โดยไทม์วิเคราะห์ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ อวตาร แพ้ เดอะ เฮิร์ท ล็อกเกอร์ มีอยู่ 4 ประการด้วยกัน
ประการแรก "วัย" สืบเนื่องจากบรรดากรรมการออสการ์ส่วนใหญ่ล้วนแต่สูงอายุ และชอบดูหนังอยู่ที่บ้าน จึงเหมาะกับหนังอย่าง เดอะ เฮิร์ท ล็อกเกอร์ ในขณะที่อวตาร เป็นตัวแทนของศตวรรษที่ 21 ใช้เทคนิคตระการตาระบบสามมิติ ซึ่งเหมาะสำหรับการไปดูที่โรงภาพยนตร์ ที่สำคัญ คือสร้างมาเพื่อโกยรายได้ในบ็อกซ์ ออฟฟิศ ไม่ใช่หนังยอดนิยมใน HBO
ประการที่สองก็คือ "ไซส์" เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว คณะกรรมการออสการ์ได้แสดงให้เห็นว่า ชอบหนังเล็กๆ แนวดราม่า และไม่น่าจะชอบหนังฟอร์มยักษ์แนวไซไฟ ที่ใช้เทคนิคสร้างโลกใหม่ที่เรียกว่า แพนดอร่า แม้ว่าตามจริงแล้ว อวตารก็มีเนื้อหาในทิศทางเดียวกับเฮิร์ท ล็อกเกอร์ แถมผู้ชมยังเอาใจช่วยตอนตอบโต้พวกทหารที่พยายามจะยึดแพนดอร่าด้วยซ้ำ แต่ในที่สุด คณะกรรมการมองว่า อวตารก็เป็นแค่หนังแนวไซไฟเรื่องหนึ่ง และหนังประเภทนี้ไม่เคยได้รางวัลสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเลย
ประการที่ 3 "เดอะ ช็อก ออฟ เดอะ นิว" เป็นผลพวงจากคณะกรรมการออสการ์ ซึ่งล้วนแต่สูงวัย จึงมักจะต่อต้านความเปลี่ยนแปลง หรืออะไรใหม่ๆ เช่น เมื่อปี 2485 จอห์น ฟอร์ด พาหนังเรื่อง "ฮาว กรีน วอส มาย แวลลีย์" อัน
ของเป็นเรื่องเกี่ยวกับเมืองเหมืองแร่ในเวลช์ คว้าสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และตัวจอห์น ฟอร์ด เองคว้าสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม ปล่อยให้ตัวเก็งอย่าง " ซิติเซ่น เคน " ซึ่งใช้เทคนิคการถ่ายภาพที่แปลกใหม่ต้องอกหักไปอย่างน่าเสียดาย
สาเหตุสุดท้าย " เดอะ กรัดจ์ รีพอร์ท " อาจเป็นไปได้ที่คณะกรรมการออสการ์มีอคติไม่ชอบหน้าคาเมรอน ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นง่ายและขยายออกไปง่ายๆ สำหรับฮอลลีวู้ดแล้ว การลงคะแนนใช้คำว่าชอบ-ไม่ชอบเป็นตัวตัดสิน และอาจมีอาการหมั่นไส้มาเป็นตัวตัดสินเช่นกัน เช่น กรณีของเมอรีล สตรีพ ผู้ได้รับการเสนอชื่อมาถึง 16 ครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้มาตั้งแต่ปี 2526 แล้วก็ตาม ส่วนจอร์จ คลูนีย์ ก็ถูกมองว่าไม่น่าจะให้แก่ผู้ชายที่สุดจะเพียบพร้อม เช่นเดียวกับคาเมรอน ที่ฟันรายได้จากการฉายอวตารทั่วโลก
นอกจากนี้ เว็บไซต์นิตยสารไทม์ ยังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของการเลือกแซวหนังกับนักแสดงที่เป็นดาวเด่น เช่นตอนที่แซนดร้า บูลล็อก พูดถึงจอร์จ คลูนีย์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในสาขานักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยมว่า "ถึงทุกคนที่ไม่มีส่วนช่วยเหลือเธอ รวมทั้งคลูนีย์ ที่จับเธอโยนลงสระ และเธอยังแค้นมาจนทุกวันนี้"
ส่วนเบน สติลเลอร์ ได้แต่งเป็นชาวนาวี มาประกาศรางวัลในสาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยม ทั้งที่อวตารไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแต่อย่างใด ส่วนทีมจากอาร์เจนตินา ที่ได้รางวัลสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ได้ขอบคุณที่ไม่ได้พิจารณาให้ภาษานาวีรวมอยู่ในสาขาภาษาต่างประเทศด้วย
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์อันแสนคลาสสิกของมุกตลกบนเวทีออสการ์ มักจะใช้หนังหรือนักแสดงที่โด่งดังมาช่วยกรุยทางเรียกเสียงฮาจากผู้ชม ส่วนใหญ่เป็นพวกที่ไม่ได้ชม หรืออาจไม่เคยได้ยินชื่อหนังหรือนักแสดงที่ไม่ดัง แต่มีแนวโน้มที่จะได้รับรางวัล เช่น การแซวหนังอวตารที่ทำเงินถล่มทลาย 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในบ็อกซ์ ออฟฟิศ และจอร์จ คลูนีย์ นักแสดงที่เท่ที่สุดในโลก แต่เมื่อคืนวันอาทิตย์ กลับเป็นคืนที่น่าผิดหวัง คลูนีย์ไม่ได้รางวัลกลับบ้าน ขณะที่" อัพ อิน ดิ แอร์" หนังของคลูนีย์ ก็พลาดรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมไปอย่างน่าเสียดาย
ส่วนอวตาร ก็ได้แค่ 3 รางวัล ที่น่าจะได้อยู่แล้ว ขณะที่เจมส์ คาเมรอน พลาดทั้งสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมและภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ แคธรีน บิกาโล่ อดีตภรรยาที่แพ้เขาในคดีฟ้องหย่า กลับคว้าชัยบนเวทีออสการ์ ด้วยการคว้าถึง 6 สาขา จากหนังเรื่อง "เดอะ เฮิร์ท ล็อกเกอร์" รวมถึงรางวัลสำคัญอย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยมด้วย
เหอๆ วิจารณ์ไปต่างๆนาๆเนอะ คิดไปเองเปล่าไม่รู้
Credit :: คมชัดลึก
แก้ไขล่าสุดโดย ++HEM++ เมื่อ Sat Mar 20, 2010 11:52 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
_________________
I am the storm and I am the wonder