˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ถัดไป
แนสทิน่ารีวิวมารายห์ แครีย์ : Emotions
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ แนสทิน่ารีวิวมารายห์ แครีย์ : Emotions 


Mariah Carey : Emotions : 4.5/5

แนสทิน่ากับมารายห์ แครีย์ :

แม้ว่าเดี๊ยนจะไม่ใช่สาวกตัวกลั่นของเธอและไม่ได้มีโอกาสในการหยิบยกผลงานเธอมาวิจารณ์มากนัก (แปลกใจเหมือนกัน ทั้งๆที่ชอบมาก) อย่างไรก็ตาม มารายห์ แครีย์ คือหนึ่งในศิลปินที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งสำหรับชีวิตการฟังเพลงของเดี๊ยน การวิจารณ์ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้กล่าวยกย่องผลงานที่เดี๊ยนประทับใจที่สุดของเธอ ขอขอบคุณพระนางแมรียา และ น.ส เจ้กาหัง ณ ย่างกุ้ง สำหรับแรงบันดาลใจที่น่ารักที่ทำให้อยากรีวิวงานดีๆชุดนี้ ขอบคุณคุณน้อง Popparazzi สำหรับข้อมูลในหลายๆเรื่องโดยที่น้องไม่รู้ตัวหรอกนะคะว่ามีส่วนช่วยให้งานชุดนี้สมบูรณ์ขึ้นมากกว่าประสิทธิภาพที่พี่จะทำคนเดียวได้ ขอมอบรีวิวชิ้นนี้เป็นของขวัญย้อนหลังวาเลนไทน์ให้พวกเธอทั้งสามคน ท่านผู้อ่านและที่สำคัญชาวลูกแกะทุกคนนะคะ

รูปแบบดนตรี :

มารายห์ได้ฉีกตัวเองจากแนวพ็อพบัลลาดเมนต์สตรีมที่สร้างชื่อเสียงและความสำเร็จให้เธออย่างมหาศาลจากอัลบั้มแรก โดยที่อัลบั้มนี้เธอนำเสนอดนตรีในรูปแบบของแนวอาร์แอนด์บี โซล เสริมทัพด้วยดนตรีเต้นรำ กอสเพลและกลิ่นอายแบบบลูส์ โดยภาพรวมของงานยังคงยืนพื้นอยู่ที่ความเป็นพ็อพและดิว่าบัลลาดเช่นเดียวกับอัลบั้มแรกแต่บรรยากาศของเนื้องานต่างกันอยู่พอสมควร (จะเรียกว่าโดยสิ้นเชิงคงไม่ถึงขั้นนั้น) นอกจากนี้เธอยังได้ขึ้นแท่นเป็นโปรดิวซ์เซอร์ของอัลบั้มอีกด้วยหลังจากที่ต้นสังกัดไม่ยอมมอบโอกาสนี้ให้ตอนอัลบั้มแรก นอกจากนี้เจ๊มาลัยยังดื้อแพ่งใส่ต้นสังกัดสุดฤทธิ์ด้วยการไม่รับพิจารณาโปรดิวซ์เซอร์ชุดเก่าจากอัลบั้มแรกตามที่ต้นสังกัดแนะนำโดยครั้งนี้เจ๊ลงมือบินไปจิก Walter Afanasieft คนที่โปรดิวซ์เพลง Love Takes Time จากอัลบั้มชุดแรกให้กับเธอในขณะที่เขากำลังร่วมทัวร์อยู่กับ Michael Boltonเป็นผลสำเร็จจนได้ค่ะ (เลือดดิว่าแรงตั้งแต่เป็นลุคกี้เลยนะตัว) ก่อนที่จะถลาไปหนีบเอา David Cole และ Robert Civillies จากค่าย C&C Music เพื่อมาโปรดิวซ์เพลงอาร์แอนด์บีเต้นรำเก๋ๆที่ได้ยินกันในอัลบั้ม (เพลงเต้นรำในที่นี้ไม่ใช่แดนซ์จ๋านะคะ) ก่อนจะรวมพลังเฮือกสุดท้ายไปลาก Carole King ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับอัลบั้มแรกของเธอ (แนวเพลงบัลลาดกลิ่นอายยุค50น่ะค่ะ) มาร่วมแต่งเพลงสุดทรงพลังอย่าง If It’s Over ด้วยค่ะ (ป้านี่มีบุญนะคะได้ร่วมงานกับอีมาลัย เพราะแม่ผีเสื้อสมุทรยุคนี้ชีเป็นโรคกลัวการร่วมงานกับไม้ป่าเดียวกันน่ะค่ะ)

