนี่ย์ทีเดียว สมบูรณ์แบบทั้งในแง่ของเนื้อหา,เสียงร้องและความไพเราะของเมโลดี้ มาที่งานรีมิ๊กซ์ของซิงเกิ้ล Overprotected (4/5) กับฉบับ The Darkchild Remix สุดลือลั่นว่า “ออกมาฆ่าต้นฉบับ” ที่เปลี่ยนเพลงพ็อพเต้นรำธรรมดาๆให้กลายเป็นงานอาร์แอนด์บีพ็อพเปรี้ยวๆจนใกล้เคียงกับงานของพวก Destiny’s Child ซึ่งก็นับว่าบริทนี่ย์ไปกับซาวนด์ของทีมรีมิ๊กซ์นี้ได้ดีทีเดียว ก่อนที่ Boys (The Co-Ed Remix) (4.5/5) ที่ร่วมงานกับ “ฟาร์เรลล์ วิลเลี่ยมส์” ก็นับว่าประกาศศักดาได้ดีสำหรับการขยับขยายไปทำดนตรีคลับแด๊นซ์กลิ่นเออร์บันตลบอบอวนขนาดนี้มาครบเครื่องทั้งอาร์แอนด์บี ฟั้งค์ ฮิพฮอพ เต้นรำ อิเล็คโทรนิคและดิสโก้ซึ่งร้อนแรงมากฝ่ายชายก็เกรียนฝ่ายหญิงก็แสบทรวง ที่เขียนมานี่เพลงดีๆและดังทั้งนั้จะคะแต่ดันสวนทางกับอันดับบนชาร์ตที่เหมือนกับบริทนี่ย์จะโดนสถานีวิทยุแบนในช่วงนั้น (เซ็งเป็ด!)

