
Jamie Cullum : Catching Tales : 4/5
รูปแบบเพลง
งานของเจมี่ คัลลัมยืนอยู่ความเป็นแจ๊ซซ์ร่วมสมัยประสานพ็อพซึ่ง อ๊ะๆๆๆๆๆ! ขอร้องอย่าเพิ่งยี้เพียงเพราะเขาทำดนตรีแจ๊ซซ์นั่นอาจจะทำให้คุณพลาดของดีไปอย่างน่าเสียดายเลยทีเดียวอยากบอก งานของตาฮ็อบบิทแจ๊ซซ์คนนี้จากที่ได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าเเป็นโมเดิร์นแจ๊ซซ์โดยผสานลูกเล่นลูกล่อลูกชนและภาคดนตรีที่หลากหลายอย่างพ็อพ ฟังค์กีย์ บริทพ็อพ เรโทร อาร์แอนด์บี อินดี้ไปจนถึงหยิบร็อคและฮิพฮอพมาผสมผสานลงสู่การนำเสนอได้อย่างละเมียดละไม ชนิดที่เรียกได้ว่าหยิบอัลบั้มนี้ขึ้นมาเพียงอัลบั้มเดียวคุณจะได้เปิดรสนิยมทางดนตรีแจ๊ซซ์ที่หลากหลายตั้งแต่แจ๊ซซ์โบราณๆช่วงยุค50ไปจนถึงแจ๊ซซ์ยุคโลกาภิวัฒน์ตามแบบฉบับดนตรียุคฟิวชั่นที่การนำเสนอออกมาโฉบเฉี่ยวมากพอตัวเลยทีเดียว
จุดด้อย
เพียงแค่เอ่ยคำว่า "แจ๊ซซ์" ขึ้นมานี่คงทำให้หลายคนคงหลับก่อนที่จะลองลงไปสัมผัสกับมันจริงๆเสียอีก ยิ่งในกรณีคนไทยนี่เดี๊ยนว่าจับมาฟังแจ๊ซซ์ซัก100คนนี่จะผ่านถึง20คนรึเปล่ายังเป็นประเดนที่น่าคิดเลย ซึ่งวเป็นอะไรที่น่าตกใจนะคะเนื่องจากแจ๊ซซ์เป็นรากฐานของดนตรีทุกประเภทแต่อย่างไรก้ตามต้องทำความเข้าใจอย่างยิ่งยวดด้วยในส่วนของรสนิยมส่วนบุคคลของผู้บริโภค ความเคยชินไปจนถึงต้องตระหนักว่าแจ๊ซซืนี่ไม่ใช่ดนตรีที่เข้าถึงได้ง่ายอยู่แล้วเลยต้องนับเป็นแต้มเสียไปสำหรับบางท่านน่ะค่ะ อีกประเด็นเมื่อฟังอัลบั้มนี้แล้วส่วนตัวเดี๊ยนรู้สึกว่าในเรื่องของเอกภาพนี่สู้งานชุดที่แล้วไม่ได้แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่างานชุดนี้มอบความหลากหลาย ความเป็นธรรมชาติในเนื้องานและความน่าสนใจในการติดตามไปได้อาจจะตลอดรอดฝั่งกว่าซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ตัวศิลปินและผู้ฟังรู้กันดีนะคะในฐานะหัวใจสำคัญของการเสพย์งานดนตรีในระยะยาว
ป.ล. ถ้าจำไม่ผิดอัลบั้มนี้โปรโมตสองซิงเกิ้ลเองอ่ะไม่รู้ว่าแป๊กรึเปล่า แต่เสียดายเพลงดีๆอีกหลายเพลงจัง
ซิงเกิ้ล
Get Your Way (4/5) ซิงเกิ้ลแรกที่ได้ แดน ดิ ออโตเมติคจากGorillazเข้ามาร่วมโปรดิวซ์ซึ่งผลงลัพธ์ออกมา ต๊ายยย!เก๋นะคะเพียโนพ็อพแจ๊ซซ์ยืนพื้นตบด้วยบีทฮิพฮอพ (ค่ะฮิพฮอพค่ะ) ใส่สรรพสำเนียงแบบร็อคและผสานความเป็นสแตนดาร์ดเข้ามาได้อย่างมีชั้นเชิง ฟังครั้งแรกอาจจะรู้สึกแปลกๆนะคะแต่ฟังนานไปนี่เปรี้ยวแรดล้ำเลยทีเดียว ส่วนตัวถือว่าบ่งบอกถึงพัฒนาการทางภาคดนตรีที่สูงขึ้น หลากหลายขึ้น อิสระและน่าสนใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
Mind Trick (3.5/5) ซิงเกิ้ลที่สองและเป็นซิงเกิ้ลปิดตัวของอัลบั้มนี้นะคะ (ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะ) ภาคดนตรีเป็นพ็อพผสานดนตรีฟังค์กีย์และจังหวะจะโคนแบบเรโทรซาวนด์ช่วงยุค70-80 ภาคนำเสนอธรรมดาเรียบง่ายแต่เข้มข้นและเฟี้ยวฟ้าวจนกลายเป็นความเก๋เฉี่ยวบนความธรรมดาๆอย่างน่าดูชม ส่วนตัวรู้สึกว่าเป้นหนึ่งในซิงเกิ้ลที่เพราะและฟังง่ายที่สุดของตาฮ็อบบิทแจ๊ซซ์เลยทีเดียว คิดถุกแล้วค่ะที่ตัดเป็นเพลงขายน่ะ
แทร็คเด็ด