จุดด้อย :

โดยส่วนตัวคิดว่าเนื้องานในอัลบั้มนี้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบเมื่อเทียบกับทุกอัลบั้มของเธอ สำหรับเดี๊ยนจุดด้อยในงานเพลงของมารายห์คือเธอไม่สามารถนำเสนอเพลงที่มีศักยภาพชวนติดตามได้ทั้งอัลบั้ม พูดง่ายๆคือจากการติดตามฟังงานเพลงของเธอมารู้สึกว่าหลายอัลบั้มของเธอจะมีเพลงที่ดูเป็นเศษเกิน (แบบไม่รู้จะยัดมาทำไม) แม้กระทั่งงานล่าสุดอย่าง “สาวร่านประกาศอิสรภาพ” ก็ยังคงมิมีเสื่อมคลาย ขณะที่งานชุดนี้กลับให้อารมณ์ที่ลื่นไหลต่อเนื่องได้เกือบทั้งอัลบั้ม สำหรับจุดด้อยเท่าที่เห็นจริงๆคือเพลงเร็วในอัลบั้มมีการนำเสนอในรูปแบบที่ค่อนข้างถอดออกมาจากซิงเกิ้ลแรกน่าจะใส่ชั้นเชิงและลูกเล่นที่ให้แต่ละเพลงมีจุดเด่นในตัวเองมากกว่านี้

ซิงเกิ้ล :

Emotion (5) ซิงเกิ้ลแรกและเป็นไทเทิ่ลแทร็ค จากการที่ต้นสังกัดไม่ไฟเขียวให้เจ๊ทำฮิพฮอพ เพลงเต้นรำจึงเป็นตัวเลือกที่สองของมารายห์ โดยเพลงนี้ถุกนำเสนอมาในรูปแบบลูกผสมของโซล อาร์แอนด์บี กับ พ็อพเต้นรำที่มีกลิ่นอายของอิทธิพลดนตรีแบบโซลดิสโก้ (ไม่แน่ใจว่าเป็นที่นิยมในยุคโมทาวน์หรือเปล่า)โดยตัวเพลงได้รับแรงบันดาลใจมากจากเพลง Best Of My Love ของวงดนตรีแนวโซลดิสโก้ The Emotions ที่ต้องชมคือมารายห์สามารถทำให้โลกเห็นถึงความสามารถในการร้องเพลงและเทคนิคการใช้เสียงอันแพรวพราวของเธอทั้งแผด ทั้งหอน ทั้งหวีด ครบสูตร เหนือชั้นจนสามารถคว้าอันดับหนึ่งเป็นเพลงที่ห้าในชาร์ตบิลด์บอร์ดให้เธอสำเร็จจนได้ จริงๆแล้วก่อนหน้านี้เพลงที่จะถูกตัดมาเป็นซิงเกิ้ลแรกคือ You’re So Cold (3.5/5) ซึ่งโปรดิวซ์โดย David Cole และ Robert Civillies รูปแบบดนตรีทำออกมาในรูปแบบเดียวกันแต่เพลงนี้มีทีเด็ดเฉพาะตัวคือช่วงอินโทรมารายห์ใช้ลูกเล่นเสียงแบบคนดำทั้งแผดทั้งหวีด (กังวานและดุสุดๆดูดิบมากๆ) ก่อนที่จะปรับอารมณ์เข้าเป็นเพลงอาร์แอนด์บี พ็อพโซลเหวี่ยงๆมารายห์ร้องได้สะใจมากๆ จริงๆแล้วอยากให้เธอทำเพลงโซลเพียวๆดิบๆไปเลยคงได้ฟังป้าหอนตับฉีกแน่ๆ

Can’t Let Go (3/5) ซิงเกิ้ลที่สองซึ่งมารายห์ยังคงไม่ได้ทิ้งกลิ่นอายงานบัลลาดจากอัลบั้มแรกไปไหน โดยส่วนตัวคิดว่าแม้ความอลังการของตัวเพลงจะเทียบบัลลาดซิงเกิ้ลจากอัลบั้มแรกไม่ได้แต่พัฒนาการในการสื่อให้ผู้ฟังเข้าถึงอารมณืของตัวเพลงเธอทำได้ดีขึ้นมากๆ การันตีได้ดีว่ามารายห์เป็นเซียนในเพลงบัลลาดแบบดิว่าช้ำรักที่ใครๆก็กินเธอลงได้ยากยิ่ง ในซิงเกิ้ลมีเพลง To Be Around You (3/5) ในอัลบั้มแถมเป็นบีไซส์ตัวเพลงก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากเพลงเร็วอื่นๆในอัลบั้มคือเป็นพ็อพผสมโซลอาร์แอนด์บีและดึงกอสเพลมาเป็นสีสัน พร้อมวางขายทันที