ในที่สุดก็มาถึงอัลบั้มของบริทนี่ย์ที่ส่วนตัวดิฉันโปรดปรานที่สุดขอยกให้ “In The Zone” ไปชนิดปราศจากข้อกังขาใดๆคือเนื้องานเป็นการระเบิดศักยภาพสูงสุดของบริทนี่ย์จริงๆชนิดแทร็คต่อแทร็คทั้งเอกภาพ วิสัยทัศน์และพัฒนาการทางดนตรีที่ส่วนตัวฟังแล้วถึงกับตบเข่าผาง “มันต้องแบบนี้เส่ะ!” แค่ซิงเกิ้ลเปิดอัลบั้ม Me Against The Music Ft. Madonna (5/5) ที่เป็นการปะทะกันของสุภาพสตรีแถวหน้าจากสองทศวรรษอย่างเจ้าหญิงเพลงพ็อพบริทนี่ย์และราชินีเพลงพ็อพอย่างเจ๊แม่มาดอนน่าแค่นี้ก็นับว่าโดดเด่นมากพอแล้วไม่นับภาคดนตรีที่เป็นงานพ็อพอาร์แอนด์บีเต้นรำสุดเร่าร้อนแถมภาคเนื้อหาที่นอกจากจะเกทับบลัฟ์แหลกกันเต็มที่ยังแฝงสาส์นที่เปรียบเสมือนการสืบทอดส่งต่อบัลลังก์ให้กันอย่างแนบเนียน พวกนี้นี่เข้าใจเล่นกับสัญลักษณ์นะคะ! ต่อด้วย Toxic (4.5/5) ก็นับว่าเป็นอิเล็คโทรพ็อพเต้นรำดีๆที่ขึ้นเป็นหนึ่งใน Dance Anthem ของบริทนี่ย์ไปเป็นที่เรียบร้อยก็นับว่ามีเสน่ห์ไม่ยอกกับการผสานซาวนด์อาร์แอนด์บีสุดเร่าร้อนและมิติของแซมเพิ่ลเครื่องสายที่ชวนให้นึกถึงหนัง 007 ไม่น้อยแต่ทั้งหมดทั้งมวลลงตัวสุดๆ จะว่าไปแล้วแอบเสียดายหลายๆเพลงดีๆในอัลบั้มที่ไม่มีโอกาสได้เป็นซิงเกิ้ล อย่างไรก็ตามการกลับมาอีกครั้งในผลงานชุด Blackout ของบริทนี่ย์หลังจากอัลบั้มนี้แม้จะเป็นอัลบั้มเดียวที่พลาดอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดชาร์ต (ใช่มะ?) อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ชีวิตของบริทนี่ย์พบกับจุดตกต่ำถึงขีดสุดแต่ในแง่ของเนื้องานกลับได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ แฟนคลับและคอดนตรีในวงกว้างว่าเป็น “มาสเตอร์พีซ” ของเธอซึ่งเนื้องานก็นับว่าเป็นการขยับเข้าไปเล่นกับซาวนด์เออร์บันที่ดิบที่สุดแล้วในบรรดาผลงานทั้งหมดทั้งมวลของบริทนี่ย์ที่นับว่านำมาผสานกับดนตรีเต้นรำและอิเล็คโทรนิคก่อนจะระเบิดสู่สาธารณชนผ่านความเป็นเจ้าหญิงเพลงพ็อพของเธอได้อย่างเปี่ยมชั้นเชิงนับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่เราได้มาพบกับซิงเกิ้ลเปิดตัวและซิงเกิ้ลที่ดีที่สุดของบริทนี่ย์สำหรับเราพร้อมๆกันใน Gimme More(5/5) ซึ่งส่วนตัวเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายทีเดียวนะคะเพราะท่ามกลางข่าวเสียๆหายๆและสภาวะทางจิตใจที่เรียกได้ว่าไม่ปกติดีของเธอบริทนี่ย์กลับสร้างมาสเตอร์พีซออกมาได้บี๊ตพวกซิงเกิ้ลเก่าๆได้ชนิดราบคาบตัวเพลงเป็นงานเต้นรำอิเล็คโทรนิคผสมผสานเออร์บันเทคโนที่แซมกลิ่นของฟั้งค์ แอมเบี้ยนท์และอาร์แอนด์บีคลุกเคล้าได้อย่าลงตัว อาจจะดูเรียบนิ่งและลอยละล่องไปบ้างแต่มีฮุคที่สวยทรงพลังและชัดเจนอีกทั้งเป็นการระเบิดด้านที่มืดหม่นของบริทนี่ย์สู่สาธารณชนได้อย่างเหนือชั้น Piece Of Me (4/5) ที่ฟังแล้วในลูกเล่นดนณีอาจจะปฏิเสธไม่ลงว่ามีอิทธิพลและเงาของมาดอนน่าในยุค Music อยู่จางๆแต่ส่วนตัวคิดว่าบริทนี่ย์สามารถฉีกการนำเสนอมาบนแนวทางของตัวเองได้โดยสิ้นเชิงนับว่าเป็นงานอิเล็คโทรพ็อพเต้นรำแรงๆที่เป็นธีมทริบิ้วท์ให้แก่ตัวของบริทนี่ย์เองรอบด้านทั้งเนื้อหาและการนำเสนอ ตามมาด้วย Break The Ice (5/5) ที่ส่วนตัวเป็นหนึ่งในแทร็คที่โปรดปรานที่สุดตลอดกาลของเธอกับการระเบิดศักยภาพสูงสุดบนดนตรีอิเล็คโทรพ็อพเต้นรำคลับแบงเกอร์จัดจ้านผสานทั้งเทคโนเข้ากับบีทอาร์แอนด์บีพฮอพแรงๆตลอดจนตบเอาความเป็นโซลจากเสียงคอรัสกอสเพลมาแซมเพิ่ลไว้ได้ลงตัว เฟี้ยวฟ้าวมากๆ