I Only Have Eyes For You (4/5) คัฟเวอร์มาจากเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องFilmในปี1934นะคะ ต้นฉบับขอยอมรับว่าไม่เคยฟังมาที่เวอร์ชั่นของตาฮ็อบบิทเป็นสแตนดาร์ดแจ๊ซซ์บัลลาดช้าๆอารมณ์แบบเพลงที่เล่นโชว์ในคลับแจ๊ซซ์ยุค50น่ะค่ะ เพลงดีแต่ถ้าไม่ใช่คอแจ๊ซซืนี่หลับแน่ขอเตือนไว้ล่วงหน้าด้วยความหวังดี มาที่ London Skies (5) เป็นแทร็คที่เดี๊ยนชอบที่สุดในอัลบั้มนี้นะคะส่วนตัวคิดว่าเป็นเพลงที่สุดยอดและน่าประทับใจมากๆในภาคเนื้อหาที่บรรยายออกมาได้บรรเจิดมีวาทะศิลป์ถ่ายทอดผ่านบนพ็อพเมโลดีย์หวานๆพริ้วๆผสานความเป็นร็อค อินดี้ บัลลาดและแจ๊ซซ์ก่อนที่จะตบด้วยท่วงทำนองบริทพ็อพสวยๆได้อย่างลงตัว เป็นแทร็คที่แทนความงดงาม เยือกเย็น หวานซึ้งสุนทรีย์จับขั้วหัวใจของศิลปินอังกฤษได้ดีเลยทีเดียว ตามมาติดๆกับ Photograph (4/5) โมเดิร์นแจ๊ซซ์หวานๆเพราะๆที่ฟังแล้วติดหูติดใจชะงัด ถ้าใครคิดอยากจะเริ่มฟังโดยจิ้มแทร็คที่เพราะที่สุดก่อนเป็นอันดับแรกล่ะก้ แนะนำแทร็คนี้แล้วจะไม่ผิดหวังค่ะ สำหรับคอพ็อพแจ๊ซซ์ยุค50-70กว่าๆนี่น่าจะชอบ Nothing I Do (3.5/5) ได้ไม่ยาก ภาคดนตรีคละเคล้าไปด้วยพ็อพ ฟังค์ แจ๊ซซ์กับบีบ็อพเข้ากันได้อย่างลงตัว ส่วนตัวคิดว่าภาคการนำเสนอรวมถึงลูกล่อลูกชนค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ต่อด้วย Oh God (4.5/5) กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เริ่ดค่ะ ยืนพื้นที่กอสเพลเสริมทัพด้วยอารมณ์พ็อพโซลอ่อนๆ อาร์แอนด์บีและแจ๊ซซ์ได้อย่างมีชั้นเชิง ภาคการนำเสนอเรียบง่ายแต่ ทรงพลังสุดแล้วในอัลบั้มนี้ ลองฟังดูสิคะ! แทร็คถัดไป Catch The Sun (3/5) ต๊ายยยยยย เริ่ดนะเธอใครจะไปคิดว่าจะได้ยินเพลงพ็อพอินดี้วัยรุ่นจากศิลปินที่แจ้งเกิดด้วยการทำแจ๊ซซ์คนแก่อย่างตาฮ็อบบิทแจ๊ซซ์ ถ้าคิดจะสับรางมาทำพวกอินดี้ ร็อค อัลเทอเนทีฟพวกนี้นี่มีแววรุ่งมากมายนะหล่อน ปิดท้ายด้วย Back To The Ground (3/5) ฟังๆไปก็ตลกดีนะคะเพลงนี้แม้ว่าภาคดนตรีจะโกลาหลไปนิดมีตั้งแต่พ็อพร็อคปะทะสแตนดาร์ดแจ๊ซซ์เพียโนไปๆมาๆเธอก็ไปจิก This Love ของมารูนไฟว์มาแปะไว้กลางเพลงอีกก่อนจะปิดท้ายด้วยการแปลงร้างกลายพันธุ์เป็นฮาร์ดคอร์ตะคอกแผดเสียงก่อนจบอีก อู๊ยยยยยคนอะไรทะเล้นบ้าพลังสุดๆ
สรุป
สำหรับเดี๊ยนอัลบั้มนี้ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในงานของศิลปินยุคใหม่ที่ช่วยสืบสานดนตรีคนยุคเก่ารวมถึงพัฒนาและยกระดับดนตรีเหล่านั้นให้สามารถเป็นสิ่งที่จับต้องและเข้าถึงได้ง่ายสำหรับคนยุคนี้ ซึ่งเหมาะนะคะสำหรับผู้อ่านผู้ที่รักดนตรีแต่อาจจะยังอยุ่ในช่วงเริ่มต้นที่จะไต่ระดับขึ้นไปฟังเพลงที่เข้าถึงยากขึ้นลึกขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคุณๆที่อยากจะลองเริ่มต้นฟังแจ๊ซซ์โดยเริ่มต้นที่งานชุดนี้ก็ถือเป็นการเริ่มที่ดีในการเปิดโลกทัศน์ทางดนตรีของคุณเลยทีเดียว เนื่องจากมีความร่วมสมัย หลากหลายและฟังได้ไม่ยากจนเกินไปถือว่าเป็นการออกกำลังกายทางรูหูที่ดีก่อนที่จะปีนขึ้นไปพบพานกับศิลปินรุ่นใหญ่อีกหลายชีวิตที่มีให้ดาหน้าเข้าไปทำความรู้จักอีกไม่หวาดไม่ไหวนะคะ ดนตรีนี่สวยงามและไม่มีขอบเขตจริงๆ
_________________