Make It Happen (5) ซิงเกิ้ลปิดอัลบั้ม อาร์แอนด์บี พ็อพเริ่ดๆเพลงนี้มารายห์ทำเก๋นำลูกเล่นของกอสเพลเข้ามาใช้ถือว่าแปลกใหม่เพียงพอสำหรับงานเพลงของเธอในยุคนั้น (จนปัจจุบันกลายเป็นเอกลักษณ์ในทุกๆเวทีของเธอ) โดยส่วนตัวเป็นหนึ่งในเพลงที่ชอบที่สุดตลอดกาลของเธอ น่าเสียดายที่ไม่ได้อันดับหนึ่งให้รู้แล้วรู้รอดไป

เพลงอื่นๆ :

If It’s Over (4.5/5) เพลงที่เธอแต่งกับแคโรล คิง ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนแรกป้าแคโรลเสนอให้มาลัยคัฟเวอร์เพลง (You Make Me Feel Like) A Natural Woman ของเธอแต่มาลัยต้องการที่จะมีเพลงเริ่ดๆเป็นของตัวเองมากกว่าโปรเจ็คนั้นเลยพับไป (ดีนะไม่โดนอีด่าเอา) เพลงนี้ทำออกมาในแนวโซลย้อนยุคมีกลิ่นอายบลูส์เข้มๆจากการโชว์พลังเสียงของมารายห์ (โดยส่วนตัวถ้าเทียบกับImpossibleของคริสทิน่าคิดว่ามาลัยออกโซลได้ถึงอารมณ์กว่ามาก) ตอนจบเพลงเล่นเอาขนลุกไปเลย เสียงมารายห์ทรงพลังมากๆใช้เสียงได้อย่างเหนือชั้นสมศักดิ์ศรี The Voice ค่ะ

บัลลาดที่เหลือก็มี And You Don’t Remember (3.5/5) So Blessed (3/5) ที่ตัวเพลงคล้ายๆกับ Love Takes Time คือเป็นพ็อพบัลลาดหวานๆเย็นๆเจือกลิ่นอายบลูส์อ่อนๆ ฟังได้เพลินๆและเพราะด้วย Till The End Of Time (3.5/5) พ็อพบัลลาดเจือสรรพสำเนียงโซลฟูลอาร์แอนด์บี (แบบอ่อนมากๆค่อนไปพ็อพบัลลาดแบบดิว่าโชว์พลังเสียงเลยด้วยซ้ำ) น้ำเสียงเพราะและเซ็กซี่มากๆเป็นบัลลาดสูตรสำเร็จเพื่อสืบเจตนารมณ์อัลบั้มแรกอีกเพลงจากมารายห์

ปิดตัวเก๋ด้วย The Wind (4/5) ไลท์แจ๊ซซ์บัลลาดแบบที่ บลอสซั่ม เดียร์รีย์ (ดิว่าเพลงแจ๊ซซ์ยุค50) ชอบทำ เจ๊ได้แรงบันดาลใจเพลงนี้จากการสูญเสียเพื่อนที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ซึ่งตอนแรกจะนำแรงบันดาลใจนี้ไปเป็นไทเทิ่ลแทร็คโดยใช้ชื่อว่า They Call The Wind Mariah ต๊ายย ยังกับชื่อหนังยอดมนุษย์น่ะค่ะเจ๊

สรุป :

สำหรับเดี๊ยนนี่คืออัลบั้มของมารายห์ที่เดี๊ยนประทับใจที่สุด เนื่องจากเธอสามารถมอบชีวิตให้แก่งานชุดนี้โดยสามารถสื่อความรู้สึกที่สดให้แก่ผู้ฟังและทำให้มันเป็นงานเพลงที่ไร้กาลเวลา โดยคงความเป็นที่นิยมในการหยิบมาฟังได้ทุกยุคสมัย เป็นหนึ่งในสิ่งที่การันตีได้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีดีแค่พลังเสียงหากแต่เป็นศิลปินและคนทำเพลงที่มีความสามารถและพระเจ้าประทานโชคชะตาให้เธอเป็นผู้หญิงที่เสียงดีที่สุดของโลกในขณะเดียวกัน