) มาที่อัลบั้ม Circus กลับการทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งอีกครั้งอย่างสง่างามทั้งตัวและอัลบั้มและเพลง Womanizer (3/5) ที่สามารถขึ้นสู่อันดับหนึ่งของบิลบอร์ดชาร์ตได้อีกครั้งหลังจากทิ้งช่วงห่างจาก Baby One More Time นับ10ปีโดยส่วนตัวค่อนข้างเฉยๆกับเพลงนี้นะคือเป็นอิเล็คโทรพ็อพธรรมดาๆแต่บีทเข้มข้นมากชนิดหัวหมุนแต่ส่วนตัวไม่ได้ปลื้มอะไรมากมายเพราะนอกจากจะเหมือน Keeps Gettin’ Better ของคริสทิน่าที่ล่วงหน้าออกมาก่อนแล้วยังเป็นงานเปิดตัวที่ดิฉันแทบจะเฉยๆที่สุดแล้วของบริทนี่ย์ นี่ดีกว่า Circus (4/5) ไทเทิ่ลแทร็คที่เป็นซิงเกิ้ลตัวถัดมาทรงพลังและเหนือชั้นกว่ากันเยอะกับงานพ็อพเต้นรำที่ผสานอิเล็คโทรนิค บรรยากาศแวดล้อมของธีมละครสัตว์เบรคสวยๆบีทด้วยกีต้าร์อคูสติครวมถึงประโคมบีทอาร์แอนด์บีกระแทกกระทั้นเท่ห์ๆประมาณเจเน็ท เก๋ไก๋เด็ดดวงชนะเลิศ จะว่าไปภาพรวมของอัลบั้มนี้ค่อนข้างจะเป็นเมนทสตรีมพ็อพในแบบ In The Zone แต่ชั้นเชิงดนตรีอ่อนกว่ามาก ล่าสุดกับสตูดิโออัลบั้มชุด Femme Fatale ที่เป็นการหวนกลับมาเล่นกับตลาดเมนทสตรีมที่เป็นอะไรที่พ็อพจ๋าพ็อพแท้ๆพ็อพตล้าด ตลาดอย่างจริงจังเป็นงานอิเล็คโทรพ็อพเต้นรำแกลมความร่วมสมัยของทศวรรษล่าที่สะท้อนวัฒนธรรมดนตรีพ็อพช่วงเวลานี้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบมาครบหมดตั้งแต่ดั๊บสเต็ป ยูโรบีทยันสารพัดสิ่งพึงมีที่ตลาดดนณีพ็อพนิยมเล่นกันในยุคนี้ซึ่ง Hold It Against Me (3/5)และTill The World Ends (4/5) สามารถเป็นตัวอย่างที่ดี

เชื่อว่าขณะนี้เหล่าArmyทั่วโลกคงกำลังตื่นเต้นแถมเค้านท์ดาวน์รอวันที่ 17 กันยายนที่กำลังจะมาถึงนี้พร้อมกันว่าบริทนี่ย์จะมีเซอร์ไพร์สอะไรมาเป็นของขวัญให้แฟนๆ ระหว่างนี้จะรอช้าอะไรเปิด The Essential Britney Spears ชุดนี้แล้วมามีความสุขไปกับเพลงพ็อพของเธอก่อนที่จะมาร่วมตื่นตาตื่นใจไปกับปรากฏการณ์ในการเขย่าอาณาจักรเพลงพ็อพของเจ้าหญิงท่านนี้อีกครั้งไปพร้อมๆกัน


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
GIMME MORE นี่เริ่ดจริงๆนะ คือจำได้ว่าที่บ้านรักบริทรักเพลงของนางทุกคน(ไม่เว้นแม่แต่มารดาบิดาของข้าพเจ้า) จำได้ว่าตอน BLACKOUT ออกมาฟังแล้วมันเป็นอัลบั้มที่ค่อนข้างจัดว่าเพลงแรงปวดโสตประสาทมาก กว่าจะเอาไปเปิดบนรถให้ท่านๆฟังแล้วทำใจอยู่นานกลัวจะรำคาญ แต่พอเจอกินหมี่หมอเข้าไปต๊ายยยย ชอบกันใหญ่ ยกให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ทั้งครอบครัวยกนิ้วให้ มันเริ่ดจริงๆ