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ลูกแกะมารายงานตัวค่ะ รีวิวอ่านง่าย ดีค่ะ ชอบๆVery Happy


_________________
" อิเหียก แม่ทุกรี"


Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
รีวิวดีครับ ทั้งที่ ตอนแรกคิดว่า อัลบั้มนี้ น่าจะประมาณ Rainbow ด้วยซ้ำ แต่ไม่นึกว่า เพลงเร็วจะมีส่วนให้เป็นจุดเด่นอัลบั้มนี้น่ะครับ

แต่ขอลองฟังดีกว่า แล้วมารายงานครับ เหอะๆๆ น่าฟัง


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
รู้สึกรักรีวิวอันนี้จัง

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อิเหียก พิมพ์ว่า:
ลูกแกะมารายงานตัวค่ะ รีวิวอ่านง่าย ดีค่ะ ชอบๆVery Happy


แอร๊ยยยยยย ขอบคุณมากเลยนะคะ Cool


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ลุงนีล เทนเนอร์ พิมพ์ว่า:
รีวิวดีครับ ทั้งที่ ตอนแรกคิดว่า อัลบั้มนี้ น่าจะประมาณ Rainbow ด้วยซ้ำ แต่ไม่นึกว่า เพลงเร็วจะมีส่วนให้เป็นจุดเด่นอัลบั้มนี้น่ะครับ

แต่ขอลองฟังดีกว่า แล้วมารายงานครับ เหอะๆๆ น่าฟัง


ขอบคุณมากๆค่ะลุง โดยส่วนตัวคิดว่าต่างจากเรนโบว์อยู่มากค่ะคือเรนโบว์มารายห์จะออกไปทางอาร์แอนด์บีฮิพฮ็อพหนักๆแบบที่ได้ยินกันในยุคปัจจุบันอ่ะค่ะ ที่ใกล้เคียงคือเรื่องของการโชว์พลังเสียงค่ะเน้นแผด ดุ บ้าระห่ำพอๆกันเลยค่ะ โดยส่วนตัวเพลงเร็วอัลบั้มนี้มีส่วนช่วยสร้างศักยภาพที่แข็งขึ้นให้กับอัลบั้มเธอมากกว่าที่จะเป็นนางรองแบบอัลบั้มอื่นๆนะคะ โฮะๆๆๆๆ เริ่ด แนะนำให้ฟังเลยค่ะลุงคิดว่าน่าจะถูกใจนะคะ ลองดูแล้วมาช่วยเสริมความเห็นให้กับเดี๊ยนด้วยนะคะแลกเปลี่ยนความรู้กันค่ะ คิกๆๆๆๆๆ Very Happy


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
BomB--Gates พิมพ์ว่า:
รู้สึกรักรีวิวอันนี้จัง


อ๊ายยยยย ขอบคุณค่ะบอม รออ่านรีวิวเธออยู่เช่นกันนะคะ ห่างหายไปนานมากๆคิดถึงค่ะ Happy


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด อร๊ายยยยยยยยยยยยยยย
หล่อนนี่ย์แรดเลิศที่สุดเรยค่ะ อลังการหรูเลิศบาดแตดเดี๊ยนมากซ์ๆๆ

อัลบั้มนี้ย์ชั้นชอบมากๆเรยยค่ะ จะชอบที่สุดก็ว่าได้
เพลงอีโมชั่นส์ก้อเริ่มเฉยๆนะค่ะ แต่รู้สึกว่ามาลัยเสียงมันแผดจี๊ดจัยมากๆ

ส่วนที่ชอบที่สุดคงเป็น If it's over ค่ะ ยิ่งไลฟ์สด ถึงแม้จะไต่โน้ตหลังท่องบริดจ์ไม่ได้
แต่ท่อนที่ย์ว่า If it's really gone ที่ไหนสักแห่ง มาลัยเกร็งเส้นเสียงได้เลิศมากๆ
ทรงพลังเหลือร้าย สมกับฉายาดีว่า 5 ออกเตฟจิงๆค่ะ แต่เพลงนี้ย์ที่หวีดได้คงเป็นที่แกรมมี่ย์ค่ะ

ขอบคุณมากๆนะค่ะแนส รีวิวอีกได้เป็นเยี่ยงดีย์ สวัสดีย์ค่ะ จุ๊บๆ



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เขียนได้ดีกระชับอ่านง่าย สนุกดีครับ คงทำให้หลายๆคนอยากหยิบอัลับ้มนี้มาฟังอีกเลยหละ Smile


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 6
ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com