โอ้ย...พล่ามยาวเป็น ARTLIFE ไปได้ ใครจะอ่านมันต้องสั้นๆแบบอีเป็ดสินะ Cool


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
badboy_narakmark พิมพ์ว่า:
GIMME MORE นี่เริ่ดจริงๆนะ คือจำได้ว่าที่บ้านรักบริทรักเพลงของนางทุกคน(ไม่เว้นแม่แต่มารดาบิดาของข้าพเจ้า) จำได้ว่าตอน BLACKOUT ออกมาฟังแล้วมันเป็นอัลบั้มที่ค่อนข้างจัดว่าเพลงแรงปวดโสตประสาทมาก กว่าจะเอาไปเปิดบนรถให้ท่านๆฟังแล้วทำใจอยู่นานกลัวจะรำคาญ แต่พอเจอกินหมี่หมอเข้าไปต๊ายยยย ชอบกันใหญ่ ยกให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ทั้งครอบครัวยกนิ้วให้ มันเริ่ดจริงๆ


โอ้ย...พล่ามยาวเป็น ARTLIFE ไปได้ ใครจะอ่านมันต้องสั้นๆแบบอีเป็ดสินะ Cool




ชอบบริทมากๆทุกอยย่างที่เป็นบริท และในความคิดเห็นส่วนตัวกิมมีมอรืนี่คิดสุดยอดมาสเตอร์พีชของบริทจริงๆ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
like like like like like like

ยกนิ้วให้บทความ มีรสนิยม สำนวนดี เป็นกลาง แทรกอารมย์ขัน ปลื้ม


_________________
เสพย์ อ่าน คิด เขียน

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ตอนดู mv gimme more ครั้งแรก ฝานมือถือเพื่อน ถามอีเพื่อนชะนีว่า อีอ้วนผมดำนั่นใครวะ น่ากลัวม๊ากกกก แร้วก้อไม่มีห่าไรเรย รูดเสาทั้งเพลง ตอนท้ายๆอีบ้านี่ถอดเสื้อหนังอีก หลอนมาก มีเอาตูดไปสีกับเสาดั๊วน๊ะ คือถ้าไม่มั่นเนี๊ย...ทำไม่ได้น๊ะ Surprised อีเพื่อนมันก้อตอบว่า นางคือ บิตนี่ (ทีจิงรู้จักชื่อนี้นานมากๆ เคยเห็นผ่านทีวี vios , pepsi แต่จำหน้าไม่ได้หรอก ฝรั่งมันก้อหน้าเหมือนกันหมดอ๊ะ ความรู้สึกในตอนนั้น) หลังจากอีเพื่อนบอกชื่ออีคนร้อง กลับถึงหอรีบเข้าเว็บบิตทอเร้นเรยค่าาา โหลดแบบโหลดทั้งยวงอ่ะคะ มันจะมีบิตที่รวบรวมทุกอัลบั้มอีบิตจาก เว็บไพเรท คริๆ ฟังแร้วถูกจริตมากๆ ฟังแบบไม่ข้าม track เรย ตั้งแต่นั้นมา ก้อตามเป็นติ่งอีหอกมาตลอด จวบจนบัดนี้ เผลอนอกจัยบ้างเปนครั้งคราว คริๆ ตอนนี้เปนติ่งอีติ๊กับอีหมีดั๊ว เรยลดความเปนอาร์มี่ลงเยอะ แร้วตอนนี้ก้อมีแผ่นจิงหลายแผ่นอยู่นะค๊ะแผ่นอัลบั้มอ๊ะ จะตามเก็บแผ่นซิ่งเกิ้ลไม่ไหวจิงๆ บางแผ่นเนี๊ยแถบต้องประมูล Confused ไม่ใช่โหลดเถื่อนอย่างเดว (เด๊วโดนแหกหี) ขาดแค่ บั้ม baby one more time


//me ว๊ายยยยยยยยย ว่าจะพิมพ์สั้นๆ



_________________
You better work, bitch
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ชอบอ่านนะที่มาเขียนวิจารย์หรือความเห็นต่างๆของเจ้าของกระทู้ เพราะตามอ่านมาตลอดเพลินดี ของบริทนีาเห็นด้วยหมดเรื่องเทรคที่เอามาลงด้วย hot as ice and out from under แต่ขัดตรงให้คะแนน I am a slave for u ตรง 4 แล้ว I am not a girl 5 นี่แหละ และ womanizer 3 กับ.circus 4. น่าจะสลับกันนะ


_________________

V A M P I R E ' S D I A R I E S
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email ตำแหน่ง AIM หมายเลข ICQ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